บิ๊กตู่ แจงแล้ว! ปมส่งทหารร่วมงาน วันกองทัพเมียนมา เผยฝ่ายความมั่นคงเตรียมรับมือ อพยพเข้าพื้นที่ ยัน 2 ประเทศยังค้าขายปกติ

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 29 มี.ค.2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์เมียนมาและนโยบายการดูแลผู้อพยพ ว่า วันนี้เราทราบถึงปัญหาในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งได้พิจารณาเรื่องเหล่านี้อยู่ อย่างไรก็ตาม ขอให้เป็นเรื่องภายในของเราไปก่อน ซึ่งเราไม่อยากให้มีการอพยพเข้ามาในพื้นที่ของเรา ขณะเดียวกันเราก็ต้องดูแลเรื่องสิทธิมนุษยชนต่างๆ เหล่านี้ด้วย อันนี้ขอให้ระมัดระวังนิดนึง

ผู้สื่อข่าวถามถึงการที่ไทยส่งตัวแทนร่วมงานวันกองทัพเมียนมา ขณะกองทัพนานาชาติ 12 ประเทศมหาอำนาจ กำลังรุมประณามกองทัพเมียนมา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มันเป็นช่องทางการทหารที่เราจำเป็นต้องติดตาม เราต้องหากลไกต่างๆ ที่จะติดตามพัฒนาการทางการเมืองในเมียนมาและความรุนแรงต่างๆ ที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ เราเป็นประเทศที่มีดินแดนติดกันย่อมมีผลกระทบด้วยกันทั้งหมด เมื่อมีการสู้รบก็ต้องมีการอพยพ เราก็ต้องเตรียมแก้ปัญหาตรงนี้ แต่จะตรงไหน อย่างไร เป็นเรื่องที่เราจะพิจารณาในชั้นต้นของเราก่อน เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นก็ต้องค่อยว่ากันอีกครั้ง

เมื่อถามว่ารัฐบาลคาดการณ์ตัวเลขผู้อพยพไว้ที่เท่าไหร่ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหรือไม่ และต้องเตรียมการรองรับ จัดพื้นที่พักพิงอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เราเตรียมพื้นที่ไว้สำหรับที่จะเข้ามา จะอยู่ตรงไหน จะมากน้อยค่อยว่ากันอีกที อย่าเพิ่งพูดไปถึงการจัดสถานที่พักพิงหรือศูนย์อพยพ เรายังไม่พูดตรงนั้น วันนี้เป็นเรื่องฝ่ายความมั่นคงที่จะต้องจัดเตรียมไว้อยู่แล้ว

ต่อข้อถามว่าการเมืองในเมียนมาเริ่มทวีความรุนแรง ทางการไทยจะกำชับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายอย่างไรในการทำงานตามแนวชายแดน เพราะหลายกรณีถูกเชื่อมโยงว่าไทยนับสนุนทหารเมียนมา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลทราบดี ติดตามอยู่ทุกวัน กระทรวงการต่างประเทศรายงานมาตลอด ฝ่ายความมั่นคงก็รายงานขึ้นมา

“ไทยสนับสนุนทหารเมียนมาตรงไหน ผมไม่เข้าใจ คงไม่มีใครที่จะไปสนับสนุนให้มีการใช้ความรุนแรงกับประชาชน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

เมื่อถามว่าในฐานะไทยเป็นเพื่อนบ้านใกล้ชิด นายกนรัฐมตรียังย้ำจุดยืนเดิมหรือไม่ คือวิน-วินทั้งเศรษฐกิจและประชาชน และในทางปฏิบัติมีทางออกอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ยังมีการค้าขายกันอยู่ตามปกติ เราต้องดูคนในวงจรเหล่านี้ด้วย และคนที่ได้รับประโยชน์คือประชาชนคนไทยและเมียนมา ซึ่งต้องอยู่ต้องกิน สินค้าเขาก็ยังมีความต้องการอยู่ ฉะนั้นอันนี้เป็นสิ่งที่เราต้องดำเนินการควบคู่กับมาตรการอาเซียน หรือประชาคมอื่นๆ ซึ่งต้องระมัดระวังอย่างที่สุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน