เมื่อเวลา 18.30 น. ที่ห้องบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ บี 2 ชั้น 22 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอก คอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น ประจำปี 2560 โดยมี พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน เข้าร่วม

โดยนายกฯ ได้มอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่นประจำปี 2560 จำนวนทั้งสิ้น 9 ประเภท และกล่าวตอนหนึ่งว่า รัฐวิสาหกิจที่เป็นพลังสำคัญ ในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ วันนี้เราต้องทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ประเทศมีความก้าวหน้าเจริญอย่างยั่งยืนตามหลักศาสตร์พระราชา มูลค่าของรัฐวิสาหกิจมีจำนวนมหาศาลใกล้เคียงกับจีดีพีของประเทศ ถือครองทรัพย์สินอยู่ประมาณ 14,000,000 ล้านบาท วงเงินลงทุนครึ่งหนึ่งของภาครัฐปีกว่า 500,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามรัฐบาลยังมีความจำเป็นต้องจัดสรรงบประมาณแบบขาดดุลอยู่ต่อไป ที่ผ่านมาตลอดสามปีรัฐบาลพยายามทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อขับเคลื่อนประเทศให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้ โดยจะต้องทำทั้งการแก้ปัญหาการสร้างระบบใหม่การสร้างความเข้มแข็งและเพิ่มขีดความสามารถรวมทั้งการวางอนาคตของประเทศ สิ่งที่ต้องเกิดขึ้นในวันนี้คือการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจการลดความหวาดระแวง และการสร้างผลประโยชน์ที่เท่าเทียม ให้กับประชาชนทุกฝ่าย

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งคาดว่าเศรษฐกิจปีนี้จะดีขึ้นเองโดยเฉพาะในไตรมาส 4 วันนี้ประมาณคร่าวๆได้ว่าเศรษฐกิจประเทศจะโตอยู่ที่ร้อยละ 3.3 ซึ่งในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ทางสภาพัฒน์ฯจะประกาศตัวเลขว่ามีอะไรที่ดีขึ้นบ้าง วันนี้ปัญหาประเทศกลับอยู่ที่ว่าความคิดยังไม่เปลี่ยนมากนักเราจึงยังคงเห็นว่ายังมีความขัดแย้งมีความไม่เข้าใจในการทำงานของรัฐบาลซึ่งเรื่องแบบนี้ไม่มีใครช่วยได้นอกจากการช่วยตัวเอง

“วันนี้ผมก็ได้ยินคำพูดของนายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ว่า เขาไม่มีหน้าที่ประชาสัมพันธ์งานให้รัฐบาล เขามีหน้าที่ในการทำประโยชน์สาธารณะ ผมก็ไม่รู้ว่าที่ผมทำวันนี้นั้น มันทำเพื่อใครเหมือนกัน มันมีประโยชน์หรือเปล่ากับประเทศหรือต่อสาธารณะก็ยังไม่รู้เหมือนกัน ผมชักไม่รู้ตัวแล้วนะ เพราะฉะนั้นผมก็ไม่ได้คาดหวังอะไรจากพวกสื่ออยู่แล้ว เพราะฉะนั้นก็เชิญเลยท่านจะไปทำอะไรของท่านก็ทำ ไม่ต้องไปตามสัมภาษณ์ผมอีกต่อไปก็ได้ แต่ผมก็จะพูดของผมอย่างน้อยผมก็พูดกับพวกท่านท่านคงไม่มีใครเบื่อจะฟังหรือมีใครจะลุกออกไปบ้างหรือไม่ ผมก็จะพูดของผมไปเรื่อยๆ
เพราะผมต้องการให้ประเทศเดินไปข้างหน้า สิ่งสำคัญทุกคนต้องไม่เสียใจไม่ต้องน้อยใจผม

เพราะบางครั้ง ครม. ก็จำเป็นต้องเสนอกฎหมายหลายฉบับออกมาก็เพื่อให้เกิดความไว้วางใจความไว้เนื้อเชื่อใจให้สังคมได้ถูกแถลง จะได้รู้ว่าสังคมคิดกันอย่างไร ไม่ได้หมายความว่าข้าราชการเป็นตัวกลางของการทุจริต เรามีคนดีมากมายแต่ต้องยอมรับว่าคนไม่ดีก็มีอยู่บ้างในทุกหน่วยงาน วันนี้เราต้องทำให้ทุกกระบวนการโปร่งใสมีประสิทธิภาพตรวจสอบได้ มีหลักธรรมาภิบาลและปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ยืนยันว่าผมมีเจตนาดีและเจตนาบริสุทธิ์กับทุกคน ไม่เคยรังเกียจรังงอนใครทั้งสิ้นใครจะเกลียดผมก็ช่างเขา เพราะอย่างไรก็ไม่ทำให้ผมตายได้ ยกเว้นผมจะตายเอง เส้นโลหิตแตกไปเอง” พล.อ.ปรยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการตั้งคณะกรรมการรัฐวิสากิจไม่ทราบว่าใครมีปัญหาหรือไม่ ส่วนคนที่ไม่เข้าเกณฑ์ก็อยู่จนครบวาระและคัดสรรเข้ามาใหม่ ส่วนทหารเขาก็ชอบว่าว่าไม่ค่อยฉลาด เขาก็ว่าเราเยอะผมก็ต้องฟังด้วย เพราะผมเป็นทหารเก่า ตอนผมไปเรียนเพิ่มหลักสูตรไอโอดีมา 2-3 วัน ฟังเขารู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง เพราะว่าหลักสูตรยากสำหรับทหารแต่ผมก็พยายาม ก็ถือว่าทหารไม่โง่นัก เว้นแต่บางคนที่ชอบแกล้งโง่ ส่วนใหญ่ทหารฉลาดจะตาย แต่ด้วยระเบียบวินัย ทำให้ทหารไม่ค่อยกล้าแสดงความคิดเห็นมากนัก ในวันนี้เป็นทหารรุ่นใหม่แล้ว เพราะฉะนั้นอย่าไปเชื่อบรรดาที่ออกมาด่าทหารทุกวัน ด่าจนรองนายกฯป่วยไปคนหนึ่งแล้ว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ยังคงมีปัญหาเรื่องขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เรื่องรถเมล์สัญญากับตนไว้แล้วนะ และตอนนี้ก็มีเรื่องกันอีกแล้ว ตนก็กลุ้มใจเหมือนกัน มันจะพากันไปพังทั้งหมดนั้นเหละ เดี๋ยวขึ้นทะเบียน เดี๋ยวถอนทะเบียน และถ้าสังคมยังเป็นอย่างนี้อยู่ มันก็ทำไม่ได้หรอก ทั้งหมดที่เราทำ เพราะเราจำเป็นที่ต้องมาทำอย่างนี้ ไม่อย่างนั้นประเทศก็ไปไม่ได้หรอก

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน