จากกรณีมีการเผยเรื่องราวสะเทือนสังคมกรณีเด็กหญิงวัย 7 ขวบ นักเรียนชั้น ป.1 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ถูกเด็กชายวัย 7 ขวบ 2 คน และเด็กชายวัย 10 ขวบ 1 คน รุมทำอนาจาร แล้วมีการว่าจ้างให้เด็ก ป.5 กดหัวให้จมน้ำบริเวณแอ่งน้ำในสระน้ำสาธารณะกลางหมู่บ้านหวังฆ่าปิดปาก เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ที่ผ่านมานั้น ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการรอผลการตรวจร่างกายและสรุปคดี

อ่านเพิ่มเติม เด็กให้การตรงกัน!! ส่อโอละพ่อ คดีป.3-ป.5รุมอนาจาร เผยผลตรวจร่างกายเด็กหญิง(คลิป)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสภาพความเป็นอยู่ของครอบครัวเด็กหญิงนั้น พบว่า ความเป็นอยู่ก่อนหน้าเป็นไปด้วยความยากลำบาก โดยผู้เป็นยายต้องเลี้ยงหลาน 5 คน ที่ลูกของยายเอามาทิ้งไว้ โดยต้องหาเลี้ยงด้วยการรับจ้างไปเรื่อย เพราะมีเงินส่งให้นานๆครั้ง ครั้งละไม่กี่พันเท่านั้น จึงต้องปล่อยให้หลานอยู่ไปตามยถากรรม ซึ่งสภาพของบ้านก็เป็นเพียงสังกะสีปะผุ ไม่มีห้องน้ำใช้ 2-3 วันจึงจะได้อาบน้ำ

ทั้งนี้ พบว่า เตชะ ทับทอง ได้รายงานเพิ่มเติมว่า ย่า และ พ่อ ของเด็กหญิง ได้เดินทางไปพบเพื่อตกลงเรื่องสิทธิการเลี้ยงดู โดยจะให้เด็กหญิงย้ายไปอยู่กับย่าแทน พร้อมกับย้ายโรงเรียนของเด็กด้วย โดยพบว่า เบื้องต้น มีเงินบริจาคให้กับครอบครัวดังกล่าว 6 หมื่นบาท ซึ่งได้มีการนำไปซื้อข้าวสารอาหารแห้ง นมผง และใช้หนี้ที่เชื่ออาหารไว้ด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน