วันที่ 11 ต.ค. จากกรณีนายสุรศักดิ์ คีรีวิเชียร กรรมการป.ป.ช. ระบุไว้ว่าเมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2560 ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.จะพิจารณา พ.ร.บ.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพ.ศ.2560 รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น ประมวลกฎหมายอาญา เพื่อหารือว่าจะมีมติยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีที่ ป.ป.ช. เคยเป็นโจทก์ฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้พิจารณาคดีดังกล่าวอีกครั้งหรือไม่นั้น
แหล่งข่าวป.ป.ช.เผยว่า เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2560 ที่ผ่านมาที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้หารือประเด็นนี้จริง เบื้องต้นมีมติให้เจ้าหน้าที่สำนักคดีไปศึกษาข้อมูลคดีว่าเหลือคดีใดบ้างที่ยังค้าง หรือติดขัดอยู่ รวมถึงดูอายุความคดีด้วย ซึ่งไม่ใช่แค่เฉพาะคดีของนายทักษิณ เท่านั้น แต่หมายถึงคดีอื่นๆ ด้วย การศึกษาข้อมูลคดีดังกล่าวอาจติดขัดอยู่บ้างเพราะเรื่องเกิดขึ้นมานานแล้ว และเจ้าหน้าที่บางรายที่รับผิดชอบเติบโตหรือโยกย้ายไปดำรงตำแหน่งอื่น จึงต้องใช้ระยะเวลาสักระยะ
“เชื่อว่าแนวโน้มต้องดำเนินการยื่นคำร้องทั้งหมด เพราะพ.ร.บ.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาฯการเมือง พ.ศ.2560 มีผลบังคับใช้แล้ว ซึ่งบัญญัติไว้ชัดเจนว่าสามารถยื่นคำร้องให้ดำเนินคดีได้ เนื่องจากเปิดช่องให้ศาลฎีกาฯพิจารณาลับหลังจำเลยได้ จากเดิมหากจำเลยไม่มาศาลหรือหลบหนี ต้องจำหน่ายคดีออกจากสาระบบชั่วคราว” แหล่งข่าวระบุ
แหล่งข่าวระบุด้วยว่า สำหรับคดีของนายทักษิณเท่าที่ตรวจสอบ ได้แก่ คดีปล่อยเงินกู้ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือเอ็กซิมแบงก์ และคดีการออกสลากหวยบนดิน เป็นต้น แต่ต้องศึกษาให้รอบคอบชัดเจนว่ายังมีคดีไหนที่ค้างอยู่อีกบ้าง และคดีไหนหมดอายุความลงไปแล้ว
