คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง

อำนาจ การเมือง หลัง ธรรมนัส พรหมเผ่า ใหญ่กว่า ประยุทธ์

การดำรงอยู่ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ยังเป็นปม เป็นประเด็นแหลมคมทางการเมือง

เนื่องจากเป็นการดำรงอยู่ในสภาพอันถือได้ว่าเป็นการ “ท้าทาย” ต่อการดำรงอยู่ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะนายกรัฐมนตรี

แม้จะเป็นการดำรงอยู่ใต้ร่มเงา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

กระนั้น คำถามอันแหลมคมยิ่งก็คือ เหตุปัจจัยอะไรทำให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยังเลือก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ทั้งๆ ที่ถูกกดดันอย่างต่อเนื่อง

เป็นการกดดันจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

สภาพการณ์กดดันจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต่อ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า มิได้เป็นความลับ

อย่างน้อยที่สุด คำสั่งปลด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า โดยกระบวนการแห่งมาตรา 171 ของรัฐธรรมนูญก็เป็นอำนาจโดยตรงของ “นายกรัฐมนตรี”

นี่ย่อมเป็น “มาตรการ” ขั้นเด็ดขาดในทาง “การเมือง”

ปฏิบัติการผ่านสงคราม “ตัวแทน” โดยเอา 6 รัฐมนตรีจากพรรคพลังประชารัฐเป็น “พร็อกซี่” ก็มีความเด่นชัดว่าเป้าอยู่ที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ไม่แปรเปลี่ยน

กระนั้น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ก็ยังอยู่ในตำแหน่ง “เลขาธิการ”

การท้าทายของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงแหลมคม

แหลมคมเพราะ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ตระหนักรู้อยู่เป็นอย่างดีในสายสัมพันธ์ยาวนานระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

รู้ทั้งรู้แต่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ก็ยัง “ดับเครื่องชน”

เป็นการ “ดับเครื่องชน” โดยตระหนักอย่างมั่นใจเป็นอย่างสูงว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะยังเลือกปกป้องและคุ้มครองให้แสดงบทบาทต่อไป

สะท้อนว่า “แบ๊ก” ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ก็ไม่บันเบา

ท่าทีและการยืนหยัดของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส่งผลสะเทือนทางการเมืองแน่ชัด

โดยพื้นฐานที่สุดก็คือ เท่ากับเป็นการยืนยันให้เห็นว่า อำนาจที่อยู่ข้างหลัง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นอำนาจที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยพลานุภาพ

หากไม่ยิ่งใหญ่ไฉนจะชนกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้อย่างนี้

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน