ไพบูลย์ เผย พรรครัฐบาลหนุนเลื่อนญัตติด่วนก้าวไกล ก่อนถกแก้รธน. มั่นใจไม่ทำสะดุด ไร้ปัญหาตอนลงมติ เชื่อส.ว.ไม่ขวางแก้รธน.
เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2564 นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ (ฉบับที่…) พ.ศ…. แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 83 และมาตรา 91 ว่าด้วยระบบเลือกตั้ง รัฐสภา กล่าวถึงการประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 24-25 ส.ค.ว่า พรรคร่วมรัฐบาลจะสนับสนุนให้เลื่อนญัตติด่วน ของนายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และคณะ ที่เสนอให้รัฐสภาวินิจฉัยตีความข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ.2563 ขึ้นมาพิจารณาก่อนเข้าสู่เนื้อหาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้ ประเด็นในญัตติที่เสนอนั้น เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญสะดุด
นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า สำหรับญัตติที่จะพิจารณา มี 2 ประเด็น คือ ประเด็นที่ระบุว่าอ้างข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อ 151 เพื่อยื่นให้รัฐสภาพิจารณาว่า ข้อบังคับข้อ 124 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งตนเห็นว่าข้อบังคับข้อ 124 ไม่มีส่วนใดที่ขัดหรือตราไม่ถูกต้องตามรัฐธรมนูญ อีกทั้งเนื้อหาของข้อบังคับข้อ 124 เขียนเพื่อบังคับใช้มานานแล้ว
อีกประเด็น คือ การตีความกรอบการใช้ข้อบังคับข้อ 124 จะมีขอบเขตอย่างไร ซึ่งตนมองว่าตัวบทมีความชัดเจน คือ 1.เพิ่มมาตราได้และไม่ขัดหลักการ และ 2.มาตราที่เพิ่มอาจเกินจากหลักการได้ แต่ต้องเกี่ยวเนื่องและสอดรับกัน อย่างไรก็ตาม ญัตติดังกล่าวต้องใช้การลงมติของรัฐสภาตัดสินโดยเสียงข้างมาก ซึ่งการลงมติเป็นเอกสิทธิ์ของสมาชิกรัฐสภาจะพิจารณา
นายไพบูลย์ กล่าวอีกว่า ส่วนการตั้งข้อสังเกตกรณีกมธ.เพิ่มบทเฉพาะกาล 2 มาตราขึ้นใหม่ ว่าด้วยเงื่อนเวลาให้รัฐสภาตราพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และเพิ่มบทบัญญัติกรณีรัฐสภาตรากฎหมายลูกดังกล่าวไม่เสร็จนั้น เนื่องจากเป็นประเด็นเกี่ยวเนื่องกัน หากการแก้ไขระบบเลือกตั้งไม่มีบทเฉพาะกาลดังกล่าวไว้ หากเกิดการเลือกตั้งขึ้นก่อนที่กฎหมายลูกจะบังคับใช้ อาจเป็นปัญหาได้
“ผมเชื่อว่าประเด็นที่ผู้เห็นต่าง ยกเป็นประเด็นจะไม่ทำให้เป็นปัญหาตอนลงมติ ซึ่งการพิจารณาในวาระที่ 2 ใช้เสียงข้างมากของที่ประชุม ส่วนวาระที่ 3 ต้องใช้เสียงส.ว. 1 ใน 3 ร่วมลงมติด้วยนั้น เชื่อว่าไม่เป็นปัญหาเช่นกัน เนื่องจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับส.ว. อีกทั้ง ส.ว.ต้องการแสดงตนเช่นกันว่าไม่เป็นอุปสรรค หรือขัดขวางการแก้รัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา” นายไพบูลย์ กล่าว
