นักวิชาการศาสนา ชี้ ปัญหาคอนโดหรู โวยวัดตีระฆัง พระควรจัดการทุกข์ชาวบ้าน!

จากกรณี สำนักงานเขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ ส่งหนังสือถึงเจ้าอาวาสวัดไทร ย่านพระราม 3 โดยระบุว่า ประชาชนแจ้งเรื่องร้องทุกข์ได้รับความเดือดร้อน กรณีที่ทางวัดไทร ทำการตีระฆัง ส่งเสียงดังรบกวน ตั้งแต่เวลา 03.30 น. – 04.00 น. เป็นประจำทุกวัน สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้พักอาศัยบนคอนโดที่อยู่ติดวัด จากนั้นทางสำนักงานเขตบางคอแหลม จึงขอความร่วมมือวัดให้ช่วยลดเสียงเพื่อป้องกันการสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้พักอาศัย จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกสังคมออนไลน์กันอย่างกว้างขวาง

บางกระแส ก็เห็นด้วยว่าพรควรตีระฆังต่อไป อย่าหยุด เพราะเป็นพุทธประเพณีในช่วงเข้าพรรษา บางกระแสก็เห็นว่า ควรหาทางออก “พบกันครึ่งทาง” ระหว่าง วัด และ คอนโดหรู

4 ต.ค. นายสุรพศ ทวีศักดิ์ นักวิชาการปรัชญาและศาสนา โพสต์ข้อความทางเฟสบุ๊กเรื่อง ปัญหา “ระฆัง-คอนโดฯ” แสดงความเห็นกรณีปัญหาผู้อยู่อาศัยในคอนโดแห่งหนึ่งร้องเรียนไปยังวัด เนื่องจากเสียงระฆังดัง รบกวนเวลานอน โดยวัดมีคำสั่งให้ตีเบาลง

โดยนายสุรพศ ระบุว่า ผิดที่มาสร้างคอนโดใกล้วัด หรือผิดที่วัดตีระฆังเวลาตี 3 ครึ่งถึงตี 4 รบกวนเวลานอนของชาวบ้าน? คำถามแบบนี้ไม่มีคำตอบ มันไม่ใช่เรื่องต้องหาคำตอบว่า “ใครผิด” แต่เป็นเรื่องของการปรับตัวอยู่ร่วมกันในการใช้ชีวิตในสังคมสมัยใหม่

ปัญหาคือ ชาวบ้านเดือดร้อนจากเสียงระฆังรบกวนเวลานอนจริง วัดก็มีประเพณีปฏิบัติมานานจริงทางออกควรเป็นอย่างไร? ใช้กฎหมายบังคับวัดให้เลิกตีระฆัง ไม่แน่ใจว่ามีกฎหมายบังคับ (ผมไม่รู้ว่ามีหรือไม่) และไม่น่าจะเป็นทางออกที่ดี ทางออกควรใช้หลักพุทธศาสนาที่พระสอนชาวบ้านน่าจะดีกว่า

คือพระสอนเรื่อง “ทุกข์-ทางดับทุกข์-ปัญญาและกรุณา” เมื่อชาวบ้านเขาทุกข์จากเสียงระฆังเวลาดึกจริง พระควรใช้ปัญญาและกรุณาในการแก้ทุกข์ของชาวบ้านครับ แทนที่จะบอกชาวบ้านให้ไปแจ้งตำรวจ

ระหว่าง “ประเพณีการตีระฆังตอนดึก” กับ “การปฏิบัติตามหลักพุทธธรรมเรื่องทุกข์-ทางดับทุกข์-ปัญญาและกรุณา” พระสงฆ์ควรเลือกอะไรมากกว่า? นี่เป็นคำถามต่อพระสงฆ์ในการอยู่ร่วมกับผู้คนในโลกสมัยใหม่หลายๆเรื่อง ไม่ใช่เฉพาะเรื่องนี้เรื่องเดียว

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน