คนนครฯ ล้อมรถธนาธร ขอพูดบ้าง! ลั่น ไม่รุนแรง ไม่เกี่ยวการเมือง เราจงรักภักดี เจรจาแล้ว แต่ไม่ออกมาพบเอง จึงต้องล้อมไว้ เพื่อตามหาตัว
จากกรณีเหตุการณ์กลุ่มผู้ชุมนุม ปกป้องสถาบัน เข้าบุกล้อมโรงแรมที่พักของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธาน คณะก้าวหน้า ที่โรงแรมราวดี อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ขณะรณรงค์หาเสียงให้ นายอิสระ หัสดินทร์ ผู้สมัครนายก อบจ.นครศรีธรรมราช สังกัด คณะก้าวหน้า
ซึ่งต่อมานายธนาธร หลบไปขึ้นรถเดินทางออกจากโรงแรม ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดจนเกิดการปิดล้อมรถยนต์คันหนึ่งเพื่อค้นหาตัวนายธนาธร และต่อมาพบว่ารถที่ถูกล้อม ไม่ใช่รถของนายธนาธร ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
- ด่วน! มวลชนเสื้อเหลืองนครศรีฯ ฮือล้อมรถ-ด้ามธงฟาด หลังเชื่อว่าเป็นรถ ธนาธร
- กกต.แจง ธนาธร โดนเสื้อเหลืองล้อมรถ สามารถแจ้งความจับ ได้ทันที!
- ‘ธนาธร’ ชี้คนชูป้ายไล่ ตกหลุมพรางเดิม ถูกสร้างฝันร้ายหลอกให้กลัวการเปลี่ยนแปลง
- ทิพานัน ตอก ธนาธร ผ่านวงม็อบทำไม ปมถูกเสื้อเหลืองเมืองคอนล้อมรถ
ล่าสุดวันที่ 12 พ.ย.2563 นายพลัฎฐ์ นิลเนาวรัตน์ รองผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่ากรณีที่เกิดขึ้น ในส่วนกฎหมายเลือกตั้งไม่ได้เกี่ยวข้องกัน กฎหมายเลือกตั้งคุ้มครองผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเป็นหลัก เกี่ยวกับการจูงใจ การขัดขวางผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ในส่วนของผู้สมัครไม่มีกฎหมายเขียนเอาไว้ว่าถ้าใครไปขัดไปขวางผู้สมัครหรือผู้ช่วยเหลือในการหาเสียงแล้วจะมีความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง ส่วนที่เกี่ยวข้องกับคนอื่นๆ นั้นไม่ขอแสดงความเห็น
ด้าน นายสมชิต บัวทองจันทร์ ผู้ร่วมชุมนุมยืนยันว่า การไปรวมตัวนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมือง นักการเมือง แทนที่จะมองตัวเองว่ามีปัญหากลับไปมองสถาบันหลักว่าตัวปัญหา นายธนาธร ควรมองตัวเองว่าสร้างปัญหาหรือเปล่า ปัญหาอย่างอื่นมีมากเหตุใดไม่ปฏิรูปจึงไปถามว่ามีปัญหาอะไรกับสถาบันจึงต้องปฏิรูป ส่วนเหตุการณ์ล้อมรถไม่ได้รุนแรงใดๆ เพราะคนเมืองนครฯ คิดแบบไหนทำแบบนั้น ทุกคนที่ไปเพราะความจงรักภักดีไม่มีการเมืองหรือใดๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง
ขณะที่ นายอานนท์ มีศรี ที่ถูกระบุในโซเชียลมีเดียว่าเป็นแกนนำแสดงความเห็นว่า ไม่ได้เป็นแกนนำ รวมทั้งไม่ใช่คนเสื้อเหลือง แต่เป็นการไปรวมตัวกันเพียงจุดประสงค์เดียวคือปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ครั้งแรกตั้งเรื่องการเจรจา แต่นายธนาธรไม่ออกมา สถานการณ์จึงเกิดความตึงเครียด หลังจากนั้นมีความพยายามในการขอเจอตัว ด้วยการดูรถแต่ละคันว่านั่งรถคันไหน
“แต่เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้บังเอิญมวลชนเจอกับรถสีขาว แต่อีกมุมหนึ่งรถไปชนมอเตอร์ไซขวางหน้าล้มก็ไม่ออกเป็นเรื่องเป็นราว ภาพที่ออกมาเป็นมุมภาพ ไม่ได้เป็นการสร้างความรุนแรง เพราะจริงๆ แล้วไม่ใช่ ส่วนคนที่ไปค้ำกระโปรงหน้ารถนั้น เป็นความจริง เพื่อไม่ให้รถคันนั้นออกไป” นายอานนท์ กล่าว
สำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของรถสีขาว ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อขอข้อมูล แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ส่วนจะมีการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่มาล้อมรถหรือไม่นั้น ยังไม่มีความชัดเจน