ก้าวไกล – วันที่ 4 มิ.ย. พรรคก้าวไกล ได้โพสต์ถึงการโอนงบของกระทรวงกลาโหม ระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่างพ.ร.บ.โอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. …. วาระแรก ระบุว่า

ตัดแบบไม่ตัด! เล่นแร่แปรธาตุแหกตาประชาชน กลาโหมไม่จริงใจในการตัดงบมาสู้โควิด-19 อย่างไรบ้าง? ]

วันนี้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่างพระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่ายของกระทรวงต่างๆ เพื่อไปตั้งไว้เป็นงบกลาง รายการเงินสำรองรายจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเพิ่มเติม โดยมีมูลค่ารวมกว่า 8.8 หมื่นล้านบาท เพื่อต่อสู้กับวิกฤตโควิด

ประเด็นที่น่าสนใจคือกระทรวงกลาโหม หากเรามองผิวเผินก็จะเห็นว่าเป็นกระทรวงที่ตัดลดงบประมาณและโอนคืนส่วนกลางมากที่สุดกว่า 1.7 หมื่นล้านบาท! ฟังแค่นี้ก็เหมือนว่าประชาชนจะเป็นหนี้บุญคุณกระทรวงกลาโหมซะอย่างนั้น แต่เมื่อไปดูรายละเอียดก็จะพบว่าทั้งหมดที่ทำมานี้ “ไม่จริงใจ” ได้แก่

1.ไม่เข้าเนื้อ : ปกติการคิดประสิทธิภาพของหน่วยงานใดๆ สามารถดูได้จากเปอร์เซ็นต์ในการเบิกจ่ายงบประมาณ ซึ่งโดยค่าเฉลี่ย กระทรวงกลาโหมถือว่ามีการเบิกจ่ายประมาณ 80% จากงบประมาณประจำปีที่ได้รับการจัดสรรไว้ นั่นหมายความว่าการตัดงบกลาโหม 1.7 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 7.8% ครั้งนี้ ไม่ได้เข้าเนื้ออยู่แล้วเพราะปกติก็ไม่ได้เบิกจ่ายงบประมาณไปเกือบ 20% อยู่แล้ว

2.ดาวน์น้อยผ่อนหนัก : แต่เดิม มติ ครม. กำหนดให้ในปีแรกหน่วยงานต้องจ่ายงบลงทุนในโครงการต่างๆ 20% ของงบประมาณที่ใช้ทั้งหมดซึ่งเป็นงบผูกพันข้ามปี และสภาไม่สามารถเข้าไปยุ่งกับงบผูกพันข้ามปีได้

ที่ทำแบบนี้ก็เพื่อไม่ให้ปีแรกมีการลงทุนในงบผูกพักมากเกินไป หรือน้อยเกินไปโดยจงใจเพื่อปักธงโครงการเอาไว้ เช่น ใส่งบลุงทุนปีแรกไปแค่ 1% แต่อ้างว่าเป็นงบผูกพัน สภาจึงไม่สามารถเข้าไปตัดโครงการเหล่านี้ได้ตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้

แต่มติ ครม. ใหม่ กำหนดให้ลดงวดแรกเหลือ 15% ที่แย่ยิ่งกว่านั้นคืองบจำนวนไม่น้อยที่กระทรวงกลาโหมยอมตัดออกนั้นถูกตัดจากการใช้เทคนิค “ดาวน์น้อยผ่อนหนัก” ซึ่งเป็นกระทรวงเดียวที่จ่ายเงินงวดแรกแค่ 10% ซึ่งเป็นการฝืนมติ ครม. ที่กำหนดไว้ที่ 15% และแท้จริงแล้วก็เท่ากับว่าไม่ได้อะไรออกไปมากมาย

เพราะจะต้องไปเบียดบังเพิ่มภาระให้งบประมาณในปีถัดๆ ไปอยู่ดีอันเนื่องจากเป็นงบผูกพันที่สภาจะเข้าไปตัดเข้าไปยุ่งอะไรไม่ได้เลย มีเพียง 6 จาก 30 โครงการเท่านั้นที่กลาโหมยอมตัดออกในปีนี้(แต่ก็ไม่รู้ว่าปีหน้าจะกลับมาอีกหรือไม่)

หากยอมถอยโครงการในปีนี้ จะได้เงินเพิ่ม 2.2 พันล้านบาท ที่สามารถเอาไปเปลี่ยนเป็นเงินเยียวยาประชาชนได้เพิ่มอีก 4.4 แสนคน หรือเอาไปเป็นวัคซีนให้ประชาชนได้อีก 2.2 ล้านคน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมติ ครม. เอง แต่กระทรวงกลาโหม (ที่ก็มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นรัฐมนตรีเช่นกัน) กลับเป็นกระทรวงเดียวแหกมติ ครม. เสียเอง นี่ไม่ใช่การ “เขียนด้วยมือลบด้วยเท้า” หรือ?

สรุปแล้วกระทรวงกลาโหมที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นเจ้ากระทรวงนั้น มีความจริงใจในการตัดลบงบประมาณที่ไม่จำเป็นมาช่วยเหลือประชาชนจากภัยโควิดมากน้อยแค่ไหนกันแน่? หรือนี่คือการเล่นแร่แปรธาตุแหกตาประชาชนไปวันๆ?

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน