เมื่อวันที่ 24 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายฯและหัวหน้าคสช. แถลงภายหลังการประชุมร่วม ครม.และคสช.ว่า ได้หารือคำสั่งต่างๆ โดยเฉพาะการดำเนินการเกี่ยวกับระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่รอร่างพ.ร.บ. ซึ่งกำลังพิจารณาในรัฐสภา แต่ในทางปฏิบัติก็หารือกันว่าต้องหาวิธีการให้การทำงานรวดเร็วขึ้น จำเป็นต้องใช้มาตรา 44 บางประเด็น เพื่อให้เกิดการทำงานคู่ขนานไปให้ได้ภายใต้เวลาจำกัด ในเรื่องการลงทุนหลายประเทศก็ปรับปรุงพัฒนาส่งเสริมการลงทุนมากมาย เราก็ต้องเร่งพัฒนาเรื่องเหล่านี้

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า นอกจากนี้มีประเด็นรับฟังความเห็นประชาชน ผู้ด้อยโอกาส ผู้พิการ ที่มีบางคนไม่สะดวกรับเบี้ยประกัน ทาง สปสช.และกองทุนประกันสังคม จึงเห็นชอบว่าจะมีคำสั่งให้เลือกได้แล้วแต่สะดวกว่าจะเลือกใช้สปสช. หรือกองทุนประกันสังคมก็ได้ โดยเลือกสถานที่ใกล้บ้าน แล้วแต่ความสมัครใจ โดยใช้เวลา 1 ปี ก็เปลี่ยนได้ และต้องดูว่าความต้องการประชาชนเป็นอย่างไรด้วย

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนข่าวกองทุนประกันสังคมจะขอเก็บเงินเข้ากองทุนสูงสุด 1,000 บาทนั้น รัฐบาลยังไม่ได้ทำอะไรทั้งสิ้น เป็นการเตรียมการ หารือกันมานานแล้วกว่า 15 ปี ก็กำลังหาทางทำให้เกิดความเข้าใจมากยิ่งขึ้น เห็นมีข่าวว่าจะเก็บเงินเพิ่ม ตนยืนยันว่ายังไม่ได้ทำอะไร บางอย่างมีคนพูดไปก่อนสร้างความตกใจ รัฐบาลไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับใคร รับฟังทุกปัญหา แต่จะแก้ปัญหาได้มากบ้างน้อยมากก็ว่ากันไป

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า นอกจากนั้นมาตรา 44 จะจัดสร้างสำนักงานการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมแห่งชาติ ซึ่งจะใช้ระเบียบสำนักนายกฯ เพื่อบูรณาการให้ได้ทั้งระบบ และจะจัดตั้งสำนักงานบริหารจัดการน้ำให้เข้ามาอยู่ในสำนักนายกฯด้วย เพื่อบริหารแผนงานทั้งวงจรทั้งระบบ หน่วยงานที่รับผิดชอบข้างล่างมีอยู่แล้ว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องอื่นๆเอาไว้ก่อน รัฐบาลพยายามทำให้ได้มากที่สุด อะไรที่ไม่ใช่ประเด็นก็ลดๆไว้บ้าง ทั้งวันนี้และวันหน้า รัฐบาลจะปฏิรูปให้ได้ บางเรื่องทำไปแล้ว เป็นปฏิรูปเล็กให้เกิดปฏิรูปใหญ่ บอกไปหลายทีแล้ว สั่งย้ำไปหลายครั้ง ขอให้ติดตามกันต่อไป ขอเพียงกำลังใจให้กันและกัน ตนหวังมากว่าสื่อต้องช่วยกันเปลี่ยนแปลงประเทศในทิศทางที่ดีขึ้น ทั้งวันนี้ วันหน้า และอนาคต ฝากบอกประชาชนด้วย มีเรื่องอะไรก็บอก จะพยายามแก้ปัญหาให้ได้ทุกเรื่อง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน