‘กัณวีร์’ หนุนแก้ มาตรา 272 รอ สว.หมดอำนาจ 10 เดือน อาจเป็นเดอะรีเทิร์นออฟพิธา ยังหวัง 8 พรรคร่วม คัมแบ็กอีกครั้ง ยึดฉันทามติของมหาชน

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 4 ส.ค. 2566 ที่รัฐสภา นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ปิดสวิตช์ สว.ว่า จริงๆแล้วมาตรา 272 ควรแก้ไขและยกเลิกนานแล้ว เพราะเป็นกลไกหนึ่งในการขัดขวางประชาธิปไตย พรรคเป็นธรรมชัดเจนสนับสนุนยกเลิกมาตรา 272 ซึ่งเราเห็นว่าการเลือกนายกฯ ในครั้งแรก ก็ใช้มาตรา 272 ที่มีสว.อยู่ ทำให้เราไม่สามารถโหวตนายกฯได้

เมื่อถามว่าการเสนอการแก้ไขมาตรา 272 เป็นทางเลือกหนึ่งนอกเหนือจากการเสนอรอ 10 เดือนให้สว.หมดวาระหรือไม่ นายกัณวีร์ กล่าวว่า เป็นทางเลือกหนึ่ง อาจจะเป็น เดอะรีเทิร์นออฟพิธา ก็ได้ หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้ว เราสามารถให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ถูกเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯอีกครั้ง เพราะวันที่เลือกนายกฯ วันที่ 19 ก.ค. มีปัญหาที่ข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อที่ 41 ที่ไม่สามารถเสนอญัตติที่เสนอไปแล้ว กลับเข้ามาใหม่ได้

แต่ครั้งนี้เราจะบอกว่าการเลือกนายกฯ ไม่ใช่ญัตติ จะทำให้มีโอกาสตั้งรัฐบาลของ 8 พรรคร่วมรัฐบาลเดิมได้เหมือนเดิม

เมื่อถามว่าคิดว่าแก้มาตรา 272 เป็นทางเลือกหนึ่งหรือไม่ นายกัณวีร์ กล่าวว่า เป็นทางเลือกหนึ่งและเป็นทางเลือกที่ดีด้วย เพราะควรเป็นตั้งนานแล้ว อย่างไรก็ตาม มีความพยายามจะคุยกับ สว.อย่างต่อเนื่องว่าจะขอให้ยกมือให้แคนดิเดตนายกฯตั้งแต่แรกจนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก ฉะนั้น นี่จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่พรรคร่วมรัฐบาลโดยเฉพาะพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ได้เสนอขึ้นไป

ส่วนที่สว.บางคนระบุว่าการแก้ไขมาตรา 272 จะต้องทำประชาพิจารณ์จากประชาชนก่อนไม่สามารถแก้ไขในที่ประชุมรัฐสภาได้ นายกัณวีร์ กล่าวว่า เป็นหนึ่งทางในการซาวน์เสียง จริงๆ สส.ก็เป็นตัวแทนของประชาชนเช่นกัน ฉะนั้น การทำประชาพิจารณ์ก็จำเป็น แต่ตอนนี้จำเป็นต้องทำทุกวิถีทาง ตัวเลือกต่างๆ ต้องเอามาวางบนโต๊ะให้พิจารณาได้

เมื่อถามว่าการประกาศตัวพร้อมเป็นฝ่ายค้าน เป็นความเห็นส่วนตัวหรือมติพรรค นายกัณวีร์ กล่าวว่า เป็นทั้งความเห็นส่วนตัว และมติพรรคพูดคุยกับหัวหน้าพรรคเรียบร้อย นี่คืออุดมการณ์ของพรรคเป็นธรรมว่าเราจะสนับสนุนประชาธิปไตย

เมื่อถามว่าอึดอัดใจหรือไม่ ที่พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล เหมือนจะไปกันไม่ได้ นายกัณวีร์ กล่าวว่า ไม่อึดอัด จริงๆการเมืองคือ การต่อรองและการพูดคุยกัน ถ้ามีทางเลือกที่ทำให้ดีที่สุด คงต้องเป็นไปอย่างนั้น แต่อย่างไรก็ตาม การพูดคุยต่อรองต้องให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง จริงๆและต้องเอาอำนาจคืนสู่ประชาชน








Advertisement

เมื่อถามว่ายังมีความหวังหรือไม่ที่ 8 พรรคจะมาจับมือกันได้อีก นายกัณวีร์ กล่าวว่า ตนมีความหวัง เพราะจะเป็นสิ่งเดียวที่มติมหาชนเป็นแหล่งที่มาที่เดียวของอำนาจที่จะไปสถาปนาอำนาจรัฐ ฉะนั้น การพูดคุยกัน 2 พรรคใหญ่ รวมถึงอีก 6 พรรค ที่ร่วมเซ็นเอ็มโอยูกันแต่แรก จะเป็นแหล่งที่มาที่เดียวของอำนาจรัฐตอนนี้

“ข้อเสนอ 10 เดือนอาจจะถึง ขอให้ทุกคนมีความมั่นใจว่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการนำมาซึ่งรัฐบาลของประชาชนจริงๆ” นายกัณวีร์ กล่าว

นายกัณวีร์ กล่าวต่อว่า ได้คุยกับนายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคก้าวไกล ซึ่งคุยกันว่าเราจะไปร่วมจัดตั้งฝ่ายค้าน เรายังมีโอกาสจัดตั้งรัฐบาลเพราะพวกเราถึงแม้จะร่วมมือกัน ไม่ใช่เราจะร่วมมือฝ่ายค้านอย่างเดียวเพราะเรามีฉันทามติของมหาชน จะทำให้เราเป็นฝ่ายรัฐบาลได้ ฉะนั้นบอกไปเลยให้เสียงดังๆว่าเราจะจัดตั้งรัฐบาลให้ได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน