ชวน กรีด ‘เศรษฐา’ บอกราคายางดีเพราะปราบยางเถื่อน หากวันหน้า ยางราคาตก ระวังโดนตำหนิหลอกชาวบ้าน เหน็บไม่ใช่นายกฯอีแอบ ลงพื้นที่นิดเดียวทวงบุญคุณ

วันที่ 4 เม.ย.2567 ที่รัฐสภาในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 เป็นวันที่ 2 โดยนายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า ขณะนี้ราคายางพาราขึ้นเป็นเรื่องน่าดีใจ เป็นไปตามหลักอุปสงค์ อุปทาน

แต่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง และร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ระบุไม่ใช่เหตุบังเอิญที่ราคายางขึ้น เป็นเพราะการปราบยางเถื่อนนั้น ขอทำความเข้าใจว่า เป็นห่วงประชาชนจะเข้าใจผิด เหตุผลหลักที่ราคายางขึ้นคืออุปสงค์ อุปทาน ราคายางไม่ได้ขึ้นเฉพาะประเทศไทย ขึ้นทุกประเทศ เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย

“กลัวว่า ถ้าอนาคตยางราคาตก รัฐบาลจะโดนตำหนิอย่างหนัก ว่าหลอกชาวบ้านว่าปราบยางเถื่อนแล้วราคายางจะขึ้นตลอดไป จึงอยากให้รัฐบาล ทบทวนพิจารณาอย่างถี่ถ้วนรอบคอบ และต้องบอกความจริงกับชาวสวนยางด้วย จึงอยากถามรัฐบาลว่า คิดว่ายางราคาจะดีอย่างนี้ตลอดไปหรือไม่ โดยไม่เกี่ยวข้องกับอุปสงค์อุปทาน และหากวันข้างหน้าเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทำให้ยางราคาตก รัฐบาลมีเป้าหมายหรือไม่ ว่าควรจะได้ราคาไม่ต่ำกว่าเท่าไหร่” นายชวน กล่าว

นายชวน กล่าวถึงความสงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า การแก้ปัญหาความไม่สงบ ตนถือเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดโดยเอาชีวิตคนเป็นหลัก ความผิดพลาดจากนโยบายในอดีตทำให้เสียชีวิตคนไปมาก โดยเฉพาะนโยบาย 8 เม.ย.2544 ที่เกิดขึ้นในสมัยที่รัฐบาลท่านปกครองอยู่ ซึ่งเป็นความผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่ ทำให้ไม่จบ จึงจำเป็นที่รัฐบาลชุดนี้ต้องทบทวนว่าจะมีมาตรการป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างไร เพื่อทำให้สถานการณ์ดีขึ้น

นายชวนกล่าวต่อว่า ส่วนที่นายกฯ พูดว่าลงพื้นที่ภาคใต้ 2 วัน 3 คืนไม่เห็นมีใครใส่เสื้อเกราะ หรือทหารขับรถถังตามมา เพราะมั่นใจว่าไปด้วยเจตนาที่ดี ไปด้วยใจจริงเพราะพรรคเพื่อไทยไม่มีสส.ที่นั่น ขออย่าไปเชื่อวาทกรรมที่ผู้นำบางท่านพูดว่าเพื่อไทยไม่เคยให้ความสำคัญกับภาคใต้ สนามบิน จ.ภูเก็ต พรรคเพื่อไทยไม่มีสส.แต่ลงทุนไปหลายหมื่นล้านบาทนั้น เมื่อเป็นนายกฯ ถือเป็นหน้าที่อยู่แล้ว ไปนิดเดียวอย่าทวงบุญคุณ

ส่วนที่นายกฯ ไปภูเก็ตก็เข้าใจเพราะมีบริษัทอสังหาริมทรัพย์อยู่ที่นั่น ภูเก็ตเป็นเมืองที่ทำรายได้ท่องเที่ยวอันดับหนึ่ง เราต้องช่วยพัฒนาเขา เพราะรายได้คือส่วนหนึ่งของภาษี

“นายกฯเศรษฐา ไม่ใช่นายกฯอีแอบ เป็นนายกฯมาครึ่งปีแล้ว ผมติดภาษาใต้เศรษฐา เขาเรียกว่า เสดสา แปลว่าลำบาก และยืนยันว่าผมไม่เคยพูดว่าพรรคเพื่อไทยไม่ให้ความสำคัญกับภาคใต้ นายกฯ ไปเอามาจากไหน ผมพูดในวันแถลงนโยบายว่า ภาคใต้ถูกเลือกปฏิบัติ คนที่เลือกปฏิบัติ เขาไม่ได้ทำโดยแอบทำ หรืออีแอบ เขาพูดตรงไปตรงมาว่าพัฒนาจังหวัดที่เลือกเราก่อน จังหวัดอื่นไว้ทีหลัง หากนายกฯ ไม่ทราบว่าคนพูดคือใคร ผมจะบอกให้ ท่านทักษิณ พูดโดยประกาศกับประชาชนตรงๆ”นายชวนกล่าว

ทำให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ประท้วงทันทีเพราะพูดพาดพิงถึงคนนอกที่ไม่มีสิทธิ์มาชี้แจง ทำให้นายชวน โต้กลับทันทีว่า “ไม่มีใครอยู่ในกรอบเท่าผม”

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้ขอความร่วมมือนายชวน หลีกเลี่ยงการเอ่ยชื่อบุคคลภายนอก

ก่อนที่นายชวน อภิปรายต่อว่า ยืนยันไม่เคยพูดว่าเพื่อไทยไม่เคยให้ความสำคัญกับภาคใต้ แค่พูดถึงการเลือกปฏิบัติ ทำให้เสียโอกาส และขอให้รัฐบาลช่วยชดเชยการเสียโอกาสนั้น แต่ทุกวันนี้การชดเชยก็ยังไม่มี

“ผมไม่ใช่คนพูดพล่อยๆ ในชีวิตการเมืองมาจากการเลือกตั้ง ไม่ใช่คนพูดบ่อย พูดพล่อย พูดบ้าน้ำลายรายวัน พูดอะไรเป็นเรื่องจริง และรับผิดชอบ ถ้านายกฯข้องใจอะไรที่ผมพูดกระทบ เมื่อท่านไปเข้าใจผิดและพูดกระทบผมก็ไม่ได้โกรธเคือง แต่สิ่งที่ท่านพูดไป คนฟังรู้สึกทำไมนายกฯต้องมานินทานายชวน หลีกภัย”

นายชวนกล่าวว่า นโยบายรัฐบาลที่ระบุจะสร้างความชอบธรรม โดยฟื้นฟูหลักนิติรัฐนิติธรรมที่เข้มแข็ง แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากกรณีนักโทษที่ไม่ขอเอ่ยชื่อ คนป่วยหายป่วยเป็นเรื่องดี แต่ประเด็นที่อยากเตือนคือรัฐบาลปล่อยปะละเลย ไม่ให้กฎเกณฑ์กติกา ความถูกต้อง เสมอภาค การไม่เลือกปฏิบัติเกิดขึ้น อ้างว่าเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่

จึงต้องมีคำถามว่ารัฐบาลจะดำเนินการกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไร ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ รัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร ขอให้ทุกคนยึดหลักความถูกต้อง และหลักนิติธรรม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน