ซีเกมส์ 2019 ปิดฉากลงไปแล้ว แม้ไทยจะไม่ได้ครองเจ้าเหรียญทอง แถมยังโดนเวียดนามแซงปาดโค้งสุดท้ายแย่งอันดับสองไปครอง ทว่าหากย้อนดูตัวเราเอง ความสำเร็จของหนึ่งในชนิดกีฬาไทยที่ควรค่ายกย่องถึงความสำเร็จ ก็คือ สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์

ด้วยผลงานทั้งหมด 6 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 4 เหรียญทองแดง ได้ครองตำแหน่ง “เจ้าเหรียญทอง” กีฬาปั่นสองล้อในซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ชนิดเกินความคาดหมาย

6 เหรียญทองจาก จักรยานเสือภูเขา 1 เหรียญ ครอสคันทรี่ชาย สิบโท กีรติ สุขปราสาท / จักรยานถนน 3 เหรียญ ไทม์ไทรอัลทีมชาย (ร้อยตำรวจโท ธุรกิจ บุญรัตนธนากร, สิบตรี สราวุฒิ สิริรณชัย, สิบตำรวจตรี นวุติ ลี้พงษ์อยู่, จ่าอากาศเอก พีรพล ชาวเชียงขวาง), โร้ดเรซบุคคลชาย สิบตรี สราวุฒิ สิริรณชัย, โร้ดเรซทีมชาย (ร้อยตำรวจโท ธุรกิจ บุญรัตนธนากร, สิบตรี สราวุฒิ สิริรณชัย, สิบตำรวจตรี นวุติ ลี้พงษ์อยู่, จ่าอากาศเอก พีรพล ชาวเชียงขวาง, นายธนาคาร ไชยยาสมบัติ) / จักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ 2 เหรียญ ไทม์ไทรอัล และเรซซิ่ง โดย นายโกเมธ สุขประเสริฐ คนเดียวทั้ง 2 เหรียญ

1 เหรียญเงินจาก จักรยานถนน ไทม์ไทรอัลบุคคลชาย นายธนาคาร ไชยยาสมบัติ

3 เหรียญทองแดงจาก จักรยานเสือภูเขา ดาวน์ฮิลหญิง จ่าอากาศโทหญิง วิภาวี ดีคาบาเลส / จักรยานถนน ไทม์ไทรอัลบุคคลหญิง สิบตรีหญิง เพชรดารินทร์ สมราช / จักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ ไทม์ไทรอัล นายสิทธิโชค แก้วสีขาว, เรซซิ่ง นายสมคิด ฮาระตะวัน

นอกจากความสามารถของนักกีฬาเองแล้ว ผลพวงแห่งความสำเร็จมาจากทีมงานทุกส่วนที่ช่วยกันอย่างทุ่มเทเต็มความสามารถ อีกทั้งกลไกสำคัญที่ทุกคนในทีมมีความเห็นเป็นแนวทางเดียวกันก็คือ ตัวนายกสมาคมฯ ผู้เปรียบดัง “แม่ทัพ” โดดลงสนามบัญชาการรบด้วยตนเอง !!

หลายเสียงของแฟนๆผู้ติดตามอย่างใกล้ชิดในโลกโซเชียล ชื่นชม “เสธ.หมึก” พล.อ.เดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานฯ ที่ติดตามนักกีฬาไปร่วมหัวจมท้ายเผชิญพายุ “คัมมูริ” ตั้งแต่ต้นจนจบทัวร์นาเม้นต์ที่ฟิลิปปินส์ ประกาศอัดฉีดนักกีฬาระหว่างแข่งขัน เพิ่มเหรียญทองให้อีกคนละแสน จนไทม์ไทรอัลทีมชายห้อตะบึ่งเป็นหนูถีบจักรทะยานคว้าเหรียญทองได้สมใจ ดูแลเอาใจใส่ในทุกส่วนของฟันเฟืองทัพนักปั่นไทย กระทั่งประสบความสำเร็จเกินคาดดังที่เห็น

ลองฟังความจากปากเจ้าตัว ถึงภาพรวมในซีเกมส์ครั้งนี้ดู “สรุปผลงานโดยรวมแล้ว ถือว่าจักรยานของเราทำได้เกินเป้าที่ตั้งไว้ คือ 2 เหรียญทองเท่านั้น ทั้งนี้เพราะเราเจอปัญหาตั้งแต่วันแรกๆเลย อย่าง รายการเสือภูเขาดาวน์ฮิลชายและหญิง ที่สนามทาลอง บองโก ในเมืองตาเกไตย์ โดยทีมจักรยานไทยส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันประเภทละ 2 คน ดาวน์ฮิลชาย ได้แก่ นายเมธาสิทธิ์ บุญเสน่ห์ กับ นายสืบสกุล สุขจรรยา, ดาวน์ฮิลหญิง ได้แก่ จ.ท.หญิง วิภาวี ดีคาบาเลส กับ น.ส.ศิรภัสสร ชาติกำเนิด โดยเจ้าภาพอ้างเหตุผลว่า พายุเข้าทำให้ต้องเปลี่ยนเวลาแข่งและตัดรอบจัดอันดับออกไป ความได้เปรียบจึงตกแก่เจ้าภาพ เพราะเขาจะเอานักกีฬาที่เวลาดีที่สุดปล่อยตัวเป็นคนสุดท้าย เราจึงต้องออกตัวคนแรก เพราะไม่ชำนาญทางและรถล้มอีกด้วยจนเสียเวลาไปถึง 9 วินาที จึงชวดเหรียญทองไปอย่างน่าเสียดาย นี่คือสิ่งที่เรากลัวตั้งแต่ต้น !!”

เกาะติดข่าวกีฬา แค่กดติดตาม ไลน์@ข่าวสดกีฬา ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

“แต่เคราะห์ดีที่ วันแรก เรายังได้เหรียญทองจาก กีรติ สุขปราสาท (เสือภูเขา ครอสคันทรีชาย) ซึ่งเราไม่ฟลุ๊กนะ ถึงจะเบียดสูสีกันมาจนคู่แข่งขึ้นนำเราสองรอบสุดท้าย เราจึงอัดเต็มเมื่อถึงโค้งขึ้นเขา จากนั้นเราหนีห่างจนเขาตามไปทันและได้เหรียญทองเป็นปฐมฤกษ์” ว่าพลาง เสธ.หมึก หัวเราะชอบใจ

“วันที่สอง เราหวังไว้ที่ประเภทถนน ผมต้องปลุกเร้าให้กำลังใจเด็กๆ บอกพวกเขาว่า ไม่เป็นไร ทำได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น ขอให้พยายามให้เต็มที่อย่างที่สุดก็แล้วกัน ทำให้เหมือนกับเวลาซ้อม นักกีฬาจึงไม่กดดัน ทุกคนรวมพลังกันจนทีมประเภทถนน ไทม์ไทรอัลทีมชาย ซึ่งเราตามหลังเจ้าภาพอยู่ถึง 20 วินาที ผมจึงประกาศอัดฉีดเดี๋ยวนั้น เหรียญทองเพิ่มให้อีกคนละ 1 แสนบาท ทุกคนเลยปั่นไม่คิดชีวิต ไหลเข้าเส้นชัยเฉือนชนะคู่แข่งเพียงแค่ 4 วินาทีเท่านั้น”

เมื่อถามถึง ความหวังจากนักปั่นอนาคตใหม่ พล.อ.เดชา อธิบายว่า
“ส่วนเด็กใหม่ของเราอย่าง ธนาคาร ไชยยาสมบัติ (จักรยานถนน ไทม์ไทรอัลบุคคลชาย) ลงสนามซีเกมส์ครั้งแรก ตามคู่แข่งอยู่เยอะ ถือเป็นม้านอกสายตา เพราะต้องเจอกับทีมระดับโปรฯมืออาชีพทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น อินโดนีเซีย สิงคโปร์ รวมทั้งเจ้าภาพฟิลิปปินส์เองด้วย ซึ่งเราเข้ามาเป็นที่สองได้เหรียญเงิน ก็ถือว่าน่าพอใจนะ เช่นเดียวกับคนอื่นที่ได้อีก 3 เหรียญทองแดง ก็ล้วนเป็นความทุ่มเทที่พวกเขาทำอย่างเต็มที่แล้ว อย่าง เพชรดาริน สมชาช ในประเภท ไทม์ไทรอัลหญิง ก็ดูเหมือนเจ้าภาพจะเล่นตุกติก เวลาของเขาดูจะเร็วขึ้นผิดปกติ และไม่ยอมให้เราดูเวลาแข่งขัน โดยรวมแล้วถือว่าน่าพอใจและเป็นประสบการณ์ล้ำค่าของพวกเขา”

เคล็ดลับอีกความสำเร็จครั้งนี้ พ่อบ้านสองล้อไทย เสริมอีกว่า

“การแข่งขันเฉพาะประเภทถนน และเรซซิ่ง ซึ่งมีระยะทางกว่า 100 กม.นั้น เราส่งคนแอบไปศึกษาสถานที่จริงมาก่อน ล่วงหน้าตั้งสองอาทิตย์ จึงรู้เส้นทางของเขา ทำให้ได้เราแชมป์มาครองทั้งประเภททีม และบุคคล อย่าง 2 เหรียญทองสุดท้ายที่เราได้ จากบีเอ็มเอ็กซ์ ของ โกเมธ สุขประเสริฐ เราก็ส่งตัวเด็กไปฝึกซ้อมเก็บตัวที่ออสเตรเลียนานถึงหนึ่งเดือนเต็ม งบประมาณเหล่านี้ เบิกการกีฬาแห่งประเทศไทยก็ไม่ได้ เราต้องออกค่าใช้จ่ายเองก็ต้องยอม ซึ่งถือเป็นความสำเร็จ แม้จะมีอุปสรรคขวางหนามเยอะมาตลอดก็ตาม”

สิ่งเหล่านี้ พรั่งพรูออกจากปาก พล.อ.เดชา เหมกระศรี หัวเรือใหญ่ผู้คลุกคลีกับเด็กๆมานาน ก่อนจะรับตำแหน่ง “พ่อบ้าน” เลขาธิการสมาคมฯ จนก้าวขึ้นมานั่งในตำแหน่งนายกสมาคมฯในปัจจุบัน ย่อมเล็งเห็นขวัญกำลังใจ รู้ถึงปัญหาของนักกีฬา ก็เพราะความเอาใจใส่ทุ่มเท ที่ได้สัมผัสด้วยตัวเองอย่างแท้จริง

…นี่คือเคล็ดลับง่ายๆ ที่ไม่เพียงแต่นายกสมาคมกีฬาฯทั่วไปๆควรรับรู้ หากแต่ยังรวมถึงผู้นำในทุกภาคส่วน ที่ควรเอาใจใส่ และ พึงศึกษาไว้เป็นตัวอย่าง

ถือเป็นกลไกแห่งความสำเร็จในเป้าหมายเพื่อชื่อเสียง และผลประโยชน์ของประเทศชาติอย่างแท้จริง !!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน