ผุดไอเดีย จัดทำ”ไวต์ลิสต์”หรือ “บัญชีขาว” เพื่อปกป้องนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน ภาคประชาสังคม และกลุ่มองค์กรเครือข่ายภาคประชาชน จี้รัฐบาลและคสช. ประกาศสนับสนุนร่างพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหาย ที่ถูก สนช. ตีกลับ พร้อมเตรียมจัดงานรำลึกถึง “ชัยภูมิ ป่าแส” นักกิจกรรมชาวลาหู่ ที่ถูกทหารวิสามัญฆาตกรรม ที่ กทม. “ศรีสุวรรณ จรรยา” เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน สอบจริยธรรม พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 กดออโต้
เมื่อวันที่ 26 มี.ค. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า จากกรณี พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 แถลงข่าวและให้สัมภาษณ์ถึงคดีที่เจ้าหน้าที่ทหารวิสามัญฆาตกรรมนายชัยภูมิ ป่าแส นักเคลื่อนไหวชาติพันธุ์ชาวลาหู่ โดยระบุตอนหนึ่งว่า “ถ้าเป็นผมกดออโต้ไปแล้ว” เป็นการก้าวล่วงกระบวนการยุติธรรมและขัดต่อระเบียบกระทรวงกลาโหม ว่าด้วยประมวลจริยธรรม 2551 ถือว่าเป็นความผิดทางวินัยทหารโดยชัดแจ้ง เนื่องจากเรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งให้ตั้งกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวแล้ว ตนจึงขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินสอบจริยธรรมของแม่ทัพภาค 3 ด้วย
นายศรีสุวรรณกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีกรณีที่นายวีระ สมความคิด เปิดเผยว่ามีการก่อสร้างและตั้งบ่อนกาสิโนขึ้นในบริเวณพื้นที่ทับซ้อนของประเทศไทย-กัมพูชา บริเวณจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู จ.บุรีรัมย์ ซึ่งทับซ้อนอยู่ในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติตาพระยา ทั้งสองกรณีเป็นเรื่องที่เคลือบแคลงสงสัยของสังคมไทย ดังนั้น ในวันที่ 27 มี.ค.นี้ เวลา 10.00 น. ตนจึงจะเดินทางไปร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ชั้น 9 ห้อง 903 ศูนย์ราชการฯ อาคารบี เพื่อให้ตรวจสอบและเอาผิดต่อผู้ที่เกี่ยวข้องทั้ง 2 กรณีต่อไป
ด้านนายสุรพงษ์ กองจันทึก ประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรม กล่าวว่า เครือข่ายองค์กรที่เคยทำงานร่วมกับนายชัยภูมิ ป่าแส ทั้งเครือข่ายเด็ก ชุมชน ประชาชน สิทธิมนุษยชน และกลุ่มศิลปิน จะจัดงานรำลึกถึงนายชัยภูมิ ที่กรุงเทพฯ โดยกำลังคุยกันอยู่ว่าจะจัดงานเมื่อใด ทั้งนี้ เนื้อหาหลักๆ ที่จะเป็นลักษณะการให้ความรู้เรื่องสิทธิมนุษยชน และกระตุ้นให้สังคมหันมาให้ความสนใจ และให้ความสำคัญกับนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน และนักต่อสู้เพื่อชาติพันธุ์ และเพื่อให้สังคมได้รับรู้ถึงสิ่งที่นายชัยภูมิได้ทำเพื่อพี่น้องชาติพันธุ์ โดยอาจจะจัดงานร่วมกับงานครบรอบ 3 ปี การหายตัวไปของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งนักต่อสู้เพื่อชาติพันธุ์ที่ ถูกกระทำความรุนแรง ด้วยการอุ้มหาย
ประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรมกล่าวต่อว่า เป็นเรื่องน่ากังวลใจอย่างมาก เมื่อนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนถูกกระทำมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในเรื่องของนายชัยภูมิถือเป็นความจำเป็นที่รัฐต้องเร่งทำเรื่องนี้ให้กระจ่าง และตั้งคณะกรรมการกลางขึ้นมาตรวจสอบ โดยมีนักวิชาการ องค์กรภาคประชาสังคม กลุ่มชาติพันธุ์ และนักสันติวิธี เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะที่ผ่านมามีแต่การตั้งกรรมการสอบแต่เฉพาะในหน่วยงานภาครัฐ อีกทั้งผู้บังคับบัญชาของทหารที่ก่อเหตุออกมาปกป้องผู้ก่อเหตุโดยที่ยังไม่รู้ข้อเท็จจริงของเรื่องนี้เป็นอย่างไร
“ขณะนี้ภาคประชาสังคม และกลุ่มองค์กรเครือข่ายภาคประชาชนกำลังมีความคิดให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม จัดทำรายชื่อไวต์ลิสต์ขึ้นมา เพื่อให้รัฐร่วมปกป้องนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน จะปล่อยให้ถูกรังแกเหมือนที่ผ่านมาไม่ได้เแล้ว พร้อมกันนี้รัฐบาลและคสช.ต้องประกาศสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหาย เพราะที่ผ่านมา สนช.ตีกลับร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ ซึ่งการที่รัฐบาลสนับสนุนเรื่องนี้จะช่วยปกป้องเหยื่อเมื่อถูกกระทำ อย่างกรณีของนายชัยภูมิก็มีพยานเห็นว่าถูกซ้อมก่อนถูกยิงเสียชีวิต” นายสุรพงษ์กล่าว
ขณะที่นางเตือนใจ ดีเทศน์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ทำให้รับทราบข้อมูลจากชาวบ้านและเครือข่ายต่างๆ ว่านายชัยภูมิ ป่าแส เป็นคนที่ทำงานหนักเพื่อดูแลรับผิดชอบภาระของครอบครัวตั้งแต่เด็ก รวมทั้งยังทำกิจกรรมรณรงค์ให้เยาวชนห่างไกลยาเสพติดด้วย ซึ่งหลายคนที่ทำงานกับเครือข่ายเยาวชนชาติพันธุ์ต่างพาชื่นชมในความสามารถของนายชัยภูมิ ส่วนประเด็นที่สังคมสนใจว่าทำไมต้องวิสามัญฆาตกรรม มียาเสพติดจริงหรือไม่หรือมีระเบิดจริงหรือไม่ ซึ่งประเด็นระเบิดตนได้สอบถามชาวบ้านและผู้ใหญ่บ้านก็บอกว่าไม่เคยเห็นระเบิดแบบนี้ในพื้นที่เลย และไม่เชื่อว่านายชัยภูมิจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องของการขายยาเสพติด อย่างไรก็ตาม ในวันอังคารที่ 28 มี.ค.นี้ ทางกรรมการสิทธิฯจะมีการประชุม ตนจะนำข้อมูลทั้งหมดที่ได้รับ เสนอให้กับนายชาติชาย สุทธิกลม กรรมการกสม.ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการด้านสิทธิในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งได้รับมอบหมายจากที่ประชุมให้ดำเนินการตรวจสอบกรณีนี้ต่อไป
