นายกฯ ไม่ท้อคนด่า บอกเสียงชมก็มี แจงปมจ่ายเงินเดือนข้าราชการ 2 รอบ หวังแก้ปัญหาชั้นผู้น้อยชักหน้าไม่ถึงหลัง มอบ กรมบัญชีกลาง ทำ 2 ออฟชั่น จ่ายเดือนละ 2ครั้ง-เดือนละครั้ง
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 14 ก.ย.2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้ปรับจ่ายเงินเดือนข้าราชการเป็น 2 รอบว่า ปัจจุบันจ่ายเงินเดือนเดือนละหน แต่การแบ่งจ่าย 2 หนจะช่วยแบ่งเบาภาระคนที่มีหนี้สิน สามารถจ่ายหนี้สินคืนได้เร็วขึ้น คนที่เป็นหนี้ก็หักจ่ายเป็น 2 งวดได้ และสามารถจัดสรรได้
มีบางคนบอกว่าเป็นเรื่องของกระแสเงินสดที่รัฐบาลมีปัญหา แต่ความจริงไม่ใช่เลย หากแบ่งจ่าย 2 รอบทีละครึ่งเดือนทุกวันที่ 15 และสิ้นเดือน ส่วนใครไม่มีหนี้ ก็นำเงินไปลงทุนทำประโยชน์อื่นหรือฝากธนาคารได้
“ขอให้เป็นทางเลือก ก็จะมีแต่เสมอตัวกับดีขึ้น ผมเข้าใจว่าการที่เราเสนอทางเลือกใหม่ มีทั้งคนชอบและคนไม่ชอบ แต่รัฐบาลเราบริหารจัดการประเทศโดยที่มีขีดงบประมาณจำกัด เราต้องคำนึงถึงทุกๆ มิติ ของการออกแต่ละนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ สิ่งใดที่ไม่เป็นภาระงบประมาณ เพราะเรื่องนี้ก็ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม เป็นแค่โปรแกรมใหม่ที่จะจ่ายเงินอย่างไรเมื่อไร” นายเศรษฐา กล่าว
เราคำนึงถึงวินัยการเงินการคลัง มีหลายคนโดยเฉพาะข้าราชการชั้นผู้น้อยที่เพิ่งเข้ามาทำงานก็อาจมีปัญหาภาระทางการเงิน และต้องแบ่งจ่ายชักหน้าไม่ถึงหลังก็เท่านั้น ซึ่งกรมบัญชีกลางจะทำเป็นออฟชั่นให้เลือกว่าจะเอาแบบไหน ฉะนั้น ตนว่าตรงนี้ใจเย็นนิดหนึ่ง
เมื่อถามว่าเรื่องดังกล่าวรัฐบาลได้ศึกษามาก่อนหน้านี้โดยละเอียดแล้วใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ใช่ มีการถามไปแล้วกับข้าราชการทุกระดับ คุยหมด และถามหมด ตนหวังว่าบริษัทแต่ละบริษัท น่าจะลองเอาไปเป็นทางเลือก ตนขอใช้คำว่า ทางเลือกนี้เป็นทางเลือกที่ดี
เมื่อถามว่าหลังจากมีกระแสวิจารณ์ออกมาอย่างมาก นายกฯและรัฐบาลพร้อมจะปรับแนวทางเลือกใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนบอกแล้วว่า เป็นทางเลือก ไม่ปรับ เป็นทางเลือกคือแบ่งจ่าย 2 หน หรือจ่ายทีเดียวก็ได้ เพราะทางเลือกเป็นทางเลือกที่ดี หากใครไม่ชอบก็ใช้อย่างเดียวก็ได้ หรือใครอยากจะจ่ายสองหนก็ได้ มีแต่ดีขึ้นกับเสมอตัว ถ้าใครไม่ชอบก็เอาแบบเก่า ถ้าใครจะจ่าย 2 หน ก็ทำได้ อย่างเช่น หนี้ครูก็แบ่งจ่ายสองหนได้ โดยพูดคุยได้กับสถาบันทางการเงิน เพราะเขาต้องการแค่หนี้คืน
ส่วนจะจ่ายอย่างไรนั้นเป็นเรื่องที่พูดคุยกันได้ เพราะทุกคนทราบดีว่าประชาชนประสบปัญหาเรื่องเศรษฐกิจกระแสเงินสด ซึ่งเราก็คิดให้และทำมาให้ ส่วนเรื่องผลตอบแทนที่สูงขึ้นนั้น ก็เป็นแผนระยะยาวของเรา หากมีความพร้อมก็จะแถลงอีกครั้ง
เมื่อถามว่าเหมือนนายกฯ จะหวังดีแต่กระแสที่ออกมาตรงกันข้าม จะทำอย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า “สู้ต่อ ไม่มีอะไร เพราะทราบอยู่แล้วว่าการออกนโยบายอะไรไป ต้องมีทั้งกระแสลบและกระแสบวก”
เมื่อถามย้ำว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะปรับใหม่โดยไปเพิ่มเงินเดือนข้าราชการ นายเศรษฐา ยิ้มและกล่าวว่า “ก็อย่างเมื่อกี้ที่ผมบอกไปว่าเป็นแผนระยะยาว แต่ต้องดูโดยองค์รวมทั้งหมดของข้าราชการที่เกษียณและที่เข้ามาใหม่ว่าเป็นอย่างไร”
ต่อข้อถามว่าแสดงว่ามีแผนอยู่ในใจว่าจะขึ้นเงินเดือนข้าราชการใช่หรือไม่ นาย เศรษฐา กล่าวว่า ตนขอเรียนว่าถ้าหากพร้อมแล้วจะแถลง ไม่ต้องห่วง เรื่องของปากท้องข้าราชการ ทุกภาคส่วน อยู่ในใจของครม.ชุดนี้อยู่แล้ว แต่หากเกิดว่าตนพูดอะไรไป เดี๋ยวจะเข้าใจผิดอีก ขอให้พร้อมดีกว่าแล้วจะจัดการให้
เข้าใจดีว่าทุกภาคส่วนเดือดร้อน การประชุมครม.นัดแรก เราพยายามเข็นนโยบายดี ส่วนรายละเอียดระยะเวลาจะตามมา ซึ่งสื่อก็ถามตลอดว่า เท่าไร เมื่อไรและอย่างไร ตนก็พยายามให้มีภาวะสมดุลระหว่างการที่จะแถลงนโยบายออกไป เพื่อให้ทราบว่ารัฐบาลทำอะไรอยู่บ้าง แต่ถ้าไม่ครบถ้วนบางทีก็ถูกตำหนิ จึงต้องบาลานซ์ตรงนี้ให้ได้เหมือนกัน ตนพยายามอยู่ ไม่ได้เป็นห่วง อยากทำให้ดีที่สุด เพื่อให้ทุกคนและคนหมู่มาก มีความสุข และนโยบายโดนใจทุกคน
เมื่อถามว่านายกฯ ยังไม่ท้อใจใช่หรือไม่ที่โดนด่าเรื่องนี้ นายเศรษฐา กล่าวว่า คนชมก็มีเยอะ แต่ก็อย่างว่าผมต้องฟังทุกเสียงทั้งติทั้งชม เพราะเป็นบุคคลสาธารณะแล้ว เสียงบางเสียงก็มีประโยชน์ ติก็ขอให้ติอย่างสร้างสรรค์