วันที่ 27 ก.ค. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงกรมบังคับคดีอายัดเงินฝากในธนาคารของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า ต้องเข้าใจก่อนว่ามีอยู่หลายคดี คดีอาญาของนักการเมืองนั้นไปขึ้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่จะตัดสินวันที่ 25 ส.ค.นี้ หากศาลฎีกาฯตัดสินว่ามีความผิดจะนำไปสู่การดำเนินคดีแพ่งต่อไป คำถามเรื่องการยึดทรัพย์ที่สื่อถามนายกฯเมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น นายกฯคงเข้าใจว่าเป็นการยึดทรัพย์ในคดีที่อยู่ในศาลฎีกาฯ ซึ่งความจริงยังยึดไม่ได้จนกว่าศาลฎีกาฯจะตัดสินแล้วรอดูผลก่อนจะตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไร

นายวิษณุ กล่าวว่า ส่วนการบังคับคดีปกครองที่พูดกันมาเป็นปีจากการออกคำสั่งทางปกครองออกไปแล้วนั้น หลายคนพยายามมาถามตนว่าทำถึงไหนแล้ว จะยึดอะไรอย่างไรบ้าง ซึ่งตนบอกแล้วว่าถ้าพบก็ยึดและมีอายุความ 10 ปี จึงถือเป็นคนละส่วน ถ้าพบก็ต้องยึดทรัพย์เลย มิฉะนั้นเจ้าหน้าที่จะถือว่าบกพร่อง ทั้งนี้ กระทรวงการคลังในฐานะเจ้าหนี้ของเรื่องดังกล่าวได้ตรวจสอบพบว่ามีทรัพย์สินบางส่วน จึงนำทรัพย์สินดังกล่าวแยกเป็น 2 ส่วน คือ 1.สังหาริมทรัพย์ ได้แก่ เงินฝากอยู่ในธนาคารต่างๆ ที่ตอนนี้ตรวจพบแล้วว่ามีอยู่ 10-20 ธนาคาร รวมแล้วเป็นเงินจำนวนไม่มาก จำเป็นต้องถูกอายัดไว้ก่อน ถูกฟรีซเอาไว้ เพื่อไม่ให้จำหน่ายจ่ายโอน แต่ยังไม่ถูกยึดมาเป็นของหลวง กรณีผู้ต้องหารายอื่นๆ ก็ถูกดำเนินการในลักษณะเดียวกันได้

รองนายกฯ กล่าวว่า 2.อสังหาริมทรัพย์ คือที่ดิน บ้าน คอนโดฯ เป็นต้น ได้ถูกตรวจพบว่ามีประมาณ 37 รายการ โดยหน่วยงานเจ้าของเรื่องทราบดีว่ามูลค่าจำนวนหนึ่ง แต่ขอไม่ระบุตัวเลข ซึ่งกรมบังคับคดีได้ประสานกับกรมที่ดิน เพื่อขอฟรีซทรัพย์นั้นไว้เช่นกัน เพื่อไม่ให้ทำธุรกรรม จำหน่าย จ่ายโอน แต่ยังไม่ถูกยึดเข้ารัฐเช่นกัน และยังไม่ถูกนำมาขายทอดตลาด และยังเป็นกรรมสิทธิ์ของบุคคลนั้นอยู่เช่นเดิม เพียงแต่กรมบังคับคดีแจ้งให้กรมที่ดินทราบว่ามีรายการใดบ้างที่ถูกตรวจพบ

เมื่อถามว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุเงินในบัญชีถูกอายัดและถูกถอนออกจากบัญชีไปแล้ว นายวิษณุ กล่าวว่า เงินที่ถูกอายัดไว้นั้นมี 16 บัญชี โดย 5 บัญชีรวมแล้วมีเงินเป็นหลักแสนบาท ซึ่งถูกกรมบังคับคดีถอนออกมาก่อน ถือเป็นอำนาจตามกฎหมาย แต่ยังไม่ได้ถูกส่งเข้าคลังทันที ทรัพย์ยังอยู่ที่กรมบังคับคดีเนื่องจากยึดตามคำสั่งทางคดีปกครอง ที่เหลืออีก 11 บัญชียังไม่มีการแตะต้อง
เมื่อถามว่าหากศาลฎีกาฯตัดสินว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่มีความผิด จะได้รับเงินที่ถูกกรมบังคับคดีถอนออกไปนั้นกลับคืนหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นคนละส่วนกันระหว่างคำตัดสินของศาลฎีกาฯในวันที่ 25 ส.ค. กับคดีแพ่ง ขณะเดียวกันน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ไปยื่นขอทุเลาการบังคับคดี แต่ตอนนั้นศาลไม่รับด้วยเหตุว่าขณะนั้นยังไม่มีการยึดทรัพย์ใดๆ จึงไม่ต้องทุเลาการบังคับคดี แต่ขณะนี้ได้เริ่มมีการบังคับคดีแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็มีสิทธิ์ไปยื่นขอทุเลาการบังคับคดีต่อศาลปกครองได้ ถือเป็นผลดีต่อตัวเขาเอง จากนั้นอยู่ที่ศาลปกครองจะทุเลาการบังคับคดีหรือไม่

นายวิษณุ กล่าวว่า หากศาลปกครองสั่งทุเลาการบังคับคดีดังกล่าว กรมบังคับคดีต้องหยุดการดำเนินการทั้งหมด ทั้งสังหาริมทรัพย์ และอสังหาริมทรัพย์ แต่ถ้าศาลปกครองสั่งไม่ทุเลา ทางกรมบังคับคดีก็ดำเนินการต่อไปได้ตามกฎหมาย แต่ได้หารือกันแล้วว่าจะยังไม่ทำอะไรอีกในช่วงนี้จนกว่าศาลฎีกาฯจะมีคำตัดสินในวันที่ 25 ส.ค. อย่างน้อยการทำเช่นนี้ทำให้รู้ว่าทรัพย์สินทั้งหมดในชื่อของน.ส.ยิ่งลักษณ์ มีอะไรบ้าง อยู่ที่ใดและมีมูลค่าเท่าใด ส่วนทรัพย์สินของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่อาจอยู่ในชื่อบุคคลอื่น ทางกรมบังคับคดียังไม่เข้าไปตรวจสอบ ส่วนจะไปตรวจสอบเมื่อใดนั้นไม่ทราบ

เมื่อถามว่าอาจถูกมองว่ากรมบังคับคดีใช้เวลาสืบทรัพย์นาน แต่เพิ่งมาสืบพบในช่วงเวลาใกล้จะตัดสินคดีในวันที่ 25 ส.ค. นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ได้เกี่ยวกัน อยู่ที่ว่ากรมบังคับคดีจะสืบทรัพย์พบเมื่อใด เมื่อสืบพบก็ต้องดำเนินการโดยทันทีตามกฎหมาย ถือเป็นเรื่องปกติ ทั้งนี้ กระทรวงการคลังไปแจ้งกรมที่ดิน ธนาคารต่างๆ ตั้งแต่ยังไม่รู้ว่าศาลฎีกาฯจะนัดวันอ่านคำพิพากษาในวันใด เมื่อออกมาเป็นอย่างนี้ก็ไม่มีปัญหา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน