“เบนซ์ เรซซิ่ง” เข้าพบตร.รับทราบ 2 ข้อหาฟอกเงิน เชื่อมโยงแก๊งไซซะนะ เจ้าพ่อยาเสพติด เจ้าตัวขอให้การชั้นศาล ยื่น 5 แสนบาท ศาลอนุญาตให้ประกันตัว แต่ห้ามออกนอกประเทศ ด้านตร.เตรียมตรวจสอบเส้นทางการเงิน “แพท-นปภา” ภรรยาเบนซ์ด้วย ขณะที่แพทยืนยันพร้อมให้สอบบัญชี ยินดีให้ความร่วมมือทุกอย่าง ไม่กังวล เชื่อว่าสุดท้ายทุกอย่างจะผ่านไป เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ แถลงจับกัญชาอีกล็อตใหญ่ 500 ก.ก. แก๊งไซซะนะ ได้ผู้ต้องหา 5 คน
เมื่อเวลา 09.15 น. วันที่ 6 มี.ค. ที่กองบัญชา ตำรวจปราบปรามยาเสพติด นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือเบนซ์ เรซซิ่ง นักแข่งรถจักรยานยนต์ และสามี แพท ณปภา ตันตระกูล นักแสดงและพิธีกรสาวชื่อดัง พร้อมด้วยนายสิทธิโชค ตรีเนตร ทนายความ เข้าพบพนักงานสอบสวน บช.ปส. เพื่อรับทราบ ข้อกล่าวหาสมคบคิดและสมคบการฟอกเงิน โดยสืบเนื่องจากการครอบครองรถลัมโบร์กินี รถหรู และรถจักรยานยนต์บิ๊กไบก์ของเบนซ์ที่เกี่ยวโยงกับเครือข่ายนายไซซะนะ แก้วพิมพา พ่อค้ายาเสพติดชาวลาวและพรรคพวก
ต่อมาเวลา 10.25 น. นายอัครกิตติ์ และนายสิทธิโชค ออกจากห้องสอบสวน โดยนายสิทธิโชค ทนายความกล่าวว่ายืนยันว่าให้การครบทุก ประเด็นแล้ว ทั้ง 60 ประเด็น รวมทั้งแสดงเอกสารรายละเอียดต่างๆ หมดแล้ว หากต้องการ อะไรเพิ่มเติมจะมายื่นภายหลัง วันนี้จึงไม่ได้ให้การเพิ่มเติมในประเด็นใดๆ เพราะมั่นใจว่าให้การไปหมดแล้ว และมั่นใจในความบริสุทธิ์ หลังจากนี้จะเตรียมให้การในชั้นศาลต่อไป
ส่วนนายอัครกิตติ์กล่าวว่า ขอให้การในชั้นศาล ก่อนขึ้นรถตัวเองไปพร้อมกับพนักงาน สอบสวน เดินทางไปยื่นคำร้องฝากขังที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก
ด้าน พล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. กล่าวว่าแจ้งข้อหานายอัครกิตติ์ 2 ข้อหา สมคบและสมคบการฟอกเงิน เจ้าหน้าที่มีข้อมูลหลักฐาน และความเชื่อมโยงทางการเงินของนายอัครกิตติ์ กับเครือข่ายนายไซซะนะ พร้อมคัดค้านการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน และจะต้องตรวจสอบเส้นทางการเงินทุกเส้นทาของนายอัครกิตติ์ รวมทั้งต้องตรวจสอบไปถึงแพท ณปภา ภรรยาด้วย
จากนั้นเวลา 11.20 น. ร.ต.ท.ธนยศ บวรเดช ธนากูล พนักงานสอบสวน บช.ปส. นำตัวนายอัครกิตติ์มายื่นคำร้องฝากขังผัดแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 6-17 มี.ค. เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบสวนพยานสำคัญอีก 20 ปาก รอผลตรวจประวัติต้องโทษของผู้ต้องหา และรวบรวมพยานหลักฐานประกอบสำนวน พนักงานสอบสวนขอคัดค้านการให้ประกันตัวผู้ต้องหาด้วยจนกว่าคดีจะถึง ที่สุด เนื่องจากกระทำผิดลักษณะเป็นเครือข่าย หากได้รับการปล่อยชั่วคราว เกรงว่าผู้ต้องหาจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
ต่อมานายสิทธิโชค ทนายความ ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นบัญชีเงินฝากประจำธนาคารออมสิน มูลค่า 500,000 บาท ขอปล่อย ชั่วคราวนายอัครกิตติ์ ผู้ต้องหา พร้อมทั้งตอบข้อซักถามถึงกรณีนายอัครกิตติ์มีเงินหมุนเวียนกว่า 100 ล้านบาท ว่าไม่ขอยืนยันตัวเลข และมอบหลักฐานให้ตำรวจไปหมดแล้วว่า นายอัครกิตติ์ทำธุรกิจหลายอย่าง นอกจากร้านจำหน่ายรถจักรยานยนต์บิ๊กไบก์ ย่านอินทามระ กทม. แล้วยังรับเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าต่างๆ ด้วย
เวลา 15.20 น. ศาลพิเคราะห์คำร้องและหลักทรัพย์ แล้วมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ผู้ต้องหา ตีราคาประกัน 500,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล
นายอัครกิตติ์กล่าวว่าขอบคุณศาลที่ให้ความเมตตา ขอบคุณที่ศาลไม่ได้ออกหมายจับ ให้โอกาสมารับทราบข้อกล่าวหาด้วยตนเอง และเข้าสู่กระบวนยุติธรรมได้อย่างเต็มที่ ตลอดเวลาให้ความร่วมมือตำรวจ ปส. เป็นอย่างดี หลังจากนี้หากเจ้าหน้าที่ต้องการข้อมูลใดเพิ่มเติมก็ติดต่อเข้ามาได้ตลอด ยืนยันให้ความร่วมมือ และจะต้องมารายงานตัวต่อศาลระหว่างการฝากขังในวันที่ 24 เม.ย.
ด้านแพท ณปภา ภรรยานายอัครกิตติ์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่าทราบเรื่องแล้ว แต่ยังไม่ได้คุยกับพี่เบนซ์ ส่วนตัวไม่ได้เครียด ส่วนกรณีที่ตำรวจจะตรวจสอบเส้นทางการเงินของตนนั้น ก็เป็นไปตามปกติ ยินดีให้ความ ร่วมมือทุกอย่าง เพราะบริสุทธิ์ใจ เจ้าหน้าที่ก็ทำ ไปตามหน้าที่ ต้องตรวจสอบทุกคนที่อยู่รอบตัวพี่เบนซ์ ครอบครัว ภรรยา เพื่อน รวมถึง ร้านพี่เบนซ์ อย่างที่บอกว่าไม่ได้มีความกังวล ตอนนี้ก็แค่รอเจ้าหน้าที่เรียก เชื่อว่าสุดท้ายทุกอย่างจะผ่านไป เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด
ขณะเดียวกัน ที่บช.ปส. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. ร่วมแถลงจับกุมผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือลงไปยังภาคใต้ ได้ผู้ต้องหา 5 คน คือนายวัชรพล นาคเสน อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 หมู่ 2 ต.รัตนวาปี อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย, นายคมสัน ไชยโสม อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62 หมู่ 3 ต.จุมพล อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย, นางไพรวรรณ อรกุล อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 205 หมู่ 11 ต.กุดบง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย, นายพุดสา ไชวงสา อายุ 39 ปี อยู่บ้านพะบาดโพนสัน เมืองท่าพะบาด แขวงบอลิคำไซ ประเทศลาว และนางหวายคำ สุวันทอง อายุ 27 ปี อยู่บ้านเงินแคน แขวงนครหลวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว
พร้อมของกลางกัญชาแห้งอัดแท่ง 500 แท่ง รวมน้ำหนัก 500 ก.ก. รถกระบะยี่ห้อ อีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีดำ ทะเบียน ษต 879 กทม., รถกระบะยี่ห้อมาสด้า รุ่นบีที 50 สีขาว ทะเบียน ป้ายแดง ก 0139 หนองคาย, รถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไฮลักซ์วีโก้ สีขาว ทะเบียน กย 6694 อุดรธานี และโทรศัพท์มือถือ 12 เครื่อง
พล.ต.ท.สมหมายกล่าวว่ากลุ่มผู้ต้องหา ค้ายาเสพติด และเป้าหมายรายสำคัญอยู่ในเครือข่ายนายไซซะนะ โดยลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน ใช้รถกระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นสีแมคซ์ สีดำ ลำเลียงยาเสพติด รถกระบะยี่ห้อมาสด้า รุ่นบีที 50 สีขาว เป็นรถนำและสำรวจเส้นทาง รถกระบะยี่ห้อโตโยต้า สีขาว เป็นรถนำและสำรวจเส้นทาง เดินทางจาก พื้นที่ตามแนวชายแดนริมแม่น้ำโขง อ.สังคม จ.หนองคาย เข้ามายังพื้นที่ตอนในของประเทศ มุ่งหน้า 3 จังหวัดชายแดน ภาคใต้ โดยใช้ เส้นทางรองหลบเลี่ยงด่านตรวจยาเสพติดที่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ออกไป จ.ชัยภูมิ และจ.ลพบุรี เจ้าหน้าที่สะกดรอยติดตามมาจนถึง ต.หนองบัว อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี จึงส่งสัญญาณให้หยุดรถและตรวจค้นรถทั้ง 3 คัน พบกัญชาแห้งอัดแท่ง 500 แท่ง
ผบช.ปส.กล่าวว่า สอบสวนผู้ต้องหาให้การ รับสารภาพว่ากัญชาล็อตนี้เป็นกัญชาอย่างดี มีสารกันชื้น อยู่ในถุงสุญญากาศ และมีอยู่ 1 แท่ง เขียนว่า พีเอ็กซ์ อยู่บนหีบห่อ มีน้ำหนัก 900 กรัม มีมูลค่าสูงถึง 100,000 บาท ราคาสูงกว่ากัญชาแท่งอื่น เพราะกัญชาแท่งนี้มีแต่ใบ และจะนำป่นเป็นผง ผู้ต้องหาบอกอีกว่ากัญชาแท่งนี้ในต่างประเทศนำไปรักษาโรคมะเร็งได้ โดยต้องเอาไปผสมร่วมกันเอทิล แอลกอฮอล์ เพื่อสกัดเอายางออกมา และนำมาผสมกัน มีผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์มาแล้วในต่างประเทศ แต่สำหรับประเทศไทยผิดกฎหมาย
