‘ผู้ช่วยบิ๊กป้อม’ ขยี้ซ้ำ บางกลอย อ้างเจอ รุกป่า ปลูกกัญชา ล่าสัตว์ ยันชาวบ้านตัวจริง 90% พอใจรัฐแก้ปัญหา “น้ำ-ถนน-ที่ทำกิน” เชื่อ ม็อบไม่หวนชุมนุม

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 19 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายประสาน หวังรัตนปราณี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสวิจารณ์ว่าไม่รับฟังและไม่เข้าใจชาวบ้านในพื้นที่บางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ว่า จากการลงพื้นที่พูดคุยเมื่อวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา เรียนให้ทราบว่าคำถามที่เกิดขึ้นมาจากผู้ที่อาจจะฟังด้วยความเข้าใจผิด หรือมีเจตนาอื่นหรือไม่ตนไม่ทราบ

แต่ตัว นายประยงค์ ดอกลำไย ที่ปรึกษาขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม(พีมูฟ )และแกนนำบางกลอย ได้โทรคุยกับตนและเคลียร์กันชัดเจนเรียบร้อย ในฐานะที่เป็นรองประธานอนุกรรมการพีมูฟ และได้ลงพื้นที่ ตรวจสอบตามที่ได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มพีมูฟ ที่มาอยู่หน้าทำเนียบว่าชุมชนกะเหรี่ยงบางกลอยอยากกลับไปที่บางกลอยบนหรือใจแผ่นดิน และเรียกร้องให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.)จัดพื้นที่ทำกินที่โป่งลึกให้ เพราะไม่มีน้ำและสิ่งอำนวยความสะดวก และเรียกร้องพื้นที่ทำกินเพิ่มขึ้น ซึ่งยื่นเข้ามาถึงรัฐบาล และได้เสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)รับทราบแล้ว

นายประสาน กล่าวว่า ตน และคณะลงพื้นที่ อ.แก่งกระจาน โดยนั่งเฮลิคอปเตอร์สำรวจในพื้นที่ใจแผ่นดิน ที่มีข้อเรียกร้องอยู่ตลอดว่าต้องการกลับไปอยู่ในพื้นที่นั้น ซึ่งเป็นพื้นที่สูงสุดของเขาและติดพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา มีความชันและเป็นเหวลึก หากไม่ใช่นักบินของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ก็ไม่มีใครอยากขึ้นไป เพราะเสี่ยงกับลมหมุน และเครื่องตกได้

แต่เราต้องขึ้นเพื่อให้ได้รับความเป็นจริง เมื่อขึ้นไปถึงแล้วพบว่าเป็นพื้นที่ป่าสมบูรณ์มาก มีสัตว์ป่าชุกชุม เป็นแหล่งต้นน้ำแม่น้ำเพชรบุรี และเมื่อมาถึงบางกลอยกลาง ได้ลาดตระเวนทุกจุด พบว่าพื้นที่ป่าแก่งกระจานด้านบนถูกเผาป่าไปกว่า 100 ไร่ และพบว่ามีการปลูกกัญชา และเราได้บันทึกภาพไว้ เพื่อจะได้ยืนยันว่าทางการเราไม่ได้ลงไปสร้างภาพ แต่มีวัน เดือน ปี และเวลากำหนดไว้ชัดเจน มีทั้งรองอธิบดีกรมอุทยานฯ อธิบดีอัยการ รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางไปด้วย และจากที่เห็นมีการปลูกต้นกัญชา จึงต้องนำมาสู่การพิจารณาเรื่องข้อเรียกร้องอย่างเคร่งครัด

เมื่อมาถึงบางกลอยล่างและโป่งลึก พบว่ามีการพัฒนาพื้นที่และจัดสรรที่ดิน ให้ชาวกะเหรี่ยงบางกลอย มีน้ำและไฟ แต่อาจจะไม่เพียงพอ เนื่องจากมีชุมชนเพิ่มมากขึ้น นอกจากนั้นที่ทราบ ปู่คออี้ มีภรรยา 2 คน จนมีลูกหลานเหลนเกือบ 90 คน ในจำนวนนี้ก็กระจายอยู่ในบางกลอยล่างและโป่งลึก ส่วนกะเหรี่ยงที่เพิ่มมาได้ให้นายอำเภอและผู้ใหญ่บ้านชาวกะเหรี่ยง การสำรวจสำมะโนประชากร ให้เสร็จภายในเดือนเม.ย.นี้ เพื่อแยกอย่างชัดเจนว่าคนที่มาจากบางกลอยบนมีจำนวนเท่าไหร่ และที่มาจากพื้นที่ข้างนอกเท่าไหร่

จึงอยากให้กลุ่มนักวิชาการที่พยายามเรียกร้องให้ขึ้นไปดูความเป็นจริงให้ประจักษ์ต่อสายตา ว่าสิ่งที่ได้รับฟังมาใช่หรือไม่ ซึ่งทั้งหมดนี้เราจะสรุปสิ่งที่เห็นต่อคณะกรรมการฯ ที่มี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน รวมทั้งการหื้นฟูคุณภาพชีวิต ชาวกระเหรี่ยงบ้านบางกลอย ให้ได้เห็นความเป็นจริงทั้งหมด

นายประสาน กล่าวว่า จากการพูดคุยเรื่องกับชุมชนบางกลอย ส่วนใหญ่เกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ พอใจมาก มีเพียง 15-16 ครัวเรือน ที่อ้างว่าอยากจะกลับไปที่ใจแผ่นดิน ก็เลยต้องถามตรงๆ ว่าจะไปอยู่ที่ใจแผ่นดินได้อย่างไร ในเมื่อเป็นพื้นที่ป่าสมบูรณ์ทั้งหมด แค่ขึ้นก็หมดปัญญาขึ้นแล้ว แต่เขาก็บอกว่าจะขึ้น ถึงต้องถามว่าแล้วเคยขึ้นไปหรือยัง ก็ได้รับคำตอบสรุปมาว่าไม่มีใครเคยขึ้นไปเลย

แต่ตนเพิ่งกลับลงมา ถ้าพูดอย่างนี้แล้วไม่เชื่อ ก็ขึ้นไปด้วยกัน แต่ก็ไม่มีใครกล้าขึ้น โดยประวัติของพื้นที่บางกลอยบน หรือใจแผ่นดิน เคยมีเฮลิคอปเตอร์ตกมาแล้ว 3 ลำ เพราะเป็นพื้นที่หุบเขามีลมหมุนลมกด ทั้งนี้หลังการประชุมฯ ได้มอบให้ทุกส่วนราชการในพื้นที่เข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิด มีการขุดบ่อน้ำบาดาล เพื่อเตรียมพร้อมที่ทำกิน ซึ่งบางคนมีอยู่แล้ว 1 ไร่ แต่ก็บอกไม่ได้ พอคนอื่นมี 7 ไร่ ก็อยากจะมีบ้าง

พอตนรับฟังในหลายประเด็นเรียกร้องก็รู้สึกน้อยใจ เพราะตนเป็นคนไทย เกิดในเมืองไทย และเกษียณอายุราชการแล้ว ยังมีที่ดินไม่ถึง 2 ไร่ และกว่าจะได้มา 1 ไร่เศษก็ต้องผ่อนเป็นเวลา 10-20 ปี ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลพยายามดูแลเป็นอย่างดีแล้ว ไม่เคยละทิ้ง และขอให้ตระหนักว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงเมตตาพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์สร้างโรงทอให้ชาวบ้านมีกิจกรรมศิลปาชีพ สมเด็จประเทพฯ และสร้างโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ให้ ทุกอย่างมีครบ และเร่งปรับปรุงแก้ไขเชื่อว่าหลังจากนี้ปัญหาน่าจะดีขึ้น และภาครัฐจะเร่งทำดำเนินการให้

จากที่ทราบพบว่ามีการเข้าไปล่าสัตว์ และกลับออกมาทางใจแผ่นดิน จากนั้นล่องแพมาทางแม่น้ำ มาที่อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี เพื่อไปจำหน่าย ขอเวลานิดเดียวขอให้ได้หลักฐานเรื่องนี้แล้วจะแถลงให้ทราบ โดยให้ตำรวจไปรวบรวมคดีที่มีในพื้นที่ที่มีมาในอดีต เพื่อให้มีหลักฐานชัดเจน แล้วจะรวบรวมข้อมูลให้คณะอนุกรรมการฯ รับทราบต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า จากการประชุม ชาวบางกลอยจะกลับมาชุมนุมเรียกร้องที่กรุงเทพฯ อีกหรือไม่ นายประสาน กล่าวว่า ไม่มีเหตุที่ต้องมาแล้ว ในเมื่อเราไปช่วยถึงขนาดนี้แล้ว และไปพัฒนาพื้นที่เพิ่มเติมให้ ทั้งน้ำไฟและอินเตอร์เน็ตในพื้นที่ จึงเชื่อว่าสิ่งที่รัฐบาลพยายามทำ ก็ได้แก้ไขไปเยอะมากแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า สิ่งที่ทำให้เกิดความไม่เข้าใจคือการบอกว่าชาวบางกลอยไม่ให้มาที่กรุงเทพอีก นายประสาน กล่าวว่า ไม่ใช่ แต่บอกไปว่า ถ้ามีอะไร ให้บอกผ่านมาทางผู้ใหญ่บ้านของคุณ และมาบอกที่นายอำเภอ จากนั้นจะมาแจ้งเพื่อแก้ไข หากแจ้งมาแล้ว 3-4 วันแล้วทางการไม่ไปทำอะไรให้ ก็ขอให้แจ้งมาทางเจ้าหน้าที่ของตนที่เคยให้เบอร์ติดต่อไว้ให้มาถึงตนโดยตรงและจะลงไปแก้ปัญหาให้

หากมีอะไรประสานแบบนี้สะดวกกว่า อย่าลำบากต้องเดินทางลงมาเลยเพราะร้อน และทำให้เกิดความเดือดร้อนด้วย นี่คือสิ่งที่บอกกับเขา และคิดว่าเขาจะไม่มาแล้วเพราะไม่มีเหตุอะไรจะอ้าง เพราะเราแก้ปัญหาให้แล้ว มีหน่วยงานรับไปดูแลหมดแล้วทั้งเรื่องน้ำ เรื่องถนน และการขยายพื้นที่ทำกิน และยืนยันว่าที่ดินที่รัฐจัดสรรให้สามารถทำกินได้ เพราะไปเห็นมากับตัวเอง แต่มีผู้ไม่หวังดีไปแปลสารผิด อย่าให้ต้องเอ่ยว่าเป็นใคร ส่วนนักวิชาการ ก็มีการแจ้งความดำเนินคดีอยู่

ผู้สื่อข่าวถามว่า จุดประสงค์หลักของรัฐที่ไม่ต้องการให้ชาวบางกลอยกลับไปที่ใจแผ่นดินเป็นเพราะเรื่องความมั่นคงด้วยหรือไม่ นายประสาน กล่าวว่า นั่นเป็นส่วนหนึ่งเพราะเป็นแนวชายแดน และในอดีตเป็นที่ปะทะ และเป็นเขตแดนด้านความมั่นคง เมื่อปลอดการดูแลอย่างใกล้ชิดทำให้ผู้ไม่ประสงค์ดี แอบหลับลักลอบเข้ามาไปล่าสัตว์ป่า

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน