‘จุรินทร์’ ยันข้อตกลงจบตั้งแต่ร่วมรัฐบาลแล้ว! หวังไม่โดนเบี้ยวแก้รัฐธรรมนูญ หลัง พลังประชารัฐ หัวหมอ! ดึงโควต้ารัฐมนตรีจัดใหม่

เมื่อเวลา 13.15 น. วันที่ 6 มิ.ย. ที่อาคารสำนักงานใหญ่ทีโอที นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เตรียมดึงโควต้ารัฐมนตรีไปจัดใหม่ว่า ต้องถามพรรคพลังประชารัฐเพราะเขาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

เมื่อถามว่าพรรคพลังประชารัฐระบุการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องรองจากการจัดคณะรัฐมนตรี ทำให้ดูเหมือนข้อเสนอของพรรคประชาธิปัตย์ จะไม่ได้รับการผลักดันให้เกิดขึ้นโดยเร็ว นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องไปถามพรรคพลังประชารัฐ อาจเป็นเรื่องภายในของพรรคเขา แต่ระหว่างพรรคขอเรียนว่ามีข้อยุติแล้ว ดังนั้น คงเป็นไปตามนั้น ยังเชื่อมั่นว่าจะเป็นไปตามที่ได้คุยกัน

ถามว่าหากไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้จะตัดสินใจอย่างไร นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่อยากพูดไปก่อน เพราะยังคิดว่าจะเป็นไปตามที่เจรจากันไว้ และได้พูดคุยกันมาเป็นระยะเวลานานพอสมควร จนกระทั่งทุกอย่างลงตัวทั้งหมดแล้ว

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อนต่อข้อถามว่าหากพรรคพลังประชารัฐดึงเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญออกไปเรื่อยๆ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เมื่อกำหนดเป็นนโยบายรัฐบาลแล้ว ก็มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามรายละเอียด เรื่องเงื่อนไขเวลาอื่น ๆ เป็นเรื่องต้องคุยกันต่อไป ส่วนเงื่อนเวลาที่ต้องทำเ 6 เดือนหรือ 1 ปี ก็ต้องนำไปคุยกันในนโยบาย เพราะจะมีรายละเอียดที่เป็นตัวกำหนด แต่ไม่ควรช้า ทั้งนี้ หลักใหญ่การแก้รัฐธรรมนูญเพื่อนำสู่ประชาธิปไตยมากขึ้น เป็นเงื่อนไขหนึ่งที่ได้ตกลงเรียบร้อยแล้วในเรื่องการร่วมรัฐบาล

ถามถึงกรณี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ลาออกจากส.ส. โดยอ้างคำขวัญของพรรค นายจุรินทร์ กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์แจ้งให้ทราบก่อนแล้ว และได้พยายามยับยั้ง แต่สุดท้ายท่านบอกว่าตัดสินใจแล้ว เราต้องเคารพความเห็นของท่าน สำหรับคนที่ยังมีหน้าที่ก็ต้องปฏิบัติภารกิจนำพาพรรคเดินหน้าต่อไป ส่วนนายอภิสิทธิ์พูดว่าสัญญาประชาคมสำคัญกว่ามติพรรคนั้น ก็เป็นความเห็นของท่าน ก็ต้องเคารพ ส่วนพวกตนก็มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามมติพรรค

ต่อข้อถามว่าได้มีการพูดคุยเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาภาพลักษณ์ของพรรคหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า พรรคต้องมีหน้าที่นำพาพรรคฟันฝ่าอุปสรรคและปัญหาทั้งหลาย โดยร่วมมือร่วมใจเดินหน้าไปสู่การยอมรับของประชาชนมากขึ้นในอนาคต ถือเป็นภารกิจของกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ชุดใหม่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน