‘จอห์น’ วิญญู ชวนคุยการเมือง : “ผมว่า ‘คนรุ่นเก่า’ เขากลัวควบคุม ‘คนรุ่นใหม่’ ไม่ได้!!”

เริ่มต้นบทสัมภาษณ์อย่างสบายๆ กับ ‘จอห์น’ วิญญู วงศ์สุรวัฒน์ นักจัดรายการชื่อดัง แห่ง SpokeDark.TV ผู้ยืนพื้นหยิบยกประเด็นทางสังคม และการเมือง มาวิพากษ์อย่างดุเด็ดเผ็ดมัน กระแทกใจคนรุ่นใหม่ จนทำให้หันมาสนใจประเด็นต่างๆ ที่เกิดขึ้น ด้วยวิธีการนำเสนอที่เข้าใจง่าย และนำพาให้เกิดการตั้งคำถามขึ้นในหัว

ตลอดการสนทนาในหัวข้อ ‘คนรุ่นใหม่กับการเมือง’ ‘เขา’ สามารถถ่ายทอด และกลั่นกรองประเด็นสำคัญออกมาได้อย่างครอบคลุม ผ่านตัวอย่าง และข้อมูลที่กำลังเป็นที่สนใจของประชาชน

ครั้งนี้ ‘เขา’ ได้ออกมาพูดแทน ‘คลื่น’ ความตื่นตัวทางการเมืองของคนรุ่นใหม่ ที่กำลังสร้างแรงสะเทือนขนาดหลายริกเตอร์ในสังคมการเมืองของไทย

กระแสดี หน้าตาดี

ผมมองว่ามันเป็นสีสันทางการเมืองมากกว่า สมมติบอกว่า ทหารหน้าตาดีบอกต่อ ตำรวจหน้าตาดีบอกต่อ รปภ.หน้าตาดีบอกต่อ มันก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น

ท้ายที่สุดมันก็สะท้อนกลับออกมาว่า จริงๆ แล้วต้นตอมันเป็นอย่างไร เพราะโซเชี่ยลมีเดียมันเป็นช่องทางเผยแพร่ บางทีเราจะเห็นว่าคนธรรมดาหน้าตาดีกว่าดาราก็มี เราพูดถึง คนหน้าตาดีกัน แต่เราให้ความสำคัญกับปัญหาเรื่องสถาบัน หรือองค์กรนั้นๆ มากแค่ไหน

พ่อของฟ้า’ นำพาตั้งคำถามบทบาท ‘ทหาร’

ความจริงมีนักการเมืองหน้าตาดีทั้งชายและหญิงเข้ามา ก็อาจจะทำให้คนสนใจการเมืองมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างคุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จากพรรคอนาคตใหม่ ที่มีคนไปฟังปราศรัย และกลายมาเป็น ‘พ่อของฟ้า’ ทั้งหลาย ทำให้ได้รับข้อมูลการเข้ามามีบทบาทของกองทัพ จนทำให้ได้ฉุกคิดและตั้งคำถามได้บ้าง

หรือมาดามเดียร์ ของพรรคพลังประชารัฐ ก็อาจจะทำให้มีคนตั้งคำถามว่า การที่มาดามเดียร์พูดถึง ส.ว.250 เสียง จริงๆ แล้วมันเป็นประชาธิปไตยอย่างไร หรือจะเป็นคุณภาดาท์ วรกานนท์ จากพรรคเดียวกัน ที่สนับสนุนเรื่องสิ่งแวดล้อม แต่กลับอยู่กับพรรคที่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ ทั้งที่ในสมัยของพล.อ.ประยุทธ์ มีการผ่านพ.ร.บ.โรงงานที่ไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเลย มันจึงขัดแย้งกัน การดูแลและการตรวจสอบด้านสิ่งแวดล้อม ความจริงมันควรมีการบริหารที่โปร่งใส แต่ ‘รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์’ กลับไม่มีความโปร่งใสให้สัมผัสได้เลย ทั้งการใช้อำนาจ ม.44 ซึ่งมันทำให้คนฉุกคิดอะไรได้บ้างเหมือนกัน การที่มีนักการเมืองหน้าตาดี จึงเป็นอะไรที่น่าขอบคุณได้

กติกาแปลกประหลาด

การที่มีผู้สมัครส.ส. จากหลากหลายอาชีพ ผมคิดว่าเขาเหล่านี้ก็มีสิทธิที่จะเข้ามา เพราะสุดท้ายแล้วประชาชนจะเป็นคนตัดสินเอง แต่อยากจะสะท้อนปัญหาของการเลือกตั้งครั้งนี้ ที่ถูกบังคับให้เลือกได้แค่พรรคเท่านั้น โดยไม่เกี่ยวกับตัวส.ส. ซึ่งเราก็ทราบกันอยู่ว่ามันเป็นการเขียนกฎกติกาที่แปลกประหลาดมาก

โดยกลุ่มคนร่างกฎหมายก็ไม่ได้เป็นตัวแทนของประชาชน !!

เมื่อ ‘ฟ้า’ ถูกด่าว่า ดัดจริต!

ผมมองว่าคนที่ด่า คือ ‘คนดัดจริต’ ที่เป็นการดูถูกทัศนคติและสติปัญญาของประชาชน ส่วนประเด็นคนที่อยู่ในคลิป #ฟ้ารักพ่อ เป็นเพศที่สาม และคนที่ด่าว่า ‘ดัดจริต’ เป็นเพศที่สามด้วย ก็คิดว่าเป็นอะไรที่ย้อนแย้งมาก

“ ความจริงก็เป็นสิทธิของเขาที่จะรัก จะชอบใคร มันทำให้ดูคล้ายๆ กับการพยายามบังคับให้ ‘เราต้องรักใครสักคน’ หรืออะไรสักอย่าง หากใครไม่รักตามที่บอก ก็แทบจะฆ่ากันตาย และมองว่าเป็นสิ่งที่ผิดมาก”

แบบนี้มันสองมาตรฐานหรือเปล่า คือทุกคนน่าจะมีสิทธิตัดสินใจเอง

คุณจะบอกว่าเป็นผู้ใหญ่เลยรู้มากกว่าเด็ก ผมว่ามันไม่ใช่ ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ตอนนี้ประเทศคงพัฒนาไปไกลแล้ว…

หลายคนจะชอบบอกว่า ‘จอห์น วิญญู’ ชอบยุแยงเรื่องการเมืองบ่อย

แต่จะให้ทำอย่างไรเพราะ ‘การเมือง’ เกี่ยวข้องกับทุกอย่าง ทั้งการศึกษา นโยบายภาครัฐ งบประมาณประเทศ การต่างประเทศ หรือเรื่องของการตรวจสอบมาตรฐานต่างๆ ของประเทศ

การเมืองที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง จึงเป็น ‘กับดัก’ ดึงถ่วงประเทศไทย

วงจรสกัดกั้นคนไทย ‘สัมผัส’ ประชาธิปไตย

ในปัจจุบันเป็นยุคที่ทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้ การจะเข้ามาควบคุม หรือปิดกั้น จึงเป็นสิ่งทำที่ยากมาก เปรียบเทียบกับสมัยก่อนที่มีช่องโทรทัศน์เพียงไม่กี่ช่อง สามารถหยุดช่องทางการรับรู้ของประชาชนได้ง่ายดาย

การปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย จึงเหมาะสมกับยุคนี้มากที่สุด ในขณะที่หลายประเทศได้เตรียมการให้ประชาชนได้เรียนรู้เรื่องของประชาธิปไตยมานานแล้ว แต่ประเทศไทยพอจะเริ่มเข้าสู่ประชาธิปไตย ก็จะเกิด ‘รัฐประหาร’ พอจะเริ่มเลือกตั้ง ก็ยึดอำนาจอีก พอเลือกตั้งได้ไม่นาน ก็ยึดอำนาจอีก ทำให้คนในประเทศไม่สามารถเรียนรู้เรื่องของประชาธิปไตยได้

ทั้งที่คนรุ่นใหม่พร้อมมากที่จะเรียนรู้เรื่องนี้ เพราะเข้าใจอย่างชัดเจนว่า การใช้ข่าวสาร การเข้าถึงโซเชี่ยลมีเดีย การใช้เทคโนโลยี และความเท่าเทียมกันมันเป็นอย่างไร

แต่คนรุ่นก่อนจำนวนเยอะมากที่ไม่เปิดรับจุดนี้ และคุ้นชินกับวิธีการแบบเดิมๆ ที่จะให้กลุ่มคนสักกลุ่มหนึ่งมาช่วยดูแลบริหารจัดการทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ทุกวันนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว

เป็นแค่ ‘ซากอารยธรรมเดิม’ ที่พยายามตั้งตระหง่านในบรรยากาศใหม่

การจะสื่อสารกับใครสักคนเป็นเรื่องที่ง่ายมาก หลายครั้งที่ตนแท็กไปหาพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเขาก็ไม่เคยตอบ (หัวเราะแบบน้อยใจ) อาจจะเป็นเพราะเขาเป็นผู้นำที่มาจาก ‘ซากอารยธรรมเดิม’

องค์กรแบบทหารของไทย คือ องค์กรที่ไม่ต้องฟังใคร มีความรู้สึกว่าตัวเองอยู่เหนือคนอื่น เหมือนกับที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ออกมาพูดว่า พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. เป็นเจ้าของกองทัพบก จึงมีสิทธิที่จะฟ้อง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส

ซึ่งก็สงสัยว่า ใครเป็นเจ้าของ ?

เพราะเงินเดือน และงบซื้ออาวุธ ทั้งหมดมาจากภาษีประชาชน นั่นแปลว่าทัศนคติของพวกเขามองว่า ตัวเองเป็นเจ้าของ มันจึงดูแปลกๆ ที่พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่ฟังใคร ไม่คิดจะดีเบต หรือไม่คิดจะตอบคำถามประชาชน

แต่นักการเมืองต้องพึ่งพาประชาชน หากนักการเมืองโกงหรือทุจริต ประชาชนก็จะวิพากษ์วิจารณ์ และไล่คนโกงออกไปเองได้ แต่เศษซากอารยธรรมเก่าๆ เหล่านี้ ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงสักที และยังคงใช้วัฒนธรรมและวิธีการเดิมๆ ในยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไปแล้ว

คนรุ่นใหม่น่ากลัว – คนรุ่นเก่าไม่สันทัด

ผมว่าคนรุ่นเก่ากลัวการควบคุมคนรุ่นใหม่ไม่ได้ เหตุการณ์ตอนที่ผมถูกคสช. เรียกไปตักเตือน มันสะท้อนให้เห็นว่า พวกเขาเกิดความตระหนก จากการทำรายการเจาะข่าวตื้น ในเทปที่เกี่ยวกับนักศึกษาที่ถูกจับขึ้นศาลทหาร ซึ่งผมนำไปโยงถึงเรื่องในอดีต ที่นักศึกษาออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย เพราะวิจารณ์ว่า การจับพวกเขาขึ้นศาลทหารเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

แม้จะพยายามบอกว่าเป็นห้วงของกฎอัยการศึก หรืออยู่ภายใต้การปกครองของคสช. แต่การเข้ามาของคสช. ก็ผิดตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว จึงไม่มีสิทธิมาใช้อำนาจแบบนี้กับประชาชน เมื่อเรื่องราวการใช้อำนาจโดยมิชอบของคสช. ถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ ก็กลายเป็นคลื่นข้อมูลมหาศาลที่ไร้การควบคุม ตรงกันข้ามผู้มีอำนาจที่ไม่สันทัดเรื่องเทคโนโลยี พวกเขาจึงเกิดความกลัว

ยุคตื่นรู้…

ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ผมคิดว่าเป็นเวลาที่คนรุ่นใหม่ตื่นตัวเรื่องการเมืองมากที่สุด

เห็นได้จากประเด็นที่พูดคุยกันในทวิตเตอร์ หรือสื่อออนไลน์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ฟ้ารักพ่อ ส.ว. 250 เสียง การดีเบต หรือเพลงหนักแผ่นดิน

ผมเชื่อว่า การรัฐประหารครั้งนี้ จะไม่เหมือนการรัฐประหารเหมือนครั้งที่ผ่านๆ มา เพราะอยู่ในอำนาจนานกว่า อาจจะเป็นการก้าวพลาดของทหาร ที่อยู่นานเกินไป จนหมดบทบาทของพระเอก และที่ผ่านมาก็เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่า ทหารบริหารประเทศไม่ได้

สุดท้ายประชาชนส่วนใหญ่ก็ได้รับผลกระทบ มีเพียงไม่กี่กลุ่มเท่านั้นที่ได้รับประโยชน์ เราก็เห็นอยู่ว่าความเหลื่อมล้ำมันพุ่งสูงขึ้นมากแค่ไหน มีกลุ่มทุนไม่กี่กลุ่มที่รวยขึ้นหลายเท่า ในขณะที่ตัวเลขคนรายได้ต่ำก็พุ่งขึ้น หรือแม้กระทั่งกลุ่มเอสเอ็มอี หรือชนชั้นกลาง ก็ลดน้อยลงไปอีก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อฐานอำนาจของรัฐบาลชุดนี้ และประชาชนจะตัดสินใจเองว่าจะเลือกกำหนดอนาคตประเทศแบบไหน คนเริ่มที่จะบ่น และโวยวายกันมากขึ้น

หากอยากอยู่ในอำนาจต่ออีก 4 ปี หรือ 5 ปี ก็ลองดูว่าจะทนได้ไหม

ออกกฎหมาย ไร้การยึดโยงกับประชาชน

การออกกฎหมายของ สนช. ตลอดมาเป็นสิ่งที่ปราศจากการฟังเสียงของประชาชน และช่วงนี้ก็ยิ่งเร่งผ่านกันยกใหญ่ ดูแล้วก็เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ ร่างพ.ร.บ.ไซเบอร์ ก็ไม่ต่างจากพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ แต่มีความน่ากลัวมากขึ้น ในส่วนที่ให้อำนาจแก่เจ้าหน้าที่รัฐ ใช้ ‘ดุลยพินิจ’ ได้มากเหลือเกิน ซึ่งก็ไม่ทราบว่า คนไทยจะมั่นใจในตัวเจ้าหน้าที่เหล่านี้ได้มากเท่าไร จะบอกว่าเป็นเรื่องที่น่าเศร้า ก็น่าเศร้า เพราะการอยู่ในอำนาจมา 5 ปี แล้วยังออกกฎหมายแบบนี้อีก ก็เป็นอะไรที่ไร้ยางอายมากพอแล้ว ซึ่งประชาชนก็คงต้องสู้กันตามกติกาที่เขาเขียนมา แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะมีการล้มกระดานอีกหรือไม่

ไม่ได้รู้สึกสนุกเหมือนอยู่ในรายการ

ที่เห็นจัดรายการดูสนุกสนาน ความจริงมันไม่ใช่แบบนั้นเลย เพราะเมื่อกล้องปิดไป มันก็แทบจะมีแต่ความสิ้นหวัง

ยิ่งตอนนี้มีลูก ก็ยิ่งรู้สึกกังวล ว่าลูกเราจะโตมาในสังคมแบบไหน ยอมรับว่ากรุงเทพฯ ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเมืองหลวงของประเทศอื่นๆ

ก่อนหน้านี้อาจจะภูมิใจกับการยกตัวเองว่าเป็นประเทศที่พัฒนากว่าหลายชาติ แต่ปัจจุบันพวกเขาก็แซงหน้าเราไปหมดแล้ว ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่กำลังพัฒนา แต่ก็ยังมีคนที่ติดอันดับมหาเศรษฐีของโลก ซึ่งมันเป็นเรื่องที่น่าเศร้า

เราก็พยายามบอกตัวเองตลอดว่า ประเทศไทยตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่ดี ไม่เจอภัยธรรมชาติ ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว แต่ไม่สงสัยหรือว่า ทำไมเรายังไม่พัฒนาไปไหน หลายคนพยายามบอกว่า ประเทศเราพัฒนา เพราะมีห้างเยอะมาก รถไฟฟ้าก็มีหลายสาย รถยนต์ก็มีขับกัน ซึ่งก็กลายเป็นเมืองที่มีการจราจรติดขัดเป็นอันดับต้นๆ ของโลก แต่ก็ต้องยอมรับว่าตามต่างจังหวัดนั้นส่วนใหญ่ไม่ได้รับการพัฒนาเลย หลายคนต้องดิ้นรนเข้ามาเรียนในเมืองหลวง เพราะอยากจะได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ กระทั่งเวลาคนป่วยยังต้องหาเส้นสายเข้ามารักษาตัวในโรงพยาบาลใหญ่ๆ

จอห์น วิญญู ไม่รักประเทศ ?

หลายคนก็โจมตีว่าทำไมเอาแต่ด่าประเทศตัวเอง ไม่รักประเทศหรอ ซึ่งก็อยากจะถามกลับว่า พอใจกับการพัฒนาไปได้แค่นี้หรอ เราก็อยากจะให้ลูกเรามีชีวิตเติบโตในสังคมที่ดี ทุกวันนี้เรายังถกเถียงกันอยู่เลยว่าจะคงนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคไว้ไหม หรือประเด็นการตัดงบกองทัพ ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องก็ดิ้นทุรนทุรายจะเป็นจะตาย ทั้งที่การรบครั้งสุดท้ายของกองทัพไทย ยังพ่ายแพ้ราบคาบ แต่ละปีได้งบมหาศาล จำนวนนายพลก็มีเยอะมาก

ความจริงมันควรจะถูกหยิบยกมาพูดให้มากขึ้น เพราะที่ผ่านมาคนไม่รู้ข้อเท็จจริง และเป็นเรื่องที่ไม่กล้ายกขึ้นมาถกเถียงเท่าไร แต่พอถูกสาวออกมาพูด ก็พบว่ามันมีอะไรให้ต้องพูดกันเยอะมาก


สุนันทา บวบมี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน