พี่สาวปล่อยโฮเผยอาการ น้ำตาล ห่วงเป็นเจ้าหญิงนิทรา ชี้เคสหายาก มึนเหตุโคม่า

จากกรณี น.ส.บุตรศรัณย์ ทองชิว หรือ น้ำตาล เดอะสตาร์ 5 เกิดอาการป่วยหนักอย่างกะทันหัน โดยมีเลือดไหลออกทางปาก จมูก และหายใจไม่สะดวก จนต้องทำการปั๊มหัวใจที่บ้าน ก่อนที่ญาติจะเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลสมุทรสาคร โดยเบื้องต้นอาการยังอยู่ในขั้นวิกฤต และครอบครัวได้ส่งมารักษาต่อที่ รพ.ศิริราชแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. ที่ รพ.ศิริราช น.ส.พิมพ์ลดา ทองชิว อายุ 31 ปี หรือ น้ำผึ้ง ได้เปิดเผยอาการของน้องสาวว่า ขณะนี้ครอบครัวยังไม่ได้ผลการวินิจฉัยที่แน่ชัด จึงยังสามารถเปิดเผยได้เพียงอาการที่เกิดขึ้นในช่วงก่อนจะนำส่ง รพ.ศิริราช ซึ่ง นพ.ปรัญญา สากิยลักษณ์ ซึ่งเชี่ยวชาญโรคปอดและหัวใจ ได้อนุเคราะห์รับเป็นผู้ป่วยและระบุว่า เป็นเคสที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ ซึ่งอาการที่เกิดเบื้องต้นคาดว่าจะเกิดจากระบบปอดและหัวใจ ซึ่งอาการขณะนี้ถือว่า โคม่า โดยอาการทรงตัวไม่ทรุดลง หรือ ดีขึ้นกว่าเดิม แพทย์ได้ใส่เครื่องช่วยหายใจ และผ่าตัดใส่เครื่องช่วยการทำงานของปอด และหัวใจ เพื่อให้ความเสี่ยงในการเคลื่อนย้ายลดลง

น.ส.พิมพ์ลดา กล่าวว่า ขณะนี้ก็ยังวิเคราะห์ไม่ออกเลยว่าเกิดจากอะไร น้องปกติดี ก่อนเกิดอาการก็กินข้าวตามปกติอยู่กับแม่ แต่อยู่ๆ ก็เกิดอาการเลือดกำเดาไหลไม่หยุดและหมดสติไป ซึ่งเด็กๆ น้องจะเป็นคนเลือดกำเดาไหลบ่อย แต่จะไม่เหมือนคนอื่น ที่เงยหน้าก็หยุด โดยเลือดจะออกมาเป็นฟองๆ แต่โรคประจำตัวอื่นก็ไม่มี ซึ่งเลือดที่ออกมาจำนวนมากนั้น หมอพบว่า น่าจะออกมาจากปอด ส่วนหนึ่งอาจจะเกิดจากการปั๊มหัวใจด้วย โดยต้องเจาะปอดเอาไว้ข้างหนึ่ง

“สิ่งที่ห่วนตอนนี้ คือ ถ้าน้องฟื้น ไม่รู้ว่าจะปกติแค่ไหน เพราะขาดออกซิเจนไปสองครั้ง ตอนนี้แพทย์เองก็เป็นห่วงที่สุดเรื่องของสมอง กลัวว่าน้องจะนอนนิ่งเป็นเจ้าหญิงนิทรา หรือ ตื่นมาไม่เหมือนเดิม เนืื่องจากสมองขาดออกซิเจน ก่อนหน้าแข็งแรงมาตลอด ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะอะไร ครอบครัวยังคงมีความหวังอย่างมาก ตอนนี้รอและหวังว่าจะต้องดีขึ้น เพราะทุกคนทำสุดความสามารถแล้ว เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้สำหรับน้องแล้ว”น้ำผึ้ง กล่าว

น.ส.พิมพ์ลดา กล่าวว่า ช่วงก่อนหน้าน้ำตาล เสียเลือดไปเยอะมาก ก่อนส่งตัวหมอต้องดูอาการเป็นนาทีต่อนาที และรักษาตามอาการ ซึ่งยังต้องให้เลือดอยู่แต่ใช้ลดลง ส่วนนที่ต้องรอจนข้ามวันจึงย้ายโรงพยาบาล เพราะหมอไม่แนะนำให้เคลื่อนย้ายเนื่องจากมีความเสี่ยงสูง โดยมีแพทย์จากศิริราช เดินทางไปผ่าตัดใส่เครื่องช่วยการทำงานหัวใจและปอด ความเสี่ยงจึงลดลงและสามารถย้ายโรงพยาบาลได้

“ต้องขอบคุณทุกคนที่ช่วยกัน ไม่ว่าจะเป็นที่บริษัท เพื่อนๆ เดอะสตาร์ สื่อ หลายๆ คนก็ช่วยกัน ถ้าน้องตื่นมาคงดีใจว่ามีคนที่รักเขาจำนวนมาก ตอนนี้ทำได้แค่ให้พ่อแม่ใจเย็นๆ เราทำได้แค่มาอยู่ใกล้ๆ” พี่สาวกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน