ตั๋วชมฟุตบอลโลก ไม่ใช่รางวัล สำหรับ 13 ชีวิตทีมหมูป่า นักสิทธิเด็กชี้ เป็นการเยียวยา ภายหลังรอดชีวิต ออกมาจาก ถ้ำหลวง ชี้ต้องเตรียมความพร้อม ทั้งเด็ก และผู้ปกครอง เพื่อรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป รวมทั้งสื่อโซเชี่ยลด้วย

เมื่อวันที่ 10 ก.ค. น.ส.วาสนา เก้านพรัตน์ ผู้อำนวยการ มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็กและประธานเครือข่ายสิทธิเด็กประเทศไทย

ให้กำลังใจทีมหมูป่า

ตั๋วชมฟุตบอลโลก / กล่าวถึงสถานการณ์ของเด็กๆ นักฟุตบอล ทีมเยาวชนหมูป่าอะคาเดมี่ 12 คนและโค้ช ภายหลังออกมาจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย โดยปลอดภัยว่า อ่านข่าว : จบภารกิจช่วย 13 หมูป่า พา โค้ชเอก ออกจากถ้ำหลวง ทั่วโลกเฮลั่น

ต้องระมัดระวัง การรับสื่อ เราอาจจะห้ามไม่ได้ แต่ผู้ปกครอง ต้องทำความเข้าใจกับบุตรหลาน หลังจากทุกคน ได้รับการรักษาร่างกาย ให้แข็งแรงแล้ว

จะต้องเตรียมความพร้อม ทางด้านจิตใจ ทั้งเด็กและผู้ปกครอง ว่าต้องรับมือกับสิ่งต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นอย่างไร รวมทั้งการรับมือ กับสื่อโซเชียลด้วย

“เราไม่ควรถามซ้ำๆ ถึงความโหดร้าย ที่ต้องเจอในถ้ำ แต่อาจเปลี่ยนเป็น ถามถึงการอยู่ร่วมกันอย่างไร ในภาวะเช่นนั้น ให้น้องบอกเล่าสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้น การที่น้องๆ จะมีความรู้สึก ว่าตัวเองเป็นฮีโร่หรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่นักจิตวิทยาต้องพูดคุย ทำความเข้าใจกับน้องๆ หลังการฟื้นฟูสภาพร่างการเรียบร้อยแล้ว ต้องบอกเขา ถึงสิ่งที่เขาเป็น ให้เหตุผลในสิ่งต่างๆ ให้เขามองสิ่งที่ผ่านมา เป็นบทเรียนให้เด็กๆ มีสติ”

ส่วนการที่องค์กรต่างๆ มอบโอกาสหรือสิ่งต่างๆ ให้เด็ก เช่น ตั๋วชมฟุตบอลโลกนั้น ตนมองว่าเป็นการเยียวยาจิตใจ หลังเด็กต้องผ่านเหตุการณ์ร้ายๆ มา ไม่ได้มองว่า มอบเพื่อเป็นรางวัล แต่การให้ ต้องอยู่ในความพอดี ไม่มากเกินไปด้วย

“ส่วนโค้ชเอก ที่มีความเป็นห่วงกันว่า จะเกิดกระแสตำหนินั้น ตอนนี้ส่วนใหญ่กระแสเป็นไปในทิศทางเดียวกัน คือให้กำลังใจ ที่สำคัญ โค้ชก็ได้กำลังใจ จากครอบครัวด้วย ที่ผ่านมาโค้ชเอก ถือว่าดูแลเด็กๆ ทั้ง 12 คนเป็นอย่างดีแล้ว ทุกคนเข้าใจในสิ่งที่โค้ชทำ ให้โค้ชนำสิ่งที่ผ่านมา มาเรียนรู้ต่อไป” น.ส.วาสนา กล่าว