นักสำรวจ ถ้ำหลวง ชี้ข้อมูลสำคัญ เชื่อจะช่วยทีมฟุตบอล 13 ชีวิตได้ทัน!

ถ้ำหลวง / จากกรณีมีเด็กนักฟุตบอล และผู้ฝึกสอนหายเข้าไปเที่ยวในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน ในวนอุทยานขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย เมื่อช่วงเย็นวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา ต่อมานายดำรงค์ หาญภักดีนิยม หัวหน้าวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน สำนักงานพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 รับแจ้งว่ามีผู้ที่พากันเดินทางเข้าไปเที่ยวในถ้ำหลายคนแล้วไม่กลับออกมาอีกเลย โดยพบรถจักรยานรองเท้าบริเวณทางเข้าถ้ำ

โดยตลอดวันที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ระดมค้นหา โดยส่งทีมนักประดาน้ำ เจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าไปในถ้ำตลอดทั้งวัน ท่ามกลางการเอาใจช่วยและรอฟังข่าวจากญาติ

ทั้งนี้ สมาชิกเฟซบุ๊ก Anukoon Sorn-ek หนึ่งในผู้ที่เคยเข้าไปสำรวจถ้ำดังกล่าว ได้เผยแพร่แผนที่ของถ้ำพร้อมข้อมูลว่า “ข้อมูลสำคัญสำหรับทีมค้นหาและช่วยเหลือเด็กสูญหายในถ้ำนะครับ ถ้ำนางนอนหลวงเป็นถ้ำที่มีทางเข้าออกทางเดียว ระบบระบายอากาศไม่ดี ถ้าจะใช้วิธีการสูบน้ำออกควรตั้งเครื่องสูบน้ำไว้ด้านนอก ไม่งั้นปริมาณ Co2 ภายในถ้ำจะสูงขึ้นทำให้การช่วยเหลือทำได้ยากและมีความเสี่ยงมากขึ้นนะครับ ตำแหน่งที่คาดว่าเด็ก ๆ น่าจะอยู่(ตำแหน่งวงกลมสีแดง) ลึกที่สุดบริเวณปลายสุดของ Show cave น่าจะประมาณไม่เกิน 1 กม.จากปากถ้ำ

ถ้าเลยนี้ไป Section ด้านในที่เป็นเส้นทางเข้า Monk’s series เส้นทางแคบและซับซ้อนหาเจอยากมาก คิดว่าคนทั่วไปไม่น่าหาเส้นทางเข้าไปด้านในได้ครับ อีกอย่างในช่วงเวลานี้ ถ้าเด็ก ๆ ถอดรองเท้าและวางเป้ไว้ แสดงว่าพื้นถ้ำมีน้ำท่วมออกมาถึงด้านนอกแล้วแต่ยังไม่ลึกมาก นั่นหมายถึง Section ด้านในจะมีน้ำท่วมแล้ว มีโคลนมากเขาคงไม่เข้าไปลึกมากครับ

อาจจะมีปัญหาเรื่องแสงสว่าง ไฟฉายดับ หรือไฟฉายมีน้อยเลยหาทางออกจากถ้ำไม่ได้และระดับน้ำขึ้นซะก่อน ส่วนอันตรายที่สุดสำหรับทีมดำน้ำที่จะดำเข้าไปเป็น Section แรกที่ผมวงสีน้ำเงินเอาไว้ เนื่องจากเส้นทางเข้าแคบต้องมุดเข้าไปและน้ำจะอัดผ่านช่องนี้ออกมา อันตรายสำหรับทีมที่ดำน้ำขาออกแต่ถ้าผ่านจุดนี้ไปได้แล้วเส้นทางด้านในจะกว้างขึ้นสามารถเดินได้ครับ ข้อมูลเผื่อทีมช่วยเหลือจะนำไปใช้ในการวางแผนได้นะครับ

สำหรับวิธีการช่วยเหลือ ต้องทำให้พื้นที่น้ำที่ท่วมเพดานถ้ำลดลงก่อน ด้วยลักษณะของถ้ำนางนอนหลวงลำธารที่เกิดขึ้นในถ้ำไม่ได้เกิดจากการไหลมาจากด้านนอก แต่เกิดจากฝนตกบนต้นน้ำและไหลซึมตามรอยแตกเข้ามา เวลาน้ำในถ้ำเริ่มขึ้นจะลงค่อนข้างยาก วิธีดีที่สุดจะต้องสูบน้ำออกให้มากกว่าปริมาณน้ำเข้า เราต้องคำนวนปริมาณน้ำที่ไหลในลำธารในถ้ำว่ามีปริมาณกี่ ลบม.ต่อวินาที และระดมเครื่องสูบน้ำให้ปริมาณ

น้ำสูบออกมากกว่าปริมาณน้ำธรรมชาติ พื้นที่ส่วนเพดานถ้ำที่จมอยู่ถึงจะลด แต่ต้องไม่มีปริมาณฝนตกบนภูเขามาเพิ่มปริมาณน้ำในถ้ำอีก ดังนั้นต้องรีบสูบน้ำออกในระดับที่ปลอดภัยต่อผู้ช่วยเหลือ อย่าสูบน้ำออกโดยไม่มีหลักการครับ เวลาแต่ละนาทีที่ผ่านไปมันกลายเป็นเวลาที่สูญเปล่า ตอนนี้ประมาณ 36 ชม.หลังคนเข้าไปติดค้างอยู่ด้านใน เขายังรอดชีวิตและรอการช่วยเหลืออยู่ครับ

ไม่รู้ว่าข้อมูลของผมจะถึงมือผู้บัญชาการเหตุการณ์ไม๊ ได้แต่ภาวนาให้นำไปใช้ในการช่วยเหลือครับ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน