สาย 12 อ้างสาวทอม ตะโกนด่า ให้นิ้วกลาง ก่อนโดนรุมกระทืบกลางถนน(คลิป)

จากกรณีมีการโพสต์เฟซบุ๊กเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. รถเมล์สาย 12 ขับจี้ตูดรถจยย. จนมีปากมีเสียงกันอย่างรุนแรง จากนั้ คนขับรถเมล์และกระเป๋าได้ลงมาทำร้ายคู่กรณีสาว 2 คน เหตุเกิดบริเวณถนนหน้าแยกโรงกรองน้ำ เขตพญาไท ซึ่งขณะนี้ทางคู่กรณีได้แจ้งความไว้แล้วที่ สน.พญาไท จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันหนักในโลกออนไลน์ว่าทำเกินกว่าเหตุ

อ่าน สาวเปิดใจ หลังโชเฟอร์-กระเป๋า รถเมล์สาย 12 รุมกระทืบกลางถนน

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 14 มิ.ย. ที่บริเวณอู่ท่าปล่อยรถสาย 12 ห้วยขวาง-ปากคลองตลาด ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์นายณรงค์ เงางาม อายุ 42 ปี และน.ส.มยุรี สืบด้วง อายุ 39 ปี คนขับรถและกระเป๋ารถเมล์ สาย 12-56 ซึ่งเป็นรถเมล์สาย 12 คันแรก ที่น.ส.ปิยะนัน นิธิกุล และแฟนทอม ผู้เสียหายอ้างว่าถูกขับเบียดจนเกือบชน

นายณรงค์ กล่าวว่า ตอนเกิดเหตุสาวทอมได้ตะโกนโวยวาย ว่าตนขับรถเบียดทำให้รถมอเตอร์ไซค์เกือบล้ม แต่ตนมั่นใจว่าไม่ได้ขับเบียด เนื่องจากมองกระจกด้านขวาแล้วเห็นว่ารถมอเตอร์ไซค์ที่ขับมาประมาณ 2-3 คันสามารถผ่านได้ ตนจึงไม่ได้โต้ตอบอะไร จากนั้นสาวทอมก็ตะโกนท้าทายตนให้ลงมาเคลียร์ด้านล่าง และชูนิ้วกลางให้ ตนไม่อยากมีเรื่องจึงปล่อยผ่านไป

นายณรงค์ กล่าวอีกว่า ต่อมาเมื่อถึงบริเวณแยกโรงกรองน้ำ สามเสน ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ ตนเห็นรถเมล์ สาย 12-58 จอดติดไฟแดงอยู่ ตนจึงขับมาเทียบทางด้านซ้ายของรถ เห็นสาวทอมคนเดิมที่หาเรื่องตน ตะโดนด่าคนขับรถเมล์สาย 12-58 คือนายรัตนวิจิตร อาจหาญ ว่า มาขับจี้ท้ายและบีบแตรไล่ แต่นายรัตนวิจิตร ก็พยายามอธิบาย แต่สาวทอมไม่ยอม ขับรถมาเทียบด้านประตูคนขับแล้วทุบประตู พร้อมกับ ตะโกนด่าบุพการี ทำให้นายรัตนวิจิตร บันดาลโทสะ ก่อนจะเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น โดยส่วนตัวมองว่านายรัตนวิจิตรทำเกินไป แต่ในอีกแง่มุมหนึ่ง สาวทอมก็ด่ารุนแรงเกินไป

ด้านน.ส.มยุรี กล่าวว่า ตอนเกิดเหตุ นายรัตนวิจิตรไม่ทราบว่าคนที่ถูกทำร้ายเป็นผู้หญิง มาทราบตอนที่สาวทอมตะโกนด่าว่า “หน้าตัวเมีย ทำร้ายผู้หญิง” หากตนทราบตั้งแต่แรกว่าคนด่าเป็นผู้หญิง ตนคงด่ากลับไปตั้งแต่แรกและตอนเกิดเหตุ ไม่มีใครห้าม เพราะผู้ที่เห็นเหตุการณ์บริเวณนั้นทราบดีว่า สาวทอมด่ากร่างมาตลอด

ด้านนายรัตนวิจิตร อาจหาญ คนขับรถเมล์สาย 12-58 ผู้ลงมือก่อเหตุเล่าว่า วันเกิดเหตุขับรถมาตามปกติ เห็นผู้เสียหายกับแฟนขับรถอยู่กลางถนน ตนเลยบีบแตรเพื่อขอทาง แต่ผู้เสียหายไม่ยอมหลบ ตนจึงขับรถตามมาเรื่อยๆ เมื่อรถติดไฟแดง คู่กรณีก็จะโกนหันมาถามว่า “รีบไปไหน จะบีบแตร จี้ตูดทำไม” ตนจึงตอบกลับไปว่า “ไม่ได้จี้ตูด บีบแตรขอทาง ไม่ให้ก็ขับรถตามเฉยๆ” จากนั้นฝ่ายคู่กรณีก็ตะโกนด่าทอตน ด้วยความโมโหอารมณ์ร้อนจึงได้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว

“ผมอยากขอโทษสังคมและขอโทษผู้เสียหาย ที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ ผมไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มก่อน เมื่อเรื่องเกิดขึ้นแล้วไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้ จึงอยากจะขอชดใช้ค่าเสียหายและค่ารักษาพยาบาลของผู้เสียหายทั้งหมด เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ กลัวว่าจะมีผลกระทบต่องาน ในวันอาทิตย์นี้ ผมจะกลับไปทำงาน และจะขึ้นไปเคลียร์ปัญหาต่างๆ” นายรัตนวิตร กล่าว