GPSC ศึกษาโครงการโรงไฟฟ้า SMR เทคโนโลยี Gen IV สร้างเสถียรภาพพลังงานสะอาด ป้อนไฟฟ้าและไอน้ำสู่ภาคการผลิต เดินหน้าสู่เป้าหมาย Net Zero Emissions
วันที่ 2 ก.ค.2568 นายศิริเมธ ลี้ภากรณ์ ผู้จัดการใหญ่ และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC เปิดเผยว่า GPSC อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้า SMR (Small Modular Reactor) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีพลังงานสะอาดที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการใช้ไฟฟ้าในประเทศอย่างมีเสถียรภาพ ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนฯ สู่สิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับเป้าหมาย Net Zero Emissions (การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์) ของกลุ่ม ปตท.
โดย SMR ถือเป็นนวัตกรรมสำคัญในการผลิตไฟฟ้าที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถป้อนพลังงานได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งเทคโนโลยี SMR ที่บริษัทกำลังศึกษาพัฒนาอยู่ นับเป็นนวัตกรรมพลังงานสะอาดยุคใหม่จากเทคโนโลยีปฏิกรณ์นิวเคลียร์รุ่นที่ 4 (Generation IV หรือ Gen IV) ช่วยยกระดับศักยภาพการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมไทย
ด้วยคุณสมบัติเด่นที่สำคัญ 3 ประการ ได้แก่ สามารถผลิตพลังงานได้อย่างมีเสถียรภาพ ความปลอดภัยสูง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากออกแบบเป็นโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก กำลังการผลิต 100-300 เมกะวัตต์ต่อหน่วย ส่งผลให้มีระยะเวลาการก่อสร้างที่รวดเร็ว สามารถผลิตแบบโมดูลสำเร็จรูปจากโรงงาน และตอบโจทย์อุตสาหกรรมที่สามารถจ่ายทั้งไฟฟ้าและไอน้ำได้อย่างต่อเนื่อง ต่างจากพลังงานหมุนเวียนทั่วไปที่ผลิตได้เฉพาะช่วง
ในส่วนกระบวนการผลิตไฟฟ้า ใช้แท่งเชื้อเพลิงยูเรเนียมความเข้มข้นต่ำ ร่วมกับระบบระบายความร้อนด้วยเกลือหลอมเหลว (Molten Salt Technology) ลดความเสี่ยงด้วยระบบความปลอดภัยแบบพาสซีฟ (Passive Safety System) ที่อาศัยหลักธรรมชาติในการลดความร้อนจากแท่งเชื้อเพลิงโดยอัตโนมัติในกรณีฉุกเฉิน อีกทั้งไม่มีการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ระหว่างกระบวนการผลิตไฟฟ้า
อย่างไรก็ดี การพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้า SMR จำเป็นต้องศึกษารายละเอียดหลายด้าน ทั้งการเลือกพื้นที่ที่เหมาะสม เทคโนโลยีเฉพาะ การจัดการความปลอดภัย และความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ ซึ่ง GPSC กำลังดำเนินการศึกษาอย่างรอบคอบตามกรอบแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP 2024) ซึ่งได้กำหนดขนาดกำลังผลิตไว้ที่ 300 เมกะวัตต์ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงปลายแผนปี 2580
นายศิริเมธ กล่าวเสริมว่า การที่ไทยจะเดินหน้าสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ต้องยอมรับว่าในทุกกระบวนการผลิตจะต้องไม่ปล่อยคาร์บอนฯ ซึ่งเรายังมีมิติความท้าทายด้านพลังงาน 3 ด้าน (Energy Dilemma) ที่ต้องเผชิญ ได้แก่ ความมั่นคงทางพลังงาน (Energy Security) ความสามารถในการจ่าย (Affordability) ที่ตอบโจทย์ภาคประชาชนในราคาค่าไฟฟ้าที่สามารถยอมรับได้ และความยั่งยืนทางพลังงาน (Sustainability) ซึ่งต้องไม่ปลดปล่อยคาร์บอนฯ
“ดังนั้น การใช้พลังงานหมุนเวียนเพียงอย่างเดียว จึงยังไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะสม แต่ยังไม่มีโรงไฟฟ้าเทคโนโลยีใดสามารถตอบโจทย์ได้ทั้ง 3 ด้านข้างต้น ยกเว้น SMR ที่จะนำเราไปสู่เป้าหมาย Net Zero Emissions ได้”
อย่างไรก็ตาม GPSC มีความพร้อมในการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้า SMR เนื่องจากมีความร่วมมือกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีดังกล่าว โดยเชื่อมั่นว่ากฎเกณฑ์ภาครัฐที่อยู่ระหว่างจัดทำขึ้นอย่างชัดเจน จะเป็นโอกาสในการเปิดให้มีการพัฒนา SMR ซึ่งเราจะเป็นเอกชนรายแรกที่เดินหน้าโครงการนี้ โดยมีการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นผู้นำร่องในไทย