สวนดุสิตโพลชี้ จับขั้ว ตั้งรัฐบาล มีแต่เรื่องผลประโยชน์ เพื่อไทยได้ ส.ส. มากสุดควรเป็นแกนนำ คาดพลังประชารัฐตั้งรัฐบาลสำเร็จมีพรรคเล็กเป็นแนวร่วม

ตั้งรัฐบาล / วันที่ 19 พ.ค. สวนดุสิตโพล ได้เปิดเผยผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชนความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศกรณีที่รัฐบาลใหม่ในสายตาประชาชนจำนวน 1,132 คน ระหว่างวันที่ 14-18 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยกรณีกระแสข่าวการรวมกลุ่มของพรรคการเมืองในการจัดตั้งรัฐบาลนั้นพบว่า

ประชาชน ร้อยละ 59.52 มองการเมืองวุ่นวายมีแต่เรื่องผลประโยชน์ขณะที่ ร้อยละ24.48 มองการจับขั้วทางการเมืองยังไม่ชัดเจนยังไม่เห็นข้อสรุปที่แน่นอน ร้อยละ 19.56 ขอให้คำนึงถึงผลประโยชน์ของบ้านเมืองและประชาชนเป็นสำคัญ ร้อยละ 18.10 ขอให้รักษาคำพูด ทำตามสัญญาที่ให้ไว้เมื่อหาเสียง และร้อยละ13.81 ระบุว่ามีการปล่อยข่าวลือสร้างกระแส ควรติดตามอย่างมีสติ

ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยจะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลนั้น พบว่าประชาชนร้อยละ 43.76 มองว่าเป็นพรรคที่ได้เก้าอี้ ส.ส.มากที่สุด ควรได้เป็นฝ่ายจัดตั้งรัฐบาล ขณะที่ร้อยละ 39.59 ระบุว่าขึ้นอยู่กับการจับขั้วทางการเมือง ต้องดูจากคะแนนเสียงที่ได้ ร้อยละ 20.92 ระบุว่าไม่น่าจะรวบรวมเสียงข้างมากได้ ไม่น่าจะได้เป็นรัฐบาล

สำหรับกรณีที่พรรคพลังประชารัฐจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล พบว่าประชาชนร้อยละ 46.03 ระบุว่ามีโอกาสจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ มีพรรคเล็กเป็นแนวร่วม ร้อยละ 35.44 มีอำนาจต่อรองทางการเมืองสูง เป็นรัฐบาลชุดปัจจุบัน และร้อยละ 31.26 ขอให้การจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปด้วยความโปร่งใส ยุติธรรม

ส่วนกรณีพรรคขนาดกลาง อาทิประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย อนาคตใหม่ จะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลนั้น พบว่าประชาชนร้อยละ 50.47 มองว่าน่าสนใจน่าจะบริหารบ้านเมืองได้ อยากเห็นการเปลี่ยนแปลง ร้อยละ36.84 ระบุเป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้ขอให้เป็นไปตามกฏหมายที่กำหนดร้อยละ16.02 ระบุว่าคงเป็นไปได้ยากคะแนนเสียงที่มีอาจไม่พอ

เมื่อถามว่าพรรคใดน่าจะจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ พบว่าประชาชนร้อยละ 51.54 ระบุว่าพรรคพลังประชารัฐ เพราะเป็นพรรคใหญ่ มีอำนาจต่อรอง มีจำนวน ส.ส. มาก ได้รับเสียงสนับสนุนจาก 11 พรรคที่มีแนวโน้มว่าจะจัดตั้งรัฐบาลได้ ร้อยละ 35.93 พรรคเพื่อไทย เพราะเป็นพรรคที่มีประสบการณ์ ชนะการเลือกตั้ง มี ส.ส. มากที่สุด มีหลายพรรคให้การสนับสนุน แต่ขึ้นอยู่กับการเจรจา

ร้อยละ 12.53 พรรคขนาดกลาง เพราะสถานการณ์ทางการเมืองไม่แน่นอน อาจมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแต่ละพรรค

เมื่อถามว่าการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ จะประสบปัญหาอะไรบ้าง ร้อยละ 40.82 ระบุว่า คือความขัดแย้ง คัดค้าน ต่อต้านจากฝ่ายตรงข้าม ร้อยละ 35.42ความไม่ชอบมาพากล ไม่เป็นธรรม ร้อยละ 26.67 การจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรี โควต้าไม่ลงตัว สำหรับทางออกในการจัดตั้งระฐบาลให้สำเร็จ

ร้อยละ 52.53 ระบุว่า ยึดหลักการ เป็นไปตามหลักประชาธิปไตย ปฏิบัติตามกฎหมาย ร้อยละ 55.38 ควรเคารพการตัดสินใจของประชาชน รับฟังเสียงส่วนใหญ่ และร้อยละ 21.48เป็นการจัดตั้งรัฐบาลที่ถูกต้อง ทุกฝ่ายให้การยอมรับ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน