“คิง เพาเวอร์” พร้อมเปิดยิ่งใหญ่แฟล็กชิพใหม่แห่งเอเชีย “เดอะ สแตนดาร์ด แบงค็อก มหานคร” ศูนย์รวมความสุขครบวงจร ชูจุดขายสร้างความประทับใจคนไทยและนักท่องเที่ยวทั่วโลกด้วย 4 สไตล์ “ดีไซน์ศิลปะ-ห้องพักบิกเกอร์เพนต์เฮาส์-ห้องอาหาร5เทรนด์-ห้องประชุมฉีกแนว” จัดเต็มแพกเกจแนะนำช่วงเปิดตัววันนี้-30 ก.ย.65 “เศรษฐา ทวีสิน” ซีอีโอ เดอะ สแตนดาร์ด อินเตอร์เนชั่นแนล ลั่นมั่นใจนำแบรนด์หนุนโรงแรมสร้างความสำเร็จปลุกท่องเที่ยวคึกคักระยะยาว
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ พร้อมเปิดบริการแฟล็กชิพแห่งเอเชีย “โรงแรม เดอะ สแตนดาร์ด แบงค็อก มหานคร” (The standard, Bangkok Mahanakorn) ในอาคารคิง เพาเวอร์ มหานคร เริ่มตั้งแต่ 29 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป โดยได้ฉีกแนวนำศูนย์รวมความสุขครบวงจรแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ บนถนนสีลม-สาทร ตอบสนองไลฟ์สไตล์ มาต้อนรับนักท่องเที่ยวคนไทยและทั่วโลก
ช่วงเปิดแนะนำบริการโรงแรมด้วยแพกเกจ Bite into Bangkok จองแล้วสามารถเข้าพักได้ตั้งแต่ 29 กรกฎาคม -30 กันยายน 2565 พร้อมรับเครดิตสูงสุด 5,000 เพื่อนำมาใช้เป็นค่าอาหาร เครื่องดื่ม อัพเกรดห้องพัก หรือคลาสเรียนออกกกำลังส่วนตัว
โรงแรม เดอะ สแตนดาร์ด แบงค็อก มหานคร พร้อมแล้วที่จะเชิญชวนให้ผู้ที่หลงรักการพักผ่อนและเดินทางตามแบบวิถีใหม่ New Normal เข้ามาร่วมเพิ่มเมนูประสบการณ์กับเทรนด์หรูกับไฮไลต์บริการหรูสุดคุ้มค่า 4 สไตล์ ได้แก่
สไตล์แรก “ดีไซน์โรงแรมหรูศูนย์รวมศิลปะโลก” ที่ได้ “Jaime Hayon” ศิลปินและนักออกแบบตกแต่งภายในชาวสเปนหลอมไอเดียรวมเสน่ห์กรุงเทพด้วยการวาดชิ้นงานทั้งภายในและภายนอกแต่ละมุมให้เข้ากับศิลปะต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดีเลิศ ล่าสุด Marco Brambilla สุดยอดศิลปินอิตาเลียนนำผลงานชิ้นเอกในรูปแบบวีดีโอ Heaven’Gaete ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของซีรีย์ The Box เป็นต้นแบบโรงแรมแรกแบรนด์ฮอลิวู้ดโดยทุกไตรมาสจะนำผลงานสลับมาจัดแสดงเป็นแม่เหล็กดึงดูดตลาดยุคใหม่
ขณะเดียวกันบริเวณพื้นที่ส่วนกลางของโรงแรมผู้ใช้บริการจะได้สนุกกับงานศิลปะที่สอดแซกย่านชุมชนไว้ทุกมุมด้วยลายเส้นภาพวาดพอร์ตเทรทของคู่รักบนพื้น เรื่อยไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์ รูปทรงเก๋ ๆ ไว้ให้นั่งพักผ่อน พร้อมสิ่งของแฮนด์เมดจากแบรนด์ดังของศิลปินไทยที่วางขายอยู่ใน The Shop ตอบโจทย์ความต้องการของทุกกลุ่ม
สไตล์ที่สอง “ห้องพัก” 155 ห้อง ที่มีไฮไลต์บิ๊กเกอร์เพนต์เฮาส์ขนาดกว้างที่สุดถึง 144 ตารางเมตร รายล้อมด้วยเฟอร์นิเจอร์แบบเรโทร ภายในมีห้องครัวติดตั้งอุปกรณ์แบรนด์ระดับโลก Gaggenau สามารถจัดเลี้ยงส่วนตัว สังสรรค์กับครอบครัว และเพื่อนรู้ใจ ส่วน “ห้องน้ำ” มาพร้อมอ่างขนาดใหญ่และต้นไม้เหมือนอยู่ในบ้านตัวเอง
สำหรับห้องพักขนาดมาตรฐานมีตั้งแต่ 40 ตารางเมตร/ห้อง ไปจนถึงเพนเฮาส์ขนาด 144 ตารางเมตร/ห้อง
ภายในโรงแรมมี “สิ่งอำนวยความสะดวก” สระว่ายน้ำ ที่ทางบาร์คาร์ฟบรรยากาศทรอปิคอล บริการเสิร์ฟเมนูค็อกเทลแสนนานาชนิด และ Plant Based ต่าง ๆ อย่าง เดอะ สแตนดาร์ด ยิม ห้องออกกำลังชมวิวเมืองมหานครได้ตลอด 24 ชั่วโมง
สไตล์ที่สาม “ห้องอาหาร-บาร์-ไนท์ไลฟ์” โดดเด่นมากที่สุดในการแปลงโฉมให้โรงแรม เดอะ สแตนดาร์ด แบงค็อก มหานคร กลายเป็นแหล่งแฮงค์เอาท์เพื่อให้เลือกใช้บริการได้ถึง 5 ห้อง เริ่มจาก
ห้องที่ 1 “เดอะ สแตนดาร์ด กริลล์” ร้านสเต็กเฮาส์อเมริกันต้นแบบจากกรุงนิวยอร์กในย่าน Meatpacking District เสิร์ฟตั้งแต่มื้อเช้าไปจนถึงค่ำ เมนูไฮไลต์ The Standard BKK Wagyu Burger เนื้อฉ่ำ รับประทานกับจานเด็ดอีกหลากหลายเมนู เช่น ฟัวกราร์ ทาทาร์เนื้อ สเต็กเนื้อ เสิร์ฟบนรถเข็นดีไซน์พิเสษทำจากไม้และหินอ่อน เรื่อยไปจนถึงเครื่องดื่มค็อกเทลที่ได้แรงบันดาลใจจากยุค 1920 และไวน์หลากหลายชนิด
ห้องที่ 2 “โอโฮ/ojo” ห้องอาหารเม็กซิกัน บนชั้น 76 ได้เชฟมือดี Francisco Paco Ruano จากเม็กซิโกมาปรุงให้ถึงกรุงเทพฯ ดึงดูดนักกินดื่มให้มารวมตัวกันเช่นเดียวกันกับห้อง Boom Boom Room รูปท็อปในตำนานของ เดอะ สแตนดาร์ด ที่มหานครนิวยอร์ก และรูปท็อปดีที่สุดในโลก Decimo ลอนดอน
ห้องที่ 3 The Sky Beach ชั้น 78 มุมดื่มด่ำวิวกรุงเทพ 360 องศา ท่ามกลางเสียงเพลงของดนตรีจังหวะดาวน์เทมโป เสิร์ฟค็อกเทลที่มีเมนูให้เลือกสรรได้แบบไม่รู้จบ
ห้องที่ 4 Mott 32 Bangkok ห้องอาหารจีนต้องห้ามพลาด พร้อมนำทัพความอร่อยหลากหลายเมนูสสไตล์โมเดิร์นต้นตำรับกวางตุ้งจากฮ่องกง นำวัตถุดิบพรีเมี่ยมจากทั่วโลกมาปรุงสูตรเด็ด ไฮไลต์คือเมนู เป็ดปักกิ่งรมควันด้วยไม้แอปเปิ้ล ตามด้วยค็อกเทล และชาที่ Tease ทีรูม บรรยากาศเหมือนฉากหนังสวย ๆ มีเมนูชาหลากชนิดกับอาหารรับประทานเล่น
ห้องที่ 5 The Parior แหล่งแฮงค์เอาท์ ดีไซน์โปร่งโล่งทั้งภายในและภายนอกอาคาร จุดที่จะรวมพลคนรักการสังสรรค์ และชื่นชอบการทำกิจกรรม โดยมีแบรนด์ The Standard Bingo มาคอยเปลี่ยนธีมตลอดที่ เดอะ สแตนดาร์ด ไฮท์ ไลน์ กับแขกรับเชิญพิเศษ และไลฟ์ดีเจที่จะเพิ่มความมันส์อยู่ตรง ซาวนด์ สตูดิโอ
สไตล์ที่สี่ “ห้องประชุมนวัตกรรมไฮเทคโนโลยี” มีอยู่ 4 ห้อง เน้นดีไซน์เพิ่มความสนุกสนาน ให้มีพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่สุด 126 ตารางเมตร เพนดานสูง 3.2 เมตร รองรับการประชุมในแบบเธียเตอร์ สามารถจัดอีเวนต์ได้หลากสไตล์ ตั้งแต่งานเลี้ยงต้อนรับ โปรดักชั่น เวิร์คช็อป และกิจกรรมต่าง ๆ ตามไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้บริการครอบคลุมกลุ่มต่าง ๆ
นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานกรรมการ เดอะ สแตนดาร์ด อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยว่า ในฐานะที่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ผู้นำการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย เป็นผู้ถือหุ้นหลักการลงทุน เดอะ สแตนดาร์ด อินเตอร์เนชั่นแนล มาตั้งแต่พฤศจิกายน 2560 มาจนถึงขณะนี้ มีความภูมิใจอย่างยิ่งเมื่อได้เปิดบริการ “โรงแรม เดอะ สแตนดาร์ด แบงค็อก มหานคร” ในประเทศไทย เป็นแลนด์มาร์กเรือธงธุรกิจสำคัญ ที่จะสร้างปรากฏการณ์ให้ทั่วโลกประทับใจและจดจำ โดยมีความมั่นใจว่าจะทำให้โรงแรมแห่งนี้ประสบความสำเร็จในการส่งมอบประสบการณ์ ไลฟ์สไตล์อย่างเหนือความคาดหมายแตกต่างจากโรงแรมอื่น ๆ ในเมืองไทย
ด้วยเอกลักษณ์ของห้องพัก ห้องอาหาร รูฟท็อปบาร์ จุดชมวิวเมืองหลวง ตอบโจทย์ไนท์ไลฟ์ได้ตลอดทั้งวันทั้งคืนให้นักเดินทาง นักท่องเที่ยว ได้สัมผัสความมหัศจรรย์ที่ดี ๆ อันน่าประทับใจทุกครั้งที่ตัดสินใจเลือกเข้ามาใช้บริการ
นับจากนี้เป็นต้นไป เดอะ สแตนดาร์ด แบงค็อก มหานคร คือแฟล็กชิพใหม่ใจกลางกรุงทำให้ทั่วโลกจดจำ รวมทั้งจะสามารถเป็นพลังฟื้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวเมืองไทยกลับมาคึกคักอีกครั้งอย่างแน่นอน
