“กรุณพล” เผย มติที่ประชุมใหญ่ “ก้าวไกล” ต้องการผู้นำฝ่ายค้าน ลุยตรวจสอบรัฐบาลชัดเจน จ่อถก “ปดิพัทธ์” พรุ่งนี้ รับ เสียดาย ถ้าต้องขับออกจากพรรค

เมื่อเวลา 13.42 น. วันที่ 27 ก.ย. 2566 ที่รัฐสภา นายกรุณพล เทียนสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงผลการประชุม สส.ของพรรคก้าวไกลเมื่อวานนี้(26 ก.ย.)ในเรื่องของตำแหน่งรองประธานสภาฯว่า จะมีการประชุมอีกครั้งร่วมกับ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯคนที่ 1 เนื่องจากในครั้งที่แล้วนายปดิพัทธ์ยังไม่กลับจากสิงค์โปร์

แต่ขณะนี้มีมติออกมาชัดเจนแล้วว่า พรรคก้าวไกลต้องการตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านที่จะผลักดันประเด็นต่างๆ และขับเคลื่อนสภาฯ รวมถึงตรวจสอบรัฐบาล เพราะฉะนั้นจะมีการพูดคุยกับนายปดิพัทธ์ ว่าเมื่อพรรคมีมติเช่นนี้แล้วนายปดิพัทธ์ยอมรับกับมติของที่ประชุมอย่างไร โดยจะมีการประชุมในวันพรุ่งนี้(28ก.ย.)

กรุณพล เทียนสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคก้าวไกล

เมื่อถามว่า หากนายปดิพัทธ์ไม่ลาออกจะต้องมีการขับออกหรือไม่ นายกรุณพล กล่าวว่า ต้องอยู่ที่กรรมการบริหารพรรคว่าจะมีมติอย่างไร การพูดคุยยังไม่เริ่มขึ้น คงตอบได้ลำบาก

เมื่อถามว่า ยืนยันหรือไม่ว่า พรรคก้าวไกลต้องได้ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านก่อนที่จะมีการประชุมสมัยหน้า นายกรุณพล กล่าวว่า ใช่ มั่นใจว่า ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านสามารถผลักดันประเด็นที่แหลมคม และทำการตรวจสอบรัฐบาลได้อย่างชัดเจน รวมถึงกรรมาธิการหลายคณะที่เราได้เป็นประธาน เราจึงมีความกังวลว่าเมื่อมีการตรวจสอบภาครัฐโดยที่ประธานกมธ.ไม่ใช่สัดส่วนของพรรคฝ่ายค้าน อาจมีปัญหาหรือความล่าช้าในการตรวจสอบ การมีตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน ย่อมทำให้เราตรวจสอบได้ดียิ่งขึ้น

เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยหรือไม่ว่า จะรักษาทั้ง 2 ตำแหน่ง นายกรุณพล กล่าวว่า มี แต่ด้วยรัฐธรรมนูญมีข้อกำหนดว่า พรรคที่มีผู้นำฝ่ายค้านไม่สามารถมีตำแหน่งประธานสภาฯ รองประธานสภาฯ หรือรัฐมนตรีได้ ซึ่งขัดกับรัฐธรรมนูญ กรรมการบริหารพรรคคงวางแนวทางการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อยู่แล้ว

เมื่อถามว่าเสียดายหรือไม่ หากต้องขับนายปดิพัทธ์ออก นายกรุณพล กล่าวว่า ส่วนตัวแล้วสนิทกับนายปดิพัทธ์ก็เสียดาย แต่เท่าที่เคยคุยกันไม่เกี่ยวกับการขับหรือไม่ขับ ตัวนายปดิพัทธ์เองไม่เคยเข้าพรรคและไม่เคยเข้าร่วมประชุมของพรรคเลย หรือแสดงความเห็นใดๆถึงนโยบายหรือญัตติของพรรคเลย ตั้งแต่ดำรงตำแหน่งประธานสภาฯ ต้องบอกว่านายปดิพัทธ์เป็นคนนอกของพรรคตั้งแต่วันที่รับตำแหน่งแล้ว

เมื่อถามว่า หากต้องขับออกจริงๆ จะมีเหตุผลเพียงพอต่อการชี้แจงต่อประชาชนหรือไม่ นายกรุณพล กล่าวว่า อยู่ที่กก.บห.พรรคและนายปดิพัทธ์ว่าเหตุผลที่จะยังอยู่หรือจะลาออกจะเป็นอย่างไร เพราะในวันนี้ยังไม่ตัดสินใจได้ ว่านายปดิพัทธ์จะยังคงอยู่ในตำแหน่งหรือยินดีที่จะลาออก เพื่อมาร่วมงานกับพรรคก.ก.อีกครั้งหนึ่ง

เมื่อถามถึงกรณีที่นายปดิพัทธ์เคยระบุว่าอยากทำงานตรงนี้ต่อเนื่องจากยังมีแผนการทำงานอีกมาก นายกรุณพล กล่าวว่า ได้ยินมาเช่นเดียวกันว่านายปดิพัทธ์มีแผนที่อยากให้สภาโปร่งใสและทันสมัย เทียบเท่ากับประเทศโลกที่ 1 ที่พัฒนาแล้ว โดยทำให้สภาฯเป็นที่รวมของประชาชนทุกคน

ปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯคนที่ 1

แต่ต้องอยู่ที่การพูดคุยของ กก.บห.พรรค ว่าสุดท้ายแล้วเป็นมติของที่ประชุมใหญ่ และแนวทางการทำงานของนายปดิพัทธ์จะเป็นไปในทิศทางหรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็คงต้องมีการตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่ง จากกก.บห.พรรคซึ่ง ส.ส.ทุกคนคงไม่มีสิทธิ์ก้าวล่วงในการตัดสินใจนั้น

เมื่อถามว่า ส่วนตัวอยากเห็นนายปดิพัทธ์อยู่ในตำแหน่งใด นายกรุณพล กล่าวว่า ส่วนตัวอยากเห็นในตำแหน่งรองประธานสภาฯ เนื่องจากนายปดิพัทธ์อยากให้สภาขับเคลื่อนด้วยความรวดเร็วและตรวจสอบได้ คิดว่านายปดิพัทธ์น่าจะเหมาะกับการดูแลสภาฯแห่งนี้

เมื่อถามว่า หากต้องขับนายปดิพัทธ์จริงรับได้ใช่หรือไม่ รองโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ถ้าแค่ขับออกก็รับได้ แต่ถ้าให้อยู่ก็ยินดีมากๆ

เมื่อถามถึงข้อครหา ใช้อะไรเพื่อรักษาทั้ง 2 ตำแหน่ง นายกรุณพล กล่าวว่า ไม่กังวล เพราะเรามีคำตอบในทุกคำถามอยู่แล้ว ตนเชื่อว่ากก.บห.พรรคและนายปดิพัทธ์น่าจะมีคำตอบที่ชัดเจน ตรงไปตรงมาให้กับประชาชน

เมื่อถามว่า หากนายปดิพัทธ์ลาออกแล้วตำแหน่งนี้ไปอยู่กับพรรคอื่นจะคุ้มหรือไม่ นายกรุณพล กล่าวว่า ถ้าเป็นไปตามรัฐธรรมนูญเราคงใช้คำว่าคุ้มหรือไม่คุ้มไม่ได้ เพราะเป็นข้อกำหนดที่บังคับอยู่ สุดท้ายเราจำเป็นต้องเลือก 1 ตำแหน่ง

หากพรรคก.ก.มีส.ส.151 คน จะปล่อยให้ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านไปอยู่ในมือ ของพรรคที่มี ส.ส.หลัก 10 เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ถ้าพรรคก.ก.พลาดจากการเป็นรัฐบาลก็ควรจะเป็นผู้นำฝ่ายค้าน

เมื่อถามว่า การขับนายปดิพัทธ์ออกไปพรรคอื่น พรรคนั้นอาจถูกมองว่าเป็นพรรคสำรองของพรรค ก้าวไกลหรือไม่ นายกรุณพล กล่าวว่า แล้วแต่มุมมอง ในกรณีที่ขับออกแล้วไปอยู่กับพรรคเพื่อไทย(พท.) พรรคเพื่อไทยจะเป็นพรรคสำรองของพรรคก้าวไกลหรือไม่ หรือถ้าขับออกแล้วไปอยู่พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)แล้วพรรคพปชร.เป็นพรรคสำรองของพรรคก้าวไกลก็คงจะไม่ใช่คำตอบ เพราะฉะนั้นอยู่ที่ความเชื่อและความเห็นของแต่ละคนคงไม่สามารถห้ามความคิดใครได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน