ทาสแมว บุกจี้คดีถึงโรงพัก เก๋-ชลลดา ดาราสาว พร้อมกลุ่มคนรักสัตว์ ขอให้เร่งทำคดีดีเจสาว ยันมีหลักฐานว่าขอแมวไปเลี้ยงถึง 29 ตัว เตรียมให้ข้อมูลตร. ส่วนที่ชลบุรี ภรรยารุดแจ้งจับสามีตีหมาตาย เพราะโกรธที่กัดลูก ชี้เป็นการกระทำรุนแรง กลัวจะเกิดขึ้นกับคนในครอบครัว

จากกรณีกรมปศุสัตว์ และองค์กรกลุ่มคนรักสัตว์รักแมว แจ้งความสน.เพชรเกษม ให้ดำเนินคดี น.ส.วรารัตน์ กระแสร์ หรือ ดีเจซัน อายุ 30 ปี ดีเจอิสระเปิดเพลง ตามผับ โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ โดย ผู้กล่าวหาสงสัยว่านำแมวไปทารุณกรรมโชว์ตามเว็บไซต์ใต้ดิน หรือดาร์กเว็บเพื่อแลกกับเงินบิตคอยน์ ต่อมาตำรวจติดตามตัว น.ส.วรารัตน์ ที่บ้านพักย่านศาลาธรรมสพน์ เบื้องต้นให้การปฏิเสธ และไม่พบหลักฐานการทารุณกรรมสัตว์ตามที่กล่าวอ้าง โดย เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้แจ้งข้อหาแต่อย่างใด

ทาสแมว / ความคืบหน้าเมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 23 ต.ค. ที่สน.เพชรเกษม ตัวแทนกลุ่มคนรักแมว นำโดยน.ส.ชลลดา เมฆราตรี หรือเก๋ นักแสดงชื่อดัง เดินทางมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดำเนินคดีกับน.ส. วรารัตน์ โดยมี น.ส.อิศราภรณ์ สมุทรกลิน เจ้าของแมว น.ส.นัชญ์ ประสะสิน เจ้าของเพจดังทูนหัวของบ่าว นายพีระบุญ เจริญวัย ตัวแทนเดอะโฮป ไทยแลนด์ และตัวแทน วอตช์ด็อกไทยแลนด์ เดินทางมาร่วมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้ด้วย

น.ส.ชลดา ระบุว่า จากการพูดคุยกับตำรวจเจ้าของคดีระบุว่าตอนนี้กำลังดำเนินการอยู่ คดีมีความคืบหน้าไปมากร้อยละ 80 ยังขาดพยานหลักฐานบางส่วนเท่านั้น ก็จะสามารถดำเนินคดีกับดีเจข้อหาทารุณกรรมสัตว์ได้ คดีนี้เป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ ตอนนี้มีข้อมูลว่าดีเจสาว ขอแมวไปเลี้ยงจากผู้เสียหายหลายราย รวมแล้ว 29 ตัว ในส่วนแมวของน.ส.อิศราภรณ์ คือตัวที่ 27 พรุ่งนี้พี่สาวของผู้เสียหายจะนำซากแมวที่แช่แข็งส่งให้กับทางพนักงานสอบสวน เพื่อให้ส่งไปผ่าพิสูจน์ เวลา 10.00 น.

ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะส่งไปผ่าพิสูจน์ที่ไหน เช่น โรงพยาบาลสัตว์สถาบันเกษตร กำแพงแสน หรือที่โรงพยาบาลสัตว์จุฬาฯ ส่วนตัวที่ 28-29 ผู้เสียหายอีกราย เดินทางมาให้ข้อมูลแล้วแต่ไม่ประสงค์จะออกสื่อ ซึ่งล่าสุดได้คืนมาแล้ว 1 ตัว อีก 1 ตัว ดีเจสาวอ้างว่าหายไปเช่นกัน พร้อมประชา สัมพันธ์ผู้เสียหายที่เคยให้แมวกับดีเจซัน สามารถเข้าแจ้งความภายใน 7 วัน ที่ สน.เพชรเกษม หรือส่งข้อมูลมาที่เพจทูนหัวของบ่าว และวอตช์ด็อกไทยแลนด์ ข้อมูลทุกอย่างจะเป็นความลับ รวมถึงฝากประชาสัมพันธ์ผู้ใดเคยพบเห็นลูกแมวสีส้มสด ขอให้มาให้ข้อมูลที่สน.เพชรเกษมด้วย ทั้งนี้ที่เคยมีผู้ให้ข้อมูลถึงดาร์กเว็บซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมอยู่ขณะนี้ ขอให้ทางรัฐบาลช่วยดำเนินการปิดด้วย

นายพีระบุญ เปิดเผยว่า นอกจากจะ เดินทางมาให้กำลังใจตำรวจในการทำคดีแล้ว ยังนำพยานในคดีนี้ รวมถึงผู้เสียหาย รายอื่นๆ มาให้ปากคำเพิ่มเติมด้วย ไม่ต่ำกว่า 4 ราย ซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์ และเป็นคนที่เคยให้แมวไปกับดีเจสาว ทั้งนี้ยังมีผู้แจ้งความประสงค์ที่จะเข้ามาเป็นพยานอีกกว่า 10 ราย ซึ่งเชื่อมั่นว่าพยานหลักฐานที่มีสามารถเอาผิดดีเจสาวได้

พ.ต.ท.ศุภชัย อ่วมประเสริฐ รองผกก.สอบสวน สน.เพชรเกษม กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเตรียมที่จะดำเนินคดีกับดีเจสาว

ส่วนความคืบหน้ากรณีที่มีผู้โพสต์คลิปวิดีโอชายใช้ไม้กระหน่ำตีสุนัขจนตาย ที่เกิดขึ้นในพื้นที่จ.ชลบุรี น.ส.จันทา แขสันเทียะ อายุ 40 ปี แม่เจ้าของเฟซบุ๊ก ชื่อ Feya so ที่โพสต์คลิปวิดีโอดังกล่าว เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.สุภชาติ วสุสกุลเจริญ รองสว.สอบสวน สภ.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยระบุว่า ผู้ก่อเหตุคือนายวันเฉลิม รุ่งเรือง อายุ 31 ปี ซึ่งคบหากันมานานกว่า 1 ปี และย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านพร้อมกับลูกชาย จนเกิดปัญหาสุนัขที่บ้านไปกัดลูกชายจนเป็นเรื่อง ซึ่งสุนัขตัวดังกล่าวเป็นสุนัขที่พ่อเลี้ยงนำมาด้วย จนมาเกิดเหตุการณ์ทำร้ายหมาจนตาย แล้วตะโกนขึ้นมาว่า “หมากู กูเลี้ยงมาทำไมกูจะฆ่ามันไม่ได้ ก่อนจะตีจนตาย” ทำให้จิตใจคนภายในบ้านหวาดกลัวว่าจะมาทำร้ายคนในครอบครัว จึงเดินทางเข้าแจ้งความเพื่อเป็นหลักฐาน และยืนยันจะดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมาย

ร.ต.อ.สุภชาติ กล่าวว่า ตั้งข้อกล่าวหานายวันเฉลิม รุ่งเรือง อายุ 31 ปี ทารุณกรรมสัตว์ เพียงข้อหาเดียวก่อนออกหมายเรียกตัวผู้ก่อเหตุมารับทราบข้อหาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป หากออกหมายเรียกแล้วไม่มาก็จะพิจารณาขอออกหมายจับต่อไป

ส่วนที่จ.ตรัง น.ส.นพมาศ หรือ ต้า พิทักษ์ พนักงานบริษัท อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/81 หมู่ 5 ต.บางรัก อ.เมือง จ.ตรัง แจ้งว่ามีสุนัข 1 ตัว ถูกทอดทิ้งให้อยู่ในหลังบ้านเช่าหลังหนึ่งนานกว่า 1 เดือนแล้ว ในสภาพสุดเวทนาแก่ผู้ที่พบเห็น เนื่องจากมีการล่ามโซ่ และอดข้าว อดน้ำ ไม่มีที่หลบแดดหลบฝน

โดยบ้านเช่าดังกล่าว ตั้งอยู่เลขที่ 42/1 หมู่ 8 ต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง ริมถนนสายวัดโคกหล่อ-ควนขัน ซึ่งบริเวณหลังบ้านมีการกั้นด้วยกำแพงปูน และมีประตูเหล็ก แต่ไม่ได้ล็อกกุญแจ จึงสามารถเปิดเข้าออกได้ ไม่มีหลังคาปิดกั้นไว้บริเวณด้านบน ภายในพบสุนัขพันทางลูกผสม ชื่อว่า โตโน่ เป็นเพศผู้ อายุประมาณ 2 ปี บริเวณคอถูกล่ามด้วยโซ่เหล็ก ยาวประมาณ 1.5 เมตร ผูกติดอยู่กับแผ่นเหล็กที่ติดอยู่กับ ผนังกำแพง ซึ่งกำลังเห่า และส่งเสียงร้องโหยหวนตลอดเวลา แถมยังมีนิสัยดุร้าย โดยที่ไม่มีใครสามารถเข้าใกล้ได้ ใกล้ๆ กันยังพบกะละมังที่มีน้ำขังในสภาพเหม็นเน่า

น.ส.นพมาศเล่าว่า ตนเองรู้จักกับผู้เช่าบ้านที่เป็นเจ้าของสุนัขตัวดังกล่าว โดยทำงานอยู่ในบริษัทเดียวกัน แต่เขามีภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่ จ.สงขลา กระทั่งเมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมา เจ้าของสุนัขป่วยหนัก จนทำให้ญาติต้องมารับตัวไปเข้ารับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลภายใน จ.สงขลา ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา แต่ไม่ได้นำสุนัขตัวดังกล่าวไปด้วย ทำให้สุนัขถูกทอดทิ้งอยู่ในสภาพสุดเวทนา ตากแดดตากฝน และอดข้าวอดน้ำ มาตั้งแต่บัดนั้น

หลังจากทราบเรื่อง จึงเอาอาหารมา ให้บ้างเป็นบางครั้ง แต่จะทำได้ลำบาก เนื่องจากไม่สามารถเข้าใกล้ตัวสุนัขได้ เพราะมีนิสัยที่ดุร้าย จึงประสานไปยังเทศบาลในพื้นที่ เพื่อให้เข้ามาช่วยดูแลหรือจัดการ โดยที่ไม่อยากให้สุนัขอยู่ในสภาพแบบนี้ แต่กลับได้รับคำตอบมาว่า จะให้ทำยังไง ในเมื่อที่มีอยู่ก็ดูแลได้ไม่หมด จึงอยากวิงวอนผ่านไปยังสื่อมวลชน ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือผู้ใจบุญ ให้เข้ามาหาทางช่วยเหลือสุนัขตัวดังกล่าวให้มีบ้านหลังใหม่ หรือหาเจ้าของใหม่ โดยที่ไม่ต้องอยู่ในสภาพแบบนี้ หรือจะนำไปอยู่ในสถานกักกันก็ได้ เพื่อไม่ให้ 1 ชีวิต ต้องถูกล่ามโซ่ทรมานอยู่อย่างนี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน