เปิดบทสัมภาษณ์สุดท้าย “เก๋” ก่อนฆ่าตัว 1 วัน แฉสิ้นความสัมพันธ์ “น้องสมมติ”

เก๋ เลเดอเรอร์ – วันที่ 15 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ใน รายการปากปลาร้า หน้าเป๊ะ ซึ่งเป็นเทปที่มีแขกรับเชิญ คือ เก๋ ลาพรีม หรือ น.ส.กันยกร ศุภการค้าเจริญ นางแบบสาว เจ้าของธุรกิจ ลาพรีม คลินิก วัย 30 ปี ซึ่งกระโดดตึกเสียชีวิต เมื่อวันที่ 7 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยเป็นการออกอากาศที่หลายฝ่ายตั้งตารอ เพราะ ถูกบันทึกไว้ก่อนที่ เก๋ จะเสียชีวิตเพียง 1 วัน เป็นการเปิดใจถึงเรื่องราวต่างๆ ในชีวิต หลังจากถูกตั้งคำถามถึงความสัมพันธ์ที่แตกหักกับน้องคนสนิท

เก๋ เปิดเผยว่า พ่อเป็นทหาร และมีแม่เป็นแม่บ้านทหาร เป็นคนจ.พะเยา ที่มาเรียนกรุงเทพฯ เพื่อเข้าวงการบันเทิง ครอบครัวฐานะธรรมดา ซึ่งที่ผ่านมาตั้งแต่เริ่มโต ก็เดินสายประกวดนางงามตามเวทีต่างๆ มาเยอะ ผ่านเวทีใหญ่ๆ เช่น มิสไทยแลนด์เวิล์ด และมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ซึ่งได้รางวัลผิวสวยพ่วง ก่อนจะเข้าสู่วงการบันเทิงอย่างเต็มตัว และเริ่มทำธุรกิจเกี่ยวกับการดูแลผิวพรรณ

เก๋เลือกสัก เพราะ ต้องการขายแบรนด์ไปด้วย ใครเห็นก็จะรู้ว่าเป็นแบรนด์ของเรา ซึ่งประสบความสำเร็จมาก เป็นการทำร่วมกับน้องคนสนิทที่อยู่ด้วยกัน การเปลี่ยนมาเรียก เก๋ ลาพรีม จากเก๋ เลเดอเรอร์ เพราะ แยกตัวมาแล้วทำของตัวเอง คือ ทำสถาบันเสริมความงามแถวรามอินทรา เมื่อตัวเก๋ โด่งดัง ก็เสริมแบรนด์ให้ดังไปด้วย แต่ก็ต้องทำงานหนักมากเช่นกัน หลายคนจะบอกว่าแต่งตัวเซ็กซี่ เพราะเป็นคนเซ็กซี่ แต่ตัวตันที่แท้จริงไม่ใช่แบบนั้น

เก๋ เลเดอเรอร์

ความสัมพันธ์ที่ผ่านมา เป็นเพียง ‘พี่น้องสมมติ’ เก๋มองย้อนกลับไปก็เห็นจริงๆ ว่าเป็น พี่น้องสมมติ ไม่รู้ว่าเก๋ถูกสมมติอะไรบ้าง และก็ไม่รู้ว่าเขาคือใครกันแน่ เราเป็นอะไรสำหรับเขา และเขาเป็นอะไรสำหรับเรา รายการนี้จะเป็นรายการแรก รายการเดียว และอาจจะเป็นรายการสุดท้ายที่จะออกมาพูดเรื่องนี้

วันนี้รู้สึกแฮปปี้ ที่ได้แยกออกมา อยากจะบอกสังคมว่า อย่าสมมติกับชีวิต ตอนนี้บอกไม่ได้ว่าจบสวย หรือไม่สวย แต่คนที่เห็นก็อาจจะมองออกว่าความจริงเป็นอย่างไร

เก๋ เปิดเผยอีกว่า เก๋ ไม่เคยใช้นามสกุล เลเดอเรอร์ แต่แค่ติดแบรนด์เท่านั้น นามสกุลเดิมคือ ขันแก้ว ก่อนจะเปลี่ยนเป็น ศุภการค้าเจริญ เพื่อความเป็นศิริมงคล เมื่อแยกตัวเองออกมา ก็สักทับรอยเก่า เพราะ แยกออกมาแล้ว และไม่อยากให้มีคำว่า เลเดอเรอร์พ่วงท้ายในชีวิตอีก ตอนนี้จะไปเน้นธุรกิจของตัวเองส่วนใหญ่ และก็ไม่คุยกันแล้ว นอกจากจะมีเหตุจำเป็นจริงๆ เงาไม่เหยียบแน่นอน แต่ผีไม่เผา ไม่แน่ เพราะไม่รู้ใครตายก่อน ตายหลัง

จะบอกว่าการแตกหัก ไม่มีเรื่องผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง ที่ผ่านมามันเป็นธุรกิจที่เอาแต่เรารับหน้า พอมันดีก็ดีไป แต่หากแย่ เก๋ และครอบครัวก็รับเต็มๆ ทุกวันนี้ครอบครัวไม่โอเคกับเก๋มาก เพราะ ที่ผ่านมาเราเชื่อกับสิ่งสมมติมากเกินไป เหมือนการรักจนตาบอด แต่เมื่อเก๋ถอยออกมา ก็เห็นอะไรมากขึ้น และเห็นว่าคนอื่นก็โดนเหมือนกัน แต่ก็เงียบไว้

เก๋ เปิดเผยว่า หลายปีที่ผ่านมาได้บทเรียนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต เพราะทำให้สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง รวมไปถึงบ้าน และครอบครัวก็เสียไปด้วย แม้ว่าจะได้ตัวเองกลับมา ที่ผ่านมายอมรับว่า กดดัน เพราะ เก๋พูดกับคนได้แค่กับบางคน คือ คนที่ถูกเขากระทำด้วย เราพลาดตรงที่เชื่อในสิ่งสมมติ ให้แต่ความเชื่อมั่น และทุ่มเท

การแยกตัวออกมาทำเอง ไม่ได้ทิ้งพาร์ทเนอร์เก่า เพียงเดินกลับมาอยู่กับครอบครัวจริงๆ มากกว่า และพื้นที่ที่ทำธุรกิจ เป็นของคนที่มีพระคุณกับเก๋ และคนที่เป็นหุ้นส่วน ก็เป็นคนที่ตาส่วางเช่นกัน ยืนยันว่าไม่มีเสี่ยเลี้ยง หรือคนลงทุนให้ ส่วนช่วงแรกก็อาจจะยังดำเนินไปได้ไม่ดีนัก เพราะเพิ่งเปิด และหุ้นส่วนก็พยายามช่วยกัน การเริ่มลาพรีมคลินิก ถือเป็นการเริ่มต้นชีวิตตัวเองด้วย นอกจากนี้ยังทุ่มเทเรียนด้านผู้ช่วยพยาบาลเพิ่ม เพื่อใช้ประโยชน์ในการทำธุรกิจ

“ตนจะขอจบทุกอย่างที่นี่ ใครจะพูดยังไงก็แล้วแต่ ส่วนอีกฝ่ายจะคิดยังไงก็แล้วแต่ แต่เชื่อว่าจะโดนหลายฝ่ายขุดต่อเช่นกัน อยากจะบอกว่าที่ผ่านมาขอบคุณ และไม่อยากให้คุณทำแบบนี้เหมือนกับที่ตัวเองโดนอีก หยุดสร้างเรื่องสมมติ และหยุดพยายามทำตัวเองให้ดูดี ตอนนี้ก็ขอออกมาใช้ชีวิตในความเป็นจริงดีกว่า” เก๋ กล่าวปิดท้าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน