เมื่อวันที่ 10 มี.ค. พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลยืนยันโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก(อีอีซี) เป็นนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ กำหนดให้มีการลงทุนใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่ของจ.ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง เหมือนในหลายประเทศ ทุกโครงการที่จะเข้ามาลงทุนต้องศึกษาความเป็นไปได้ เช่น ประโยชน์ที่จะได้รับ ผลกระทบที่เกิดกับชุมชนและแนวทางการเยียวยา ก่อนการอนุมัติโครงการต้องเปิดรับฟังความเห็นของประชาชน รวมถึงเปิดเผยผลการศึกษาและร่างผังของเขตส่งเสริมที่จะขอรับการสนับสนุนด้วย

พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า ขณะนี้มีความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่า รัฐบาลให้สิทธินักลงทุนต่างชาติเช่าที่ดินถึง 99 ปี ถือเป็นการขายชาติ ซึ่งการให้สิทธิดังกล่าวไม่ได้แตกต่างไปจากสิทธิตาม พ.ร.บ.การเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรม พ.ศ.2542 จึงไม่ได้ให้สิทธิใหม่หรือให้สิทธิเพิ่มเติม เพราะเป็นสิทธิเดิมที่นักลงทุนต่างชาติเคยได้รับมาตั้งแต่ปี 2542 แล้ว โดยสัญญาเช่าครั้งแรกจะไม่เกิน 50 ปี และขยายตัวได้ตามความตกลงอีกไม่เกิน 49 ปี ตามหลักปฏิบัติสากลที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนถึงความคุ้มค่า

โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า การต่ออายุเช่าที่ดินไม่ใช่การต่อโดยอัตโนมัติ ทุกโครงการจะต้องผ่านการทบทวนและเป็นไปตามเงื่อนไขที่คณะกรรมการบริหารอีอีซีกำหนด ผู้ที่เข้ามาลงทุนต้องเป็นนิติบุคคล เช่าที่ดินเพื่อประกอบกิจการในอุตสาหกรรมเป้าหมาย จะเช่าเพื่ออยู่อาศัยไม่ได้ และถือจำนวนที่ดินได้ไม่เกินที่กฎหมายกำหนด ถ้าไม่ได้ประกอบกิจการ 3 ปี จะต้องขายสิทธิที่ดินภายใน 1 ปี

“นายกฯระบุว่าขณะนี้มีขบวนการสร้างข่าวบิดเบือน เพื่อให้เกิดความเข้าใจผิดว่ารัฐบาลขายชาติให้กับคนต่างด้าว จึงเป็นห่วงและขอให้ทุกคนพิจารณาด้วยความรอบคอบ พร้อมกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งทำความเข้าใจอย่างต่อเนื่อง” พล.ท.สรรเสริญ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน