อย่าคิดเยอะ !! ธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ชี้ มอบทุนให้ทีม หมูป่าอะคาเดมี เป็นแค่รางวัลปลอบใจ
หมูป่าอะคาเดมี – วันที่ 14 ก.ค. นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม โฆษกกระทรวงยุติธรรม ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กกรณี มหาวิทยาลัยนเรศวร มีข้อเสนอ เรื่องการมอบทุนการศึกษาตั้งแต่ระดับปริญญาตรี-ปริญญาเอก ให้กับนักเตะทีมหมูป่าอะคาเดมี ผู้ประสบภัยติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จนเกิดเป็นกระแสวิจารณ์ในโซเซียล ว่าทีมหมูป่า 13 คน คือ ผู้ประสบภัย ไม่ใช่ฮีโร่หรือผู้ทำคุณประโยชน์อย่างสูงให้กับประเทศ เหตุใดมหาวิทยาถึงต้องให้ทุนการศึกษา โดยมองว่านักศึกษาที่ยากจน และด้อยโอกาสทางเศรษฐกิจ ควรได้รับทุนการศึกษานี้มากกว่า
- โซเชียลแห่วิจารณ์! ม.นเรศวร มอบทุน 13 หมูป่า เรียนฟรีจนจบปริญญาเอก
- ม.รามคำแหงให้ทุนลูกชาวนา ที่ต้องรับน้ำจาก “ถ้ำหลวง” เรียนฟรีจนจบปริญญาตรี!
โดยระบุว่า
อย่าเยอะ อย่านอยด์…!!
นับตั้งแต่ก่อตั้งประเทศไทยมาจวบจนถึงปัจจุบัน ผมไม่เคยเห็นมีกิจกรรมใดที่ทำให้คนรู้จักประเทศไทยของเราตั้งแต่ผู้นำประเทศ ผู้นำทางศาสนา ทุกวงการ จนถึงลูกเด็กเล็กแดงในทุกประเทศทั่วโลกรู้จักประเทศไทยได้มากเท่านี้
ผมเดินทางไปทั่วโลกในนามประเทศไทยแนะนำตนเองว่า เรามาจากประเทศไทย คนก็จะถามย้อนว่า ไต้หวัน เจอหน้าก็ทักเราก่อนว่า หนีห่าว คิดว่าเราเป็นคนจีน แต่ต่อไปนี้แนะนำตนเอาว่ามาจากประเทศไทย ผมว่าเขาจะรู้จักดีจากเหตุการณ์นี้ และยังชวนเราสนทนาเหตุการณ์นี้ต่อ ทำให้เรามีโอกาสแนะนำสิ่งดีงามในประเทศของเราต่อยอดไปได้อีก
รวมถึงเหตุการณ์นี้ เป็นเหตุการณ์ที่ดึงเครื่องมือที่ดีที่สุดและคนที่เก่งที่สุดในโลกมารวมตัวก่อให้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถอดบทเรียนและพัฒนาต่อยอดไปสู่สิ่งที่ดีกว่าเพื่อช่วยมนุษยชาติโดยไม่หวังผลตอบแทน
ยังไม่รวมถึงการดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยว ซึ่งอาจมากไม่แตกต่างจากอุบัติด้านการท่องเที่ยวแบบพืชสวนโลก แต่ที่สำคัญคนมาจากทั่วโลก ก่อให้เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาพรวมทั้งของประเทศและท้องถิ่น
เหตุการณ์ที่เกิดเป็นอุบัติภัยเป็นอุบัติเหตุมิได้เกิดจากการจงใจหรือประมาท แต่สามารถสร้างอุบัติการณ์ด้านต่างๆ ที่มีคุณูปการต่อท้องถิ่นประเทศและมวลมนุษยชาติในโลกนี้อย่างมหาศาล
แค่นี้ยังไม่เป็นการสร้างคุณูปการอีกหรือ..!!
ผมเคารพในความคิดเห็นต่างแต่ก็ขอสงวนสิทธิที่จะแสดงความเห็นและเหตุผลเพื่อชวนให้สังคมได้ตระหนักรู้และคิดรวมกัน
การให้ประโยชน์กับเด็กถือเสียว่าเป็นการปลอบขวัญแทนการสวมกอด เหมือนผู้ใหญ่ใจดีที่เรียกขวัญกลับคืนมาก็น่าจะเป็นประโยชน์กับเด็กชุดนี้ เพราะถึงอย่างไรเขาก็ยังช่วงชั้นชีวิตที่เหลืออีกยาวนานที่จะทำประโยชน์ให้กับชุมชน สังคมและประเทศนี้ต่อไปได้อีกมากมาย
