นิกร มั่นใจกม.ลูก 2 ฉบับ ทำการเมืองคลี่คลาย เข้าสู่โหมดเลือกตั้งเต็มรูป แย้ม ชาติไทยพัฒนา ส่งปาร์ตี้ลิสต์ครบ 100 ชื่อ เชื่อนายกฯยุบสภา หลังศึกซักฟอก

เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 2566 นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงโปรดเกล้าฯ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองว่า เมื่อกฏหมายทั้ง 2 ฉบับมีผลบังคับใช้แล้วในวันนี้ ถือว่าการเมืองไทยจะเข้าสู่โหมดการเลือกตั้งอย่างเต็มรูป ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สามารถรับฟังความเห็นพรรคการเมืองเป็นครั้งสุดท้าย แล้วออกประกาศเขตเลือกตั้งทั้ง 400 เขตได้ในเวลาไม่ช้า ผู้ที่จะสมัครรับเลือกตั้งสามารถเดินหาเสียงได้เต็มที่

นายนิกร กล่าวว่า จากนี้กกต.คงอาศัยอำนาจตามกฏหมายนี้ ออกประกาศของกกต.ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งที่มีจำนวนมากได้เลย เชื่อว่าไม่น่ามีปัญหา เพราะทราบว่าได้เตรียมการรออยู่แล้ว ตอนนี้กกต.คงรอแต่วันที่นายกฯประกาศยุบสภา เชื่อว่าเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาภายการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ในวันที่ 15-16 ก.พ.จบสิ้นลงก่อน เพราะน่าจะถือว่าจะเป็น Last Battle หรือการต่อสู้ฉากสุดท้ายของสภาชุดที่ 25 นี้ จากนั้นภาวะของสภาช่วงปลายสมัยที่เกิดการล่มบ่อยๆ น่าจะเป็นตัวเร่งให้ยุบสภาเกิดขึ้นก่อนปิดสมัยประชุมในวันที่ 28 ก.พ.ได้เหมือนกัน

นายนิกร กล่าวว่า สำหรับพรรคการเมือง เมื่อพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ จะคลี่คลายปัญหาหนักอกเดิมของการต้องมีตัวแทนประจำจังหวัดทุกเขตเลือกตั้ง ก็ใช้ตัวแทนประจำจังหวัดเพียงแห่งเดียวประชุม เพื่อลงมติเห็นชอบรายชื่อผู้สมัครของทุกเขต ที่กรรมการสรรหาของพรรคส่งมาให้ มีมติเพียงแค่เห็นชอบเท่านั้น ไม่ต้องลงคะแนนเลือกตั้งเบื้องต้นก่อนตามกฏหมายเดิม จึงถือว่าปัญหาด้านกฏหมายของพรรคหมดไป พร้อมเข้าสู่การเลือกตั้งเต็มตัว ส่วนใครจะประสบความสำเร็จเพียงใด ขึ้นอยู่กับประชาชน

นายนิกร กล่าวว่า ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรค ได้เรียกประชุมคณะกรรมการในวันที่ 31 ม.ค. ร่วมกับคณะกรรมการประชาสัมพันธ์พรรค ที่มี นายเสมอกัน เที่ยงธรรม เป็นประธาน เพื่อสรุปรายละเอียดของนโยบายแต่ละด้าน และจัดทำเป็นข้อมูลประกอบให้ผู้สมัคร นำไปเสนอต่อประชาชนในเขตของตัวเอง และให้เป็นข้อมูลเชิงนโยบายสำหรับผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ ที่พรรคจะส่งให้ครบทั้ง 100 รายชื่อ ขณะนี้ทยอยมาแสดงเจตจำนงกันหลายรายชื่อแล้ว

นายนิกร กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคไม่มีแรงกดดันใดๆ ที่จะต้องไปแข่งขันกับใคร ในการแย่งตำแหน่งทางการเมืองหลังเลือกตั้ง แต่เราต้องแข่งกับตนเองให้ชนะ ภายใต้การนำของนายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค เชื่อว่าด้วยศักยภาพระดับอินเตอร์ด้านการสื่อสารของนายวราวุธ และนโยบาย ว้าว ไทยแลนด์ ที่ได้ประกาศนโยบายไว้ 10 ด้าน มีเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน จะได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากประชาชนอย่างแน่นอน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน