ฟันวินัย 5ตร. ช่วยคดี เอมี่ รอดค้ายา โยง 2 สน. ร.ต.อ.นำ

“บิ๊กบัว”รับสอบมีมูล 5 ตร.ช่วย”เอมี่”อาเมเรียหลุดคดีค้ายาเสพติด ตั้งกก.สอบวินัยต่อ ลั่นพบผิดอาญาเจอดำเนินคดีด้วย สัญญาบัตร 3 นาย ยศสูงสุดร.ต.อ. ประทวน 2 นาย กราวรูดทั้งพนักงานสอบสวน-ชุดจับกุมสน.สายไหม กับฝ่ายสืบสวนสน.ศาลาแดง กก.สอบข้อเท็จจริงระบุเกี่ยวข้องตามอัจฉริยะร้องเรียน จึงเสนอรรท.ผบช.น.ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเอาผิดโทษทางวินัย

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

เมื่อวันที่ 30 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าจากกรณีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้ร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อพล.ต.ท. ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. โดยระบุว่า ได้รับร้องเรียนจากพลเมืองดีว่าคดียาเสพติด ซึ่งมีนายปุณยวัจน์ หิรัณย์เตชะ และ น.ส.อาเมเรีย หรือเอมี่ จาคอป อดีตมิสทีนไทยแลนด์ ปี 2006 ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวนั้น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายฝ่ายร่วมกันทุจริตช่วยเหลือให้น.ส.อาเมเรียหลุดพ้นคดีร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดในชั้นศาล กระทั่งล่าสุดพล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รรท.ผบช.น. มอบหมาย พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช รรท.รองผบช.น.ประชุมร่วมกับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง สรุปว่าตำรวจ 5 นาย มีส่วนเกี่ยวข้อง มีมูลความผิด มีความเห็นให้สั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น


ความคืบหน้าเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 30 ต.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ รรท.ผบช.น. เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับผลรายงานจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงชุดแรกจากพล.ต.ต.ดาวลอย คาดว่าน่าจะได้รับผลสรุปจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวภายในวันนี้หรือวันพรุ่งนี้ เบื้องต้นเท่าที่ได้รับรายงานด้วยวาจาว่า พบมีความผิดปกติเกิดขึ้น เห็นควรให้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงทางวินัยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง 5 นาย ในกรณีดังกล่าว ส่วนยศยังไม่แน่ชัด โดยมีสถานีตำรวจนครบาล 2 แห่งที่เกี่ยวข้อง พื้นที่ชัดเจนคือพื้นที่เกิดเหตุสน.สายไหม ส่วนพนักงานอัยการจะเสนอขอตัวผู้เกี่ยวข้องมาซักถามอย่างไรนั้น ให้พนักงานอัยการเป็นผู้ดำเนินการในส่วนอัยการ ตนจะดำเนินการในส่วนของตำรวจ ใครมีส่วนเกี่ยวข้องคงไม่มีใครอยากช่วยเหลือ เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับยาเสพติด


“หากมีความผิดทางอาญาด้วยแล้วก็จะมีการดำเนินคดีด้วย ส่วนจะมีความผิดตามมาตรา 157 หรือไม่นั้น ก็มีโอกาส ต้องรอผลตรวจสอบรายละเอียดให้ชัดเจนอีกครั้ง โดยการเสนอให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวเป็นขั้นตอนในการดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องกับพนักงานสอบสวน หรือเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม รวมถึงตำรวจที่เกี่ยวข้อง ส่วนมีมูลความผิดในประเด็นไหนบ้าง น่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการให้การและการเบิกความที่แน่ชัด ส่วนจะให้เสนอย้ายออกจากพื้นที่ รวมถึงจะตั้งคณะกรรมการชุดใดมาพิจารณาต่อนั้น ต้องขอตรวจสอบรายละเอียดก่อน เนื่องจากยังอยู่ระหว่างรอรับผลสรุปดังกล่าวมาตรวจสอบ” รรท.ผบช.น.กล่าว

ด้าน พล.ต.ต.ดาวลอยกล่าวว่า การประชุมสรุปผลคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงคดีดังกล่าว เป็นกรณีภายหลังที่เข้ามารับผิดชอบตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยมีคณะกรรมการ 11 ท่าน ให้เวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน 7 วัน จากนั้นได้ขอขยายมาอีก 15 วัน โดยครบกำหนดเวลาวันที่ 30 ต.ค. ซึ่งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงดำเนินการสรุปผลการตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้วภายหลังจากนายอัจฉริยะได้กล่าวหาหลายฝ่าย กรณีที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง 3 ส่วน ได้แก่ ผู้จับกุม พนักงานสอบสวน และส่วนคดีที่ถูกพากพิงถึง โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวข้องทั้งหมด 5 นาย สูงสุดยศ ร.ต.อ. ประเด็นที่มีการตรวจสอบนั้น ทั้ง 3 ระดับมีการดำเนินการไม่เป็นไปตามระเบียบแบบแผนของตำรวจในส่วนของการดำเนินการกระบวนการยุติธรรมในชั้นนี้ เมื่อไม่เป็นไปตามระเบียบแบบแผน จึงเสนอพล.ต.ท.สุทธิพงษ์ รรท.ผบช.น. ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการเอาผิดโทษทางวินัย

พล.ต.ต.ดาวลอยกล่าวต่อว่า กรณีที่เป็นข้อสงสัยถึงข้อเท็จจริงที่ขัดแย้งหรือสอดรับตามที่ผู้กล่าวหาอ้างถึง ซึ่งผู้ที่ถูกตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงปิดบังไว้ อาจจะต้องเสนอให้ช่วยราชการเพิ่มเติมไว้ก่อน เพื่อไม่ให้เข้ามายุ่งกับพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง มีมูลเกิดขึ้นจริง แต่ในชั้นนี้ยังไม่พบการกระทำ ความผิด ส่วนโทษความผิดทางวินัยก็ต้องเป็นคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงอีกชุดหนึ่งที่รรท.ผบช.น. จะเป็นผู้มอบหมายตั้งคณะกรรมการดังกล่าวขึ้นมาตรวจสอบว่ามีความผิดทางวินัยหรืออาญา จะสิ้นสุดในคณะกรรมการชุดต่อไป

“ส่วนการที่อธิบดีอัยการสำนักคดียาเสพติด สำนักงานอัยการสูงสุดทั้งคณะมาพบ ก็เป็นการประสานความร่วมมือในการจะเชิญพยานหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องมาซักถาม และนัดตำรวจที่ถูกกล่าวอ้างมาให้คณะพนักงานอัยการได้ซักถาม หลังจากนั้นถ้าตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเสร็จสิ้นแล้ว ทั้ง 2 หน่วยงานก็จะกำหนดแนวทางร่วมกันต่อไปว่าความบกพร่องของหน่วยไหนที่เกิดขึ้นก็จะปิดช่องทางปัญหาไม่ให้เกิดขึ้นอีกในส่วนของกระบวนการยุติธรรม เนื่องจากยังไม่รู้ว่ามีความผิดวินัยร้ายแรงหรือไม่ร้ายแรง แต่เรื่องดังกล่าวมีมูลเกิดขึ้นจริงแล้ว ทั้งนี้ จะเสนอข้อสรุปดังกล่าวภายในวันนี้ เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป” รรท.รอง ผบช.น. กล่าว

มีรายงานข่าวแจ้งว่า นายตำรวจทั้ง 5 นาย ที่เกี่ยวข้องนั้น แบ่งออกเป็นชั้นสัญญาบัตร 3 นาย มียศร.ต.อ.สูงสุด และมีชั้นประทวน 2 นาย แบ่งออกเป็นพนักงานสอบสวนสน.สายไหม ชุดจับกุมสน.สายไหม และ เจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นประทวนฝ่ายสืบสวนสน.ศาลาแดง 1 นาย ที่เข้ามาช่วยเรื่องคดีที่นายอัจฉริยะได้พาดพิงถึง ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมคดียาเสพติดช่วยลดโทษให้ผู้ต้องหาตามมาตรา 100/2 พ.ร.บ.คดียาเสพติด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน