รองโฆษก พลังประชารัฐ เย้ย ปิยบุตร อ่านตำรากฎหมายใหม่ ซัดน่าอับอาย ชี้ไม่ยอมรับมติกกต. เป็นตัวอย่างไม่ดีของนักการเมือง

วันที่ 13 ธ.ค. น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)กล่าวถึง นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แถลงไม่เห็นด้วยกับมติคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรค จากกรณีที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค ปล่อยเงินกู้ให้พรรค ว่า ข้อสงสัยของนายปิยบุตร อาจจะไม่อยู่บนหลักเหตุผลของกฎหมาย ไม่พิจารณาจากข้อเท็จจริงและชี้นำสังคมเพื่อกล่าวหาองค์กรอิสระที่มีหน้าที่ตรวจสอบความโปร่งใสของนักการเมือง

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

น.ส.ทิพานัน กล่าวต่อว่า ซึ่งตามพรป.พรรคการเมือง มาตรา 62 กำหนดแหล่งรายได้ของพรรคการเมืองไว้ชัดเจนว่ามี 7 ประเภท คือ 1.เงินทุนประเดิม 2.เงินค่าธรรมเนียมและค่าบำรุงพรรค 3.เงินที่ได้จากการจำหน่ายสินค้าหรือบริการ 4.เงิน ทรัพย์สิน และประโยชน์อื่นใดที่ได้จากการจัดกิจกรรมระดมทุน 5.เงิน ทรัพย์สิน และประโยชน์อื่นใดที่ได้จากการรับบริจาค 6.เงินอุดหนุนจากกองทุน และ 7.ดอกผลของเงินดังกล่าว

น.ส.ทิพานัน กล่าวอีกว่า ส่วนเงินกู้ไม่ได้อยู่ใน 7 ประเภท จึงเป็นเงินนอกกฎหมาย เป็นเงินที่มีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะไม่มีกฎหมายข้อใดอนุญาตให้ทำได้ ดังนั้นที่กกต.มีมติว่าเงินกู้ยืม 191 ล้านบาทเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนมาตรา 72 จึงเป็นการวินิจฉัยที่ถูกต้องแล้ว นายปิยบุตรไม่ควรยึดติดมาตราตามพรป. พรรคการเมือง 2550 ซึ่งเป็นกฎหมายเก่าที่ยกเลิกไปแล้ว

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า นายปิยบุตรควรทำความเข้าใจว่าตามพรป. พรรคการเมือง 2560 ระบุถึงแหล่งเงินที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย คือรวมทั้งเงินนั้นได้มาจากการฟอกเงิน คอร์รัปชัน การขายยาเสพติด หรือปล้นมา และยังรวมไปถึงเงินอื่น เช่น เงินที่มีแหล่งรายได้นอกเหนือ 7 แหล่ง เงินบริจาคที่เกิน 10 ล้านบาทต่อปี เงินที่รับมาจากบุคคลที่ไม่มีสัญชาติไทย

รองโฆษก พปชร. กล่าวอีกว่า ดังนั้นการไม่ยอมรับมติกกต. จึงเป็นที่น่าอับอายของนักกฎหมายที่มีความเชี่ยวชาญสูงในสาขามหาชน และควรกลับไปทบทวนอ่านหนังสือความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับกฎหมายทั่วไป ของ นายหยุด แสงอุทัย ก่อนที่จะมาตัดสินกกต.หรือใครว่าสอบตกหรือสอบผ่าน ส่วนที่สงสัยว่ากกต.เร่งรัดคดีจนผิดสังเกต เป็นการชี้นำสังคมและแทกติกการเมืองที่ไม่ใช่ตัวอย่างที่ดี เพื่อกล่าวหาองค์กรอิสระที่มีหน้าที่ตรวจสอบความโปร่งใสของนักการเมืองหรือไม่ เพราะกกต. ได้รับคำร้องตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา และขอเอกสารเพื่อพิจารณา แต่พรรคอนาคตใหม่กลับเพิกเฉยบ่ายเบี่ยงไม่ส่งพยานหลักฐานเอกสารและขอขยายเวลาเรื่อยมา

“ในฐานะนักกฎหมาย นายปิยบุตรต้องทราบดีว่า องค์กรอิสระที่ทำหน้าที่ตรวจสอบ ไม่ควรให้กระแสสังคมเป็นเครื่องชี้นำ กกต. ต้องทำตามหน้าที่คือพิจารณาตัดสินตามข้อตัวบทกฎหมายและพยานหลักฐานเอกสารต่าง ๆ และในฐานะนักการเมือง นายปิยบุตรควรยอมรับฟังความเห็นต่างด้วย ไม่ควรแนะให้คนอื่นเห็นตามตนเองและผู้สนับสนุนของตนเองเท่านั้น เมื่อทีมฟุตบอลของนายปิยบุตรทำฟาล์วเพราะอ่านกติกาผิดเล่ม แทนที่จะเล่นในเกมต่ออย่างสมศักดิ์ศรี แต่ใช้แทกติกพุ่งล้ม ทำออฟไซด์ ให้ผู้ชมเห็นว่าการที่กรรมการเป่าเตือนหรือตัดสินเป็นเพราะกรรมการกลั่นแกล้ง พอผลแข่งแพ้ก็โทษกรรมการไม่ยุติธรรม ถือว่าไม่เคารพกติกา ไร้น้ำใจนักกีฬา เล่นไม่สมศักดิ์ศรี ไม่เคารพแฟนฟุตบอลที่สนับสนุนทีม หากทำต่อไปคงจะมีเพียงกลุ่มฮูลิแกนที่สนับสนุนเท่านั้น” น.ส.ทิพานัน กล่าว

_________________________________________

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน