จับแล้วฆาตกรฆ่าหั่นศพ หนุ่มบึงกาฬวัย 20 จนมุม “เฉลิมเกียรติ” นำทีมล็อกตัว สอบพบฆ่าหั่นศพหนุ่มที่อุดรธานีก่อนฉกจยย.ขี่หลบหนี แล้วอีกวันลงมือโหดฟันคอฆ่าหนุ่มใหญ่ที่หนองบัวลำภูอีกศพ คาถนน จากนั้นยังใช้มีดปาดคอพ่อค้าหมู- ไล่ฟันหัวหนุ่มใหญ่ขณะไกวเปลหลาน 2 ขวบ แล้วอุ้มเด็กเป็นตัวประกันขี่จยย.หนี แต่โดนชาวบ้านล็อกตัวไว้ได้ เค้นสอบให้การวกวนคล้ายเมายา คาดเสพยามากจนเบลอ-ประสาท หลอน ช่างซ่อมจยย.ชี้ตัวยืนยัน รองผบ.ตร.เผย 2 เดือนก่อนโดนจับฐานเสพยาบ้าวันเดียว 10 เม็ด-ก่อเหตุลักทรัพย์ด้วย ก่อนนำตัวไปทำแผน-ฝากขัง สั่งแยกขังเดี่ยว-หวั่นทำร้าย ผู้ต้องหาคนอื่น

จาก กรณีคนร้ายฆ่าหั่นศพนายปัญญา ทองศรี อายุ 50 ปี เสียชีวิตคากระท่อมเฝ้าไร่อ้อย ท้ายหมู่บ้านโนนสวรรค์ อ.เมือง จ.อุดรธานี เจ้าหน้าที่จึงเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดถนนบริเวณใกล้เคียงและใช้ร่มบินออก ติดตามล่าตัวคนร้าย หลังพบชายต้องสงสัยขี่รถจักรยาน ยนต์ของผู้ตายหลบหนีไป ตามที่เคยเสนอข่าวไปนั้น

สำหรับความคืบหน้า เมื่อวันที่ 17 ก.ย. ที่บก.ภ.จว.อุดรธานี พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. พร้อมด้วยพล.ต.ต.บุญลือ กอบางยาง รองผบช.ภ.4 พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ ผบก.สส.ภ.4 พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี และพล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู แถลงจับกุมนายสถาพร สีเชียงสา อายุ 20 ปี ชาว อ.เมือง จ.บึงกาฬ ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยจับกุมได้ขณะไปก่อเหตุใช้มีดปาดคอ แทง และฟันชาวบ้าน พร้อมจับเด็กเป็นตัวประกันที่บ้านหนองด้วง ต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู

พล.ต.ต.พีระพงศ์เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 15 ก.ย. รับแจ้งเหตุฆ่าหั่นศพนายปัญญา ที่กระท่อมใน อ.เมือง จ.อุดรธานี ส่วนคนร้ายขโมยรถจักรยานยนต์ขี่หลบหนี โดยตอนแรกเจ้าหน้าที่มุ่งปมสังหารไปที่มรดก และความขัดแย้งส่วนตัว แต่ต่อมาได้เบาะแสสำคัญ หลังกล้องวงจรปิดจับภาพชายต้องสงสัย ขี่รถจักรยานยนต์ของผู้ตาย จึงเร่งติดตาม หาตัว ก่อนพบขี่รถผู้ตายไปซ่อมที่ร้านใน อ.กุดจับ จ.อุดรธานี ต่อมาเวลา 07.00 น. วันที่ 16 ก.ย. มีเหตุฆ่าฟันคอนายสำราญ ศรีมุงคุณ อายุ 62 ปี จนขาด บนถนนบ้านราษฎร์เกษมศรี-โนนงาม อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุคดีแรก 70 ก.ม. โดยพล.ต.ต.ขจรศักดิ์ ปานสาคร รองผบช.ภ.4 มาติดตามคดีอย่างใกล้ชิด และเชื่อว่าฆาตกรน่าจะเป็นคนเดียวกัน เพราะ แผนประทุษกรรมเหมือนกัน โดยใช้มีดฟัน ลำคอจนขาด แต่ไม่มีเวลาหั่นศพ เพราะอยู่ในที่แจ้งและมีผู้คนผ่านไปมา จึงหลบหนีไป ทำให้ตำรวจต้องเร่งไล่ล่าฆาตกร พร้อมเตือนประชาชน ให้ระมัดระวังและอย่าออกนอกบ้านในยามค่ำคืน

พล.ต.ต.พีระพงศ์ กล่าวอีกว่า จากนั้น ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย. ตำรวจ สภ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู รับแจ้งเหตุคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ที่มีผู้แจ้งหายไว้ แล้วก่อเหตุใช้มีดปาดคอและแทงนายพลเทียม โสภา อายุ 32 ปี พ่อค้าขายหมู บริเวณหน้าบ้านพักหนองด่าน อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู แต่ผู้บาดเจ็บต่อสู้ ทำให้คนร้ายวิ่งหลบหนีไปประมาณ 300 เมตร และใช้มีดฟันศีรษะนางเหง่า ดอนปราบ อายุ 54 ปี ขณะนั่งไกวเปลหลานสาวอายุ 2 ขวบ อยู่หน้าบ้าน พร้อมอุ้มเด็กแล้วชิงรถจักรยานยนต์อีกคันขี่หลบหนีไปประมาณ 5 ก.ม. ก่อนชาวบ้านช่วยกันไล่ติดตามจับกุมจนคนร้ายปล่อยเด็ก และล็อกตัวคนร้ายไว้ได้

พล.ต.ต.พีระพงศ์กล่าวต่อว่า จากการสอบ สวนคนร้ายยังให้การวกวนไปมา คล้ายคนเมาสารเสพติด แต่เมื่อนำไปตรวจหาสารเสพติดไม่พบ เบื้องต้นคาดว่า ก่อนหน้านี้คนร้ายอาจเสพยาไปมาก จนมีอาการเบลอและประสาท หลอน จากนั้นเจ้าหน้าที่นำภาพวงจรปิด ขณะปั่นรถจักรยานไปก่อเหตุฆ่านายปัญญา ที่กระท่อมนามาให้ผู้ต้องหาดู โดยผู้ต้องหายืนยันเป็นรูปตัวเองที่ไปลักรถจักรยานในหมู่บ้านแห่งหนึ่งมา จากนั้นปั่นไปเรื่อยๆ แบบไร้จุดหมาย นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังนำภาพคนร้ายขณะเข็นรถจักรยานยนต์ของผู้ตายมาให้ดู อีกรูป คนร้ายก็ให้การว่านำรถไปซ่อม เนื่องจากสายพานรถขาด ตำรวจจึงนำพยานบุคคล เป็นช่างซ่อมรถจักรยานยนต์มาชี้ตัวนายสถาพร โดยพยานได้ชี้ยืนยันว่าเช้าวันที่ 15 ก.ย. นายสถาพรเป็นคนเข็นรถจักรยานยนต์ของผู้ตายไปให้ซ่อม เพราะสายพานขาด โดยซ่อมประมาณ 30 นาที และคิดค่าซ่อม 400 บาท ซึ่งนายสถาพรมีเงินจำนวนมากในกระเป๋า

พล.ต.ต.พีระพงศ์กล่าว เพิ่มเติมว่า โดยสรุปเชื่อว่าตำรวจจับคนร้ายไม่ผิดตัวแน่นอน เนื่อง จากมีพยานเป็นช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ชี้ตัวยืนยัน แค่นี้ก็สามารถทำให้ดำเนินคดีกับ ผู้ต้องหาได้ แต่ตำรวจจะได้ไปติดตามหา รถจักรยานยนต์ มีดและเสื้อผ้าของกลาง ซึ่งผู้ต้องหาบอกว่าได้นำไปทิ้งลงสระน้ำแล้ว แต่ไม่ทราบว่าอยู่ที่จุดใดมาให้ได้ เพื่อเป็นหลักฐานและตรวจเก็บดีเอ็นเอ ลายนิ้วมือของผู้ต้องหา ก่อนนำไปเปรียบเทียบในที่เกิดเหตุ

พล.ต.อ. เฉลิมเกียรติกล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติคนร้ายพบเมื่อ 2 เดือนก่อนถูกจับกุมข้อหาเสพยาบ้าวันละ 10 เม็ด และก่อเหตุลักทรัพย์ใน จ.บึงกาฬ แต่ไม่เคยเข้ารับการรักษาทางจิตที่โรงพยาบาลใด เร่ร่อนมาอาศัยอยู่ที่สนามทุ่งศรีเมือง เขตเทศบาลนครอุดรธานี จากนั้นได้ก่อเหตุสะเทือนขวัญ ถึงอย่างไรผู้ต้องหาจะถูกดำเนินคดี และต้องพิสูจน์โดยแพทย์ว่าผู้ต้องหามีอาการทางจิตหรือไม่

ต่อ มาเจ้าหน้าที่คุมตัวนายสถาพรไปทำแผน และชี้จุดเกิดเหตุ เริ่มจากคดีฆ่าหั่นศพนายปัญญา ที่กระท่อมท้ายหมู่บ้านโนนสวรรค์ ต.เชียงยืน อ.เมือง จ.อุดรธานี โดยนายสถาพรอาศัยจังหวะที่ผู้ตายเผลอขณะนั่งบนแคร่ไม้ ก่อนใช้มีดฟันคอ จุดต่อมาเป็นร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ใน อ.กุดจับ จ.อุดรธานี เป็นจุดที่ผู้ต้องหานำรถของผู้ตายมาซ่อม ซึ่งกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายไว้ได้ โดย การทำแผนแต่ละจุดมีชาวบ้านที่ทราบข่าวเดินทางมาติดตามและสังเกตการณ์จำนวน มาก จากนั้นคุมตัวนายสถาพรไปฝากขังผัดแรก ก่อนถูกส่งตัวเข้าเรือนจำจังหวัดหนองบัวลำภู โดยทางเรือนจำเตรียมแยกขังเดี่ยวผู้ต้องหา เนื่องจากเกรงมีอาการคลุ้มคลั่งแล้วทำร้ายนักโทษด้วยกัน

วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากนาย ศุภศักดิ์ วงศ์นิคม อายุ 49 ปี ชาวอ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ว่าพบรถจักรยานยนต์สีขาวคาดแดง จมอยู่ในลำน้ำพะเนียง ข้างไร่อ้อย ต.ด่านช้าง จึงเดินทางไปตรวจสอบพบรถจักรยานยนต์ของนายปัญญาที่ถูกผู้ต้องหาขโมยไป รวมทั้งยังพบหมวกไหมพรมสีดำ หน้ากาก หมวกสีน้ำเงิน เสื้อเชิ้ต กางเกงยีนส์ รวมทั้งซองยาแก้ไอแก้ปวดและซองยาเส้น เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

นายศุภศักดิ์เปิด เผยว่า ช่วงบ่ายวันที่ 16 ก.ย. ขณะตนและครอบครัวมาตัดหญ้าริมไร่อ้อย ได้เห็นชายหนุ่มผุดขึ้นจากน้ำ และมีเสื้อผ้าตากอยู่บนคันนา มีแบงก์พันวางตากแดดอยู่ด้วย จึงสอบถามชายคนดังกล่าว ซึ่งก็ไม่ได้พูดอะไรมาก ก่อนเดินจากไป โดยสวมเพียงกางเกงกีฬาสีฟ้าและเสื้อ ตอนนั้นไม่เห็นรถ กระทั่งอีกวันมาสังเกตพบรถจักรยานยนต์จมอยู่ในน้ำ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน