ภาคี#saveบางกลอย จี้รัฐบาลขอโทษ หลังผู้ช่วย พล.อ.ประวิตร พูดเหยียดหยามชาติพันธุ์ ใส่ความเท็จ สร้างบาดแผลในจิตใจให้ชาวบ้าน
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2564 ภาคี #saveบางกลอย ได้ออกแถลงการณ์ภายหลังนายประสาน หวังรัตนปราณี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่บ้านบางกลอยล่าง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เมื่อวันที่ 18 มี.ค. ระบุว่า พวกเราภาคี#saveบางกลอยมีความกังวลใจอย่างยิ่งต่อท่าทีของนายประสาน หวังรัตนปราณี ที่ปรากฏลักษณะของผู้มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ต่ำ ขาดทักษะการเป็นผู้นำ ไร้วิสัยทัศน์ในการมองปัญหาของชาวบ้านอย่างจริงใจ อีกทั้งแสดงออกถึงท่าทีการเหยียดเชื้อชาติและภาษา (Racism) เช่น การนัดชาวบ้านประชุมในเวลา 09.30 น. แต่นายประสานและทีมงานมาถึงเวลา 11.30 น.
โดยมีตัวอย่างบทสนทนาบางส่วนของนายประสาน เช่น “ผมขึ้น ฮอ. ไปก็เห็นละพม่าบ้านพวกคุณอะ”
“พูดไทยได้กันทุกคนไหม ฟังผมรู้เรื่องไหม”
“ผมอยากมาเป็นกะเหรี่ยงแบบคุณ ผมอิจฉาพวกคุณ ผมอยู่มาจนป่านนี้จะเกษียณมาจนอายุจะ 70 ปีแล้ว ยังมีที่ไม่ถึง 2 ไร่ พวกคุณมีได้ตั้ง 7 ไร่”
“ต่อไปนี้ถ้ามีปัญหาอะไรให้ไปบอกผู้ใหญ่บ้าน ไม่ต้องลงไปกรุงเทพฯ มันเสียเวลาทำงานของพวกผม”
รวมทั้งการกล่าวหาว่าชาวบ้านปลูกกัญชา และได้ไปเห็นที่ใจแผ่นดิน โดยอ้างว่ามีการถ่ายภาพมาเป็นหลักฐาน แต่ไม่ยอมแสดงหลักฐานให้เป็นที่ประจักษ์ อีกทั้งในความเป็นจริงแล้วชาวบ้านขึ้นไปถึงได้แค่พื้นที่บางกลอยบน หาใช่ใจแผ่นดินไม่ ดังนั้นการกล่าวหาของนายประสานถือเป็นข้อกล่าวหาร้ายแรงและไม่มีหลักฐานยืนยันแสดง ซึ่งหากข้อความที่กล่าวเป็นเรื่องเท็จ ผู้กระทำจะมีความผิดทางอาญา และต้องชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่ง
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 326 ผู้ใดใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 328 ถ้าความผิดฐานหมิ่นประมาทได้กระทำโดยการโฆษณาด้วยเอกสาร ภาพวาด ภาพระบายสี ภาพยนตร์ ภาพหรือตัวอักษรที่ทำให้ปรากฏไม่ว่าด้วยวิธีใดๆ แผ่นเสียง หรือสิ่งบันทึกเสียง บันทึกภาพ หรือบันทึกอักษร กระทำโดยการกระจายเสียง หรือการกระจายภาพ หรือโดยกระทำการป่าวประกาศด้วยวิธีอื่น ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท
จากเหตุการณ์นี้ทำให้พวกเราเกิดความเคลือบแคลงสงสัยว่าคณะการทำงานแก้ไขของชาวบ้านที่ถูกแต่งตั้งขึ้นในครั้งนี้ มีประสิทธิภาพและความจริงใจมากน้อยเพียงใด ภาคี #SAVEบางกลอย เห็นว่า นายประสานไม่มีลักษณะของการเป็นนักเจรจาที่ดี รวมถึงไม่ได้ยึดความเดือดร้อนของประชาชนเป็นที่ตั้ง สร้างความขัดแย้งและความขุ่นเคืองใจให้ชาวบ้านมากกว่าจะรับฟังเพื่อนำไปสู่ทางออกของปัญหาดังที่ชาวบ้านเรียกร้องมาโดยตลอด คือการต้องหาแนวทางหรือนโยบายในการพาชาวบางกลอยกลับใจแผ่นดิน
ฉะนั้น เราขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลว่า หากต้องมีการลงพื้นที่เพื่อพูดคุยกับชาวบ้าน ไม่ควรให้นายประสานอยู่ในกลไกการแก้ไขปัญหาอีก เนื่องจากทำตัวเป็นคู่ขัดแย้ง และใช้อคติที่มืดบอดบดบังการใช้เหตุผลและรับฟังอย่างเปิดใจ
นอกจากนี้ เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาแสดงความรับผิดชอบ โดยชี้แจงกรณีดังกล่าว รวมถึงขออภัยชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอยอย่างเป็นทางการ จากกรณีการเหยียดหยามชาติพันธุ์และสร้างบาดแผลในจิตใจด้วยความรุนแรงทางกิริยาและวาจา ที่เดินหน้าผลิตซ้ำมายาคติกดทับ ในฐานะผู้ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้มาแก้ไขปัญหา เรื่องราวเหล่านี้ไม่ควรเกิดขึ้นอย่างยิ่ง
ท้ายที่สุดนี้ขอฝากถึงนายประสาน หวังรัตนปราณี ว่า “วุฒิภาวะ” สำคัญไม่แพ้ “วุฒิการศึกษา” และผู้มี “อารยะ” จะไม่ “หยามเหยียด” เพื่อนมนุษย์เพียงเพราะต่างชาติพันธุ์
“ใจแผ่นดิน ถิ่นชาติพันธุ์ คนต้องเท่ากัน ชาติพันธุ์ก็คือคน”