เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา ที่อาคารศาลฎีกา ถนนเเจ้งวัฒนะ นายชีพ จุลมนต์ ประธานศาลฎีกา เรียกประชุมผู้พิพากษาศาลฎีกาจำนวน 176 คน มีวาระการคัดเลือกองค์คณะพิจารณาคำร้องอุทธรณ์ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยื่นอุทธรณ์พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีตผบช.น. จำเลยที่ 4 ในคดีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อปี 2551 หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ยกฟ้องจำเลย 4 คน คือ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ , พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกฯ , พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผบ.ตร. เเละพล.ต.ท.สุชาติ เมื่อวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา

ผลจากการนับคะเเนนปรากฎว่า ผู้พิพากษาในศาลฎีกาที่ได้รับเลือกเป็นองค์คณะทั้ง 9 คน ประกอบด้วย 1.นายสุนทร ทรงฤกษ์ ประธานแผนกคดีภาษีอากรในศาลฎีกา 2.นายชำนาญ รวิวรรณพงษ์ประธานแผนกคดีล้มละลายในศาลฎีกา 3.นายวิชัย เอื้ออังคณากุล รองประธานศาลฎีกา 4.นายทวี ประจวบลาภ ประธานแผนกคดีพาณิชย์และเศรษฐกิจในศาลฎีกา

5.นายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ รองประธานศาลฎีกา 6.นายพรเทพ อัมพรกลิ่นแก้ว รองประธานศาลฎีกา 7.นายสู่บุญ วุฒิวงศ์ ประธานแผนกคดีเลือกตั้งในศาลฎีกา 8.นางอุบลรัตน์ ลุยวิกกัย รองประธานศาลฎีกา และ9.นายสุรพันธุ์ ละอองมณี ประธานแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้า ระหว่างประเทศในศาลฎีกา

หลังจากประธานศาลฎีกา ลงนามรับรองเเล้ว จะติดประกาศรายชื่อองค์คณะผู้พิพากษาไว้ที่ศาลฎีกา 5 วันนับแต่วันประชุมใหญ่ เพื่อให้คู่ความทราบ และเปิดโอกาสให้คัดค้านผู้พิพากษาที่ได้รับเลือก ซึ่งการยื่นคัดค้าน คู่ความยื่นได้ตั้งแต่วันที่ติดประกาศไปจนก่อนจะเริ่มไต่สวนพยานในคดี และขั้นตอนหลังจากนั้นองค์คณะฯ จะเลือกผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน 1 คน โดยใช้วิธีลงคะแนนลับ ก่อนที่องค์คณะทั้ง 9 จะร่วมกันพิจารณาคำร้องอุทธรณ์ของคู่ความเเละมีคำสั่งต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้ ป.ป.ช.มีมติยื่นอุทธรณ์จำเลยที่ 4 คือ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว เพียงคนเดียว เนื่องจากเห็นว่าเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผบช.น.มีอำนาจหน้าที่สั่งการ และบังคับบัญชาข้าราชการตำรวจสังกัดบช.น. และได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ผู้บัญชาการเหตุการณ์ตามแผนรักษาความสงบ (กรกฎ 48) ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีอำนาจหน้าที่สั่งการและบังคับบัญชานายตำรวจอื่นที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สลายการชุมนุม ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ดังกล่าว จำเลยที่ 4 ย่อมทราบถึงสถานการณ์การใช้แก๊สน้ำตาโดยตลอดในช่วงเวลาสลายการชุมนุม

ส่วนจำเลยอีก 3 คน นายสมชาย , พล.อ.ชวลิต และพล.ต.อ.พัชรวาท ที่ประชุม ป.ป.ช.มีมติไม่อุทธรณ์ ด้วยคะแนน 7 ต่อ 1 งดออกเสียง 1 โดยก่อนหน้านี้กลุ่มพันธมิตรฯ ออกมาเรียกร้องให้ ป.ป.ช. อุทธรณ์คดีต่อจำเลยทุกคน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน