“ผู้ว่าฯ กทม.” เผยการตีระฆังเป็นประเพณีชาวพุทธ สั่งเขตฯ แก้ไขให้อยู่ร่วมกันได้ ชี้ให้หยุดตีแล้วย้ายไปที่อื่นง่ายกว่า

จากกรณีสำนักงานเขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ ส่งหนังสือถึงเจ้าอาวาสวัดไทร ย่านพระราม 3 โดยระบุว่า ประชาชนแจ้งเรื่องร้องทุกข์ได้รับความเดือดร้อน กรณีที่ทางวัดไทร ทำการตีระฆัง ส่งเสียงดังรบกวน ตั้งแต่เวลา 03.30 น. – 04.00 น. เป็นประจำทุกวัน สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้พักอาศัยบนคอนโดที่อยู่ติดวัด จากนั้นทางสำนักงานเขตบางคอแหลม จึงขอความร่วมมือวัดให้ช่วยลดเสียงเพื่อป้องกันการสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้พักอาศัย จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกสังคมออนไลน์กันอย่างกว้างขวาง

ล่าสุด เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ที่อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกทม.2 ดินแดง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า วัดถือเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนมายาวนาน ซึ่งการตีระฆัง ตีกลองของวัด ถือเป็นวัฒนธรรมประเพณี แจ้งเวลา แจ้งการทำกิจกรรม การนัดหมายต่างๆ เป็นกิจกรรมปกติของวัด ซึ่งกรณีที่มีการร้องเรียนเหตุเสียงระฆังของวัดที่เกิดผลกระทบต่อการอยู่อาศัยของคนนั้น ตนได้ให้แนวทางต่อผู้อำนวยการเขตทั้ง 50เขต ต้องหาแนวทางจัดการให้เหมาะสม โดยให้วัดและประชาชนสามารถอยู่ร่วมกันได้

สำหรับกรณีวัดไทร ผู้อำนวยการเขตได้เข้าไปกราบนมัสการ ร่วมหารือกับเจ้าอาวาสแล้ว ซึ่งขอให้ทางวัดปฏิบัติทุกกิจของสงฆ์ตามแนวทางปกติ ซึ่งเจ้าอาวาสวัดไทร ได้มีการแจ้งว่า จะให้พระลูกวัด ลดแรงการตีระฆังให้เบาลง เพื่อไม่ให้เกิดเสียงดังมากจนเกินไป

ส่วนการวัดระดับความดังของเสียง ได้มอบหมายให้เขตลงไปตรวจวัดระดับความดัง เพื่อไม่ให้เสียงเกินค่ามาตรฐาน แต่เชื่อว่าระดับความดังของเสียง จะไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด และไม่เกิดอันตรายใดๆอย่างแน่นอน

สำหรับประชาชนผู้ร้องเรียน กรณีวัดไทร ซึ่งมีจำนวน 2รายนั้น ต้องหาทางร่วมพูดคุย ชี้แจง ให้สามารถอยู่ร่วมกันได้ ซึ่งเขตฯได้เข้าพูดคุยสร้างความเข้าใจถึงวัฒนธรรม ประเพณีทางศาสนาที่มีมาอย่างยาวนาน ซึ่งหากเสียงเกิดผลกระทบอาจต้องหาทางแก้ไขแบบอื่นๆ แต่กรณีจะให้วัดหยุดตีระฆังนั้น คงเป็นไปไม่ได้เช่นกัน ถ้าเช่นนั้น ให้คนร้องไปอยู่ที่อื่นยังง่ายกว่า

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน