ดาราดัง “สรพงศ์ ชาตรี” พระเอกตลอดกาลโร่ชี้ตัวสาวแสบโคราชแฮ็กเฟซบุ๊ก-ไลน์ “ป้าเดือน ลุงเอก” สวมรอย เป็นสรพงศ์กับภรรยาแช็ตตุ๋นเพื่อนในกลุ่ม โอนเงิน อ้างลูกน้องพระเอกคนดังโดนจับ มีเหยื่อหลงเชื่อโอนเงินไปกว่า 60,000 บาท ก่อนรู้ตัวโดนหลอกเข้าแจ้ง ตร.สืบ บก.น.2 ตามรวบตัวสาวแสบได้ สารภาพแฮ็กเฟซบุ๊ก-ไลน์ตุ๋นเงินครั้งแรกได้เงิน 2 หมื่นบาท ครั้งที่ 2 มีโอนเข้าบัญชีที่เปิดไว้กว่า 6 หมื่นบาทจริง อ้างทำเพราะไม่มีเงินใช้หนี้

จากกรณี เอก หรือ “สรพงศ์ ชาตรี” ดารา นักแสดงพระเอกตลอดกาล ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะ การแสดง พร้อมด้วย น.ส. ดวงเดือน จิไธสงค์ ภรรยาเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง ว่าถูกคนร้ายแฮ็กเข้าไปในเฟซบุ๊ก และแอพพลิเคชั่นไลน์ ก่อนหลอกเพื่อนของผู้เสียหายให้โอนเงินเข้าบัญชีคนร้าย จนมีผู้หลงเชื่อ และยอมโอนเงินเป็นจำนวนหลายราย ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.2 ได้จับกุมตัว น.ส.ละออ แถลงกัน หรือ แนน อายุ 36 ปี ชาวจังหวัดนครราชสีมา ได้ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งย่าน ต.ทุ่งลูกนก อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม พร้อมของกลาง โทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโมบาย ที่ใช้แฮ็กข้อมูลและบัตรเอทีเอ็มบัญชีที่ใช้รับโอนจากเหยื่อ ซึ่งคนร้ายรับสารภาพว่า ได้กระทำการดังกล่าวจริง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 พ.ย.2559 ที่ผ่านมาตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าที่ กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 (กก.สส.บก.น.2) เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 20 พ.ย. นายสรพงศ์ ชาตรี อายุ 66 ปี พร้อม น.ส.ดวงเดือน จิไธสงค์ ภรรยา นางปิยะนุช พรหมรัตนไพศาล อายุ 50 ปี และนางมะรวง วิจันทึก อายุ 56 ปี ผู้เสียหายที่โดนหลอกโอนเงินเดินทางมาชี้ตัว น.ส.ละออ แถลงกัน หรือ แนน อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาแฮ็กเฟซบุ๊ก และไลน์ของ น.ส.ดวงเดือน โดยมี พ.ต.อ.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รรท.ผบก.น.2 พ.ต.อ.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผกก.สส.บก.น.2 ร่วมสอบปากคำ

พ.ต.อ.ภาณุมาศเปิดเผยว่า หลังจากนาย สรพงศ์ และน.ส.ดวงเดือน เข้าแจ้งความที่ สน.ดอนเมือง เมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.2 ได้สืบสวนติดตามจนสามารถจับกุม น.ส.ละออได้ที่ จ.นครปฐม จากการตรวจสอบพบว่า น.ส. ละออ ก่อเหตุมาแล้วก่อนหน้านี้ครั้งหนึ่ง มีผู้เสียหายแจ้งความเอาไว้ เมื่อวันที่ 7 พ.ย. ที่ สน.ห้วยขวาง ว่าถูกผู้ต้องหาหลอกให้โอนเงินมูลค่า 20,000 บาท ซึ่งหลังจากนี้จะส่งตัว น.ส.ละออ ให้กับพนักงานสอบสวน สน. ดอนเมือง ดำเนินคดีในข้อหา “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550” และจะประสานให้ สน.ห้วยขวาง มาอายัดตัวต่อไป ทั้งนี้อยากฝากเตือนประชาชนว่า รหัสผ่านการเข้าบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊ก และแอพลิเคชั่นไลน์ ควรจะมีทั้งตัวอักษรและตัวเลข เพื่อให้ยากต่อกลุ่มมิจฉาชีพที่จะมาแฮ๊กข้อมูล

รายงานข่าวระบุว่า “สรพงศ์ ชาตรี” ได้พูดคุยสอบถามว่า ทำไมต้องเลือกใช้ชื่อของตน และน.ส.ดวงเดือน ไปหลอกลวงบุคคลอื่น ทำให้น.ส.ละออยกมือไหว้ขอโทษ ก่อนที่ สรพงศ์ ชาตรีจะได้บอกว่า หากไม่มีงานทำ ก็สามารถไปทำงานด้วยกันที่วัดโนนกุ่ม (วิหารสมเด็จโต) จ.นครราชสีมา ได้ซึ่งตนได้ชักชวนคนไปร่วมสร้างองค์พระที่นั่น และอยากจะบอกว่าเทคโนโลยีสมัยใหม่ไม่ปลอดภัยมากๆ ตนคิดว่าคนเราหากรู้จักกันจะขอยืมเงินกันก็ควรจะต้องไปรับประทานอาหารร่วมกันได้พบปะกันมากกว่าจะพูดคุยกันผ่านทางข้อความไลน์ แล้วให้โอนเงินให้เป็นวิธีการหลอกลวงที่ง่ายเกินไป ทำให้น.ส.ละออถึงกับร้องไห้

ด้าน น.ส.ละออ ผู้ต้องหาสาวรับสารภาพทั้งน้ำตาว่า ตนก่อเหตุจริงทำมา 2 ครั้งได้เงินไปทั้งหมด 80,000 บาท ส่วนครั้งนี้มีคนหลงเชื่อโอนเงินให้จำนวนเงิน ประมาณ 60,000 บาท ที่ทำไปเพราะต้องการเงินมาใช้หนี้ ได้นำเงินบางส่วนไปซื้อทอง อีกส่วนก็ใช้หนี้ เหลือเงินสดไว้ใช้จ่ายส่วนตัว ตนประกอบอาชีพรับจ้างทำไร่ แต่ไม่มีเงิน และต้องการเงินจึงก่อเหตุขึ้น โดยได้นำเบอร์โทรศัพท์ของ น.ส.ดวงเดือนพร้อมข้อมูลที่หาได้จากการค้นหาทางเว็บไซต์กูเกิ้ล มาเข้าสู่ระบบเฟซบุ๊ก “ป้าเดือน ลุงเอก” ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ โดยสุ่มรหัสซึ่งได้ใช้เบอร์โทรศัพท์ของ น.ส.ดวงเดือน เป็นรหัสผ่านก็สามารถเข้าได้ เมื่อเข้าระบบเฟซบุ๊กได้แล้ว จึงใช้บัญชีไลน์ที่เชื่อมต่อไว้กับเฟซบุ๊กก่อนจะสุ่มเลือกเพื่อนในไลน์ “ป้าเดือน ลุงเอก” เข้าไปพูดคุยหลอกลวงอ้างเป็นน.ส.ดวงเดือน ระบุกับเหยื่อว่า ลูกน้องลุงเอกถูกตำรวจจับต้องรีบใช้เงินประกันเพื่อหลอกให้เหยื่อโอนเงินจนมีผู้เสียหายได้โอนเงินให้ 3 คน

ขณะที่ นางมะรวง วิจันทึก อายุ 56 ปี และนางปิยะนุช พรหมรัตนไพศาล อายุ 50 ปี 2 ใน 3 ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ด้วยความเชื่อใจ และเห็นว่าน้องเดือดร้อน จึงรีบโอนเงินมา ช่วยเหลือ กระทั่งทราบภายหลังว่า ถูกหลอกเพราะคนร้ายมีวิธีการพิมพ์ข้อความให้น่าเห็นใจ โดยได้ส่งข้อความมาช่วงดึกตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมาา อ้างว่าลูกน้องของ สรพงศ์ ชาตรี มีปัญหากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และขอให้ปิด เป็นความลับ และขอให้รีบโอนเงินให้ก่อนที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเปลี่ยนเวร ทำให้ผู้เสียหายทั้ง 2 คนหลงเชื่อก่อนจะรีบโอนเงินเข้าบัญชีให้

รายงานระบุว่าระหว่างสอบสวนผู้ต้องหาพร้อมกับชี้แจงต่อสื่อมวลชนอยู่นั้น นายฤทธิ์ ลือชา คุ้มแพรวพรรณ หรือ “ฤทธิ์ ลือชา” อายุ 72 ปี ดารานักแสดงรุ่นเก๋าเดินทางมาให้กำลังใจกับสรพงศ์ ชาตรี พร้อมทั้งอยากจะเห็นหน้าคนร้ายและได้เปิดเผยว่า ลูกน้อง ของตนก็โดนหลอกลวงในลักษณะเดียวกันแต่ไม่ได้โอนเงินไปให้คนร้าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน