“พิชัย” ชี้ “บิ๊กตู่” ทำผิดยุทธศาสตร์ชาติ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ย้ำแม้ ศก.ไทยยังไม่ถดถอยแต่รายได้คนไทยถดถอย

เมื่อวันที่ 5 ก.ย. นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน กล่าวว่า หากจำกันได้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม โจมตีนโยบายประชานิยมตั้งแต่เริ่มทำปฏิวัติรัฐประหาร อีกทั้งได้ยกเรื่องนี้เป็นเหตุผลหนึ่งของการปฏิวัติรัฐประหาร ตอนร่างรัฐธรรมนูญใหม่ยังบอกจุดประสงค์ชัดเจนว่าป้องกันไม่ให้มีประชานิยม เพื่อป้องกันประเทศล่มจมจากการแจกเงิน ถึงกับต้องวางยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และมีคณะกรรมการยุทธศาสตร์ขึ้นมา เพื่อกำกับไม่ให้มีการแจกเงินสะเปะสะปะ

จะเห็นได้ว่าตลอด 3-4 ปีแรกของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์แทบจะไม่ช่วยเหลือประชาชนเลย จ่ายเงินช่วยประชาชนน้อยมาก ประชาชนเดือดร้อนกันมาก แต่พอใกล้จะเลือกตั้ง รัฐบาลกลับแจกเงินแบบอีลุ่ยฉุยแฉก โดยเฉพาะบัตรคนจน และหลังเลือกตั้งยิ่งแจกเงินมากขึ้น จึงอยากถามว่านี่เป็นการแจกเงินที่แย่ยิ่งกว่าประชานิยมใช่หรือไม่

ฝากถามไปยังคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ว่าการดำเนินการดังกล่าวผิดจากยุทธศาสตร์ชาติที่วางไว้ใช่หรือไม่ อยากให้พรรคฝ่ายค้านยื่นเรื่องให้คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติพิจารณา เพื่อหยุดการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐบาลตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ เพราะเชื่อว่าหากเป็นพรรคฝั่งตรงข้ามได้เป็นรัฐบาล ป่านนี้อาจจะถูกคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติสั่งหยุดบริหารประเทศแล้ว

นายพิชัย กล่าวต่อว่า นอกจากรัฐบาลจะแจกเงินอย่างมโหฬาร ที่ล่าสุดแจกกว่า 3 แสนล้านบาทแล้ว และยังจะแจกเพิ่มอีก แต่การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยกลับยังต่ำมาก และเติบโตต่ำมาตลอด ไม่ได้ขยายตัวถึงปีละ 5 % ตามที่ยุทธศาสตร์ชาติกำหนดไว้ และไม่เคยถึงปีละ 5 % เลยตลอด 5 ปีกว่าที่ พล.อ.ประยุทธ์บริหารประเทศมา โดยเศรษฐกิจขยายตัวเฉลี่ยเพียงปีละประมาณ 3 % เท่านั้น

รวมถึงปีนี้ด้วยที่อาจจะขยายตัวต่ำลงอีก ประเทศที่กำลังพัฒนาแบบไทยหากขยายเศรษฐกิจได้ไม่ถึง 5 % ต้องถือว่าติดลบและล้มเหลว หลักการนี้สามารถสอบถามจากนายวีรพงษ์ รามางกูร อดีตรองนายกฯ และ อดีตรมว.คลังได้ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงต้องกำหนด 5 % ไว้ในยุทธศาสตร์ชาติ

รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์สอบตกมาตลอด 5 ปีกว่าที่บริหาร และมีแนวโน้มจะสอบตกล้มเหลวต่อไปอีกตลอดเวลาที่ยังคงบริหารประเทศต่อ ซึ่งถ้าหากจะอยู่ครบ 8 ปีจริงตามที่หมอดูที่รัฐบาลจ้างมาให้เป็นข้าราชการการเมืองทำนาย ประเทศไทยจะยิ่งล้าหลังและล้มเหลวแน่นอน

“อย่าได้สงสารพล.อประยุทธ์ ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ร้องขอเลย ให้สงสารประเทศไทยและคนไทยมากๆ จะดีกว่า เพราะประชาชนจะยิ่งลำบากกันอย่างมาก การที่พล.อ.ประยุทธ์สั่งทุกหน่วยงาน รวมถึงนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ให้ออกมาบอกว่าเศรษฐกิจไทยยังไม่ถดถอยนั้น ก็เป็นเรื่องจริง เพราะหากดูตัวเลขจีดีพีที่ยังเป็นบวกไม่ติดลบ แม้จะบวกน้อยลงมากเหลือแค่ 2.3% เท่านั้น

แต่ถ้าหากวัดจากรายได้ประชาชนส่วนใหญ่ที่ลดลงมาตลอด ก็ต้องบอกว่าเศรษฐกิจคนไทยถดถอยมา 5 ปีแล้ว และที่เศรษฐกิจของไทยโดยรวมขยายตัว รายได้ที่เพิ่มก็ไปเพิ่มเข้ากระเป๋านายทุนและมหาเศรษฐีที่สนับสนุนรัฐบาลเท่านั้น ประชาชนจึงรู้สึกว่าเศรษฐกิจไทยถดถอย ซึ่งคงปฏิเสธยาก เพราะเงินในกระเป๋าประชาชนลดลงมาหลายปีติดกัน

จนทำให้หนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นสูง เศรษฐกิจไทยยังไม่มีแนวโน้มฟื้นตัว เพราะเศรษฐกิจโลกยังอาจจะชะลอตัวลงอีกได้ ต่างกับที่พรรคพลังประชารัฐทั้งหัวหน้าพรรคและรองโฆษกพรรคพยายามให้ข้อมูลไม่ถูกต้องกับประชาชน ที่บอกว่าเศรษฐกิจไทยกำลังจะฟื้น ถือว่าเป็นการปล่อยเฟกนิวส์หรือไม่”นายพิชัย กล่าว

นายพิชัย กล่าวอีกว่า อยากให้พล.อ.ประยุทธ์ได้ไปศึกษาแนวคิดของนายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของธนาคารไทยพาณิชย์ ที่ล่าสุดออกมาเตือนว่าธนาคารไทยพาณิชย์ต้องเร่งปรับตัวอย่างรวดเร็วและรุนแรง เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีของโลก และพฤติกรรมของผู้ใช้บริการธนาคารที่เปลี่ยนไป ไม่เช่นนั้นจะเป็นกบต้มตายคาหม้อ ประเทศไทยก็เช่นกัน

หากไม่เร่งปรับเปลี่ยนวิธีการคิดและวิธีการดำเนินการอย่างรวดเร็วและรุนแรง ใช้วิธีคิดแบบเก่าๆ วิธีทำแบบเดิมๆ ย้อนหลังไป 30 ปี ทำทุกวิธีที่จะสืบทอดและรักษาอำนาจ แบบที่สื่อต่างประเทศวิจารณ์ ประเทศไทยจะตกยุค และกลายเป็นกบต้มตายคาหม้อเร็วมาก

และสงครามการค้าและภาวะเศรษฐกิจโลกที่อาจจะตกต่ำจนถึงถดถอยได้ จะเป็นเหมือนการเร่งไฟให้กบสุกและตายเร็วขึ้น ทั้งนี้ ต้องขอร้องพล.อ.ประยุทธ์ว่า อย่าได้แจ้งจับประธานเจ้าหน้าที่บริหารของธนาคารไทยพาณิชย์ไปดำเนินคดี เพราะพูดเรื่องกบต้มเหมือนที่ตนเคยพูดเลย เพราะทฤษฎีกบต้มนี้มีอยู่จริง ที่พล.อ.ประยุทธ์อาจจะไม่มีความรู้ จึงส่งคนมาดำเนินคดีกบต้มกับตน


 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน