ฝ่ายค้าน ยื่น ป.ป.ช. เอาผิด “ประยุทธ์” ทำผิด กม.หลายมาตรา อัดแก้โควิดล้มเหลว เกิดคลัสเตอร์หลายจุด ปล่อย รมต.ทำผิดลอยนวล เอื้อพวกพ้องหาประโยชน์ ทำหน้ากากราคาพุ่ง ซัดไม่จัดหาวัคซีนทางเลือก ทำประชาชนนอนรอความตาย

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 พ.ค.64 ตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน อาทิ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล (ก.ก.) นพ.เรวัต วิศรุตเวช รองหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย (สร.) นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ (พช.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ (ปช.) นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย

พร้อมแกนนำและส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน รวมทั้ง นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เข้ายื่นหนังสือต่อประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขอให้ไต่สวนและมีความเห็นกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.

มีพฤติการณ์ไม่สุจริต ส่อไปในทางทุจริต ไม่ถือผลประโยชน์ของประเทศชาติเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตน และรู้เห็นหรือยินยอมให้ข้าราชการในปกครองใช้ตำแหน่งหน้าที่แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ อันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 26, 47, 53, 55, 62, 164, 234

และมาตรา 235 พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 พ.ร.บ.ส่งเสริมการลงทุน พ.ศ.2520 พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 28 (1), (2) และฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง

นายประเสริฐ กล่าวว่า 1.พล.อ.ประยุทธ์ จงใจไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ 60 ที่กำหนดให้พี่น้องประชาชนทุกคนได้รับการบริการทางด้านสาธารณสุขที่ครบถ้วนทั่วถึง แต่พล.อ.ประยุทธ์กลับดำเนินการบกพร่องในหลายๆ เรื่อง เช่น การจัดหาวัคซีนไม่พอฉีดให้พี่น้องประชาชน ไม่มีวัคซีนทางเลือกให้ประชาชน อีกทั้งมาตรฐานในการดูแลรักษาผู้ป่วย ทั้งผู้ป่วยที่บ้าน และการส่งต่อผู้ป่วย

2.นับตั้งแต่เกิดการระบาดของเชื้อโควิด-19 รัฐบาลบริหารประเทศโดยไม่ยึดประโยชน์ของชาติ นายกฯ และประธาน ศบค. ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ปล่อยให้ผู้กระทำผิดลอยนวล ไม่ยึดหลักนิติธรรม เห็นประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องสำคัญกว่าประโยชน์ของชาติและประชาชน ปล่อยให้ผู้ที่ตนเองแต่งตั้งและบุคคลใกล้ชิดมาแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมาย

โดยเฉพาะกรณีเกิดการกักตุนหน้ากากอนามัย และแอลกอฮอล์ และการส่งออกหน้ากากอนามัยไปต่างประเทศโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ส่งผลให้หน้ากากอนามัยขาดตลาดและมีราคาแพง ซึ่งเมื่อเกิดเรื่องขึ้นแล้วนายกฯ กลับละเว้น ไม่ตรวจสอบรัฐมนตรีและผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต

3.การรับมือการระบาดของโรคทั้ง 3 รอบที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงพฤติการณ์จงใจไม่ดูแลให้ปฏิบัติตามกฎหมายและบังคับใช้กฎหมาย ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่จนทำให้เกิดการระบาดของโรค ตั้งแต่การระบาดรอบแรก ซึ่งมีต้นเหตุมาจากการจัดแข่งขันชกมวยของกองทัพบกที่สนามมวยลุมพินี

ฝ่าฝืนประกาศกระทรวงสาธารณสุขจนเกิดซูเปอร์สเปรดเดอร์ (Super Spreader) ในการระบาดรอบสอง ได้เกิดกลุ่มก้อนใหญ่การแพร่ระบาด (Cluster) ที่ตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร เพราะรัฐบาลปล่อยปละละเลย ไม่ใส่ใจเข้มงวดกับปัญหาแรงงานต่างด้าวและการลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย ส่วนการระบาดรอบสามซึ่งเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อสายพันธ์ุอังกฤษจากแหล่งท่องเที่ยวย่านทองหล่อ ซึ่งประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่ชอบด้วยกฎหมาย

โดยรัฐมนตรี และส.ส.พรรครัฐบาล ได้ไปใช้บริการแล้วกลายเป็นผู้ติดเชื้อโควิดในเวลาต่อมา แต่ พล.อ.ประยุทธ์กลับจงใจ ไม่ดูแลให้มีการปฏิบัติตามกฎหมายและบังคับใช้กฎหมาย ไม่ดำเนินคดีและไม่ลงโทษรัฐมนตรีที่ไปใช้บริการสถานบริการดังกล่าว ทั้งที่เป็นการกระทำที่ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และพ.ร.บ.โรคติดต่อ นอกจากนี้ยังกรณีที่รัฐมนตรีในรัฐบาลอีกคนหนึ่งจัดงานในช่วงสงกรานต์และมีผู้มาร่วมงานเป็นจำนวนมาก จนเกิดการแพร่ระบาดของโรค มีผู้ติดเชื้อหลายรายและมีผู้เสียชีวิต

และ 4.รัฐบาลกระทำไม่ชอบด้วยกฎหมายสร้างความล้มเหลวระบบป้องกันโรคระบาด ล้มเหลวระบบให้การรักษาพยาบาล และล้มเหลวระบบช่วยเหลือการเยียวยา โดยไม่ได้ดำเนินการให้ประชาชนได้รับบริการสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพอย่างครอบคลุมและทั่วถึง ไม่ดำเนินการให้มีการควบคุมโรค การป้องกันโรค การรักษาพยาบาลและการฟื้นฟูสุขภาพ

จงใจปฏิเสธความช่วยเหลือจากโครงการโคแวกซ์ (COVAX) ของหน่วยงานขององค์กรอนามัยโลกที่จัดวัคซีนให้ประเทศต่างๆ 180 ประเทศ รวมถึงปฏิเสธความช่วยเหลือจากภาคเอกชนในการนำเข้าวัคซีน กลับปล่อยให้ประชาชนจำนวนมากต้องเจ็บป่วย นอนรอความตาย เพราะขาดโอกาสในการเข้าถึงวัคซีน อีกทั้งในการจัดหาวัคซีนของกระทรวงสาธารณสุข และ ศบค.

ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้ใช้อำนาจรักษาการตามกฎหมายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้จงใจปฏิบัติหน้าที่และใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ละเลย ไม่ขวนขวายจัดหาวัคซีนที่มีความสำคัญและจําเป็นอย่างรวดเร็ว หลากหลายและเพียงพอให้ประชาชนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ซึ่งได้สร้างความเสียหายต่อชีวิตของประชาชน เศรษฐกิจ สังคมและทำให้ประชาชนต้องมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างทุกข์ทรมาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน