เปิดรอบสื่อมวลชนแล้วงาน‘มอเตอร์โชว์ 2017’ ปีนี้ถือว่าคึกคักกว่าที่ผ่านๆมา เนื่องจากยอดขายรถยนต์ในประเทศ 2 เดือนแรกมาแรงมากๆ ทำให้บรรดาค่ายรถต่างๆ หมายมั่นปั้นมือว่าจะกวาดยอดจองในงานแบบถล่มทลาย

ด้วยมีหลายค่ายที่มาออกบูธทำให้‘ข่าวสด รถยนต์’แยกนำเสนอรถเด่นของแต่ละบูธ เริ่มจากค่ายแดนอาทิพย์อุทัยกันก่อน

ฮอนด้า – ตัวเด่นยกให้‘ซีอาร์-วี ใหม่’ รถยนต์เอสยูวีในระดับซีเซ็กเมนท์ ที่นอกจากจะมาพร้อมความหรูหราเหนือระดับ ยังเปิดทำตลาดด้วยเครื่องยนต์ 2 รุ่น คือ เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ ขนาด 1.6 ลิตร และเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.4 ลิตร แต่ไฮไลท์สำคัญน่าจะอยู่ที่การเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยของเครื่องยนต์ดีเซลจากฮอนด้า

เครื่องยนต์ i-DTEC DIESEL TURBO ขนาด 1.6 ลิตร เพิ่มประสิทธิภาพด้วยระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบชาร์จพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ปรับตั้งแรงบูสต์ของเทอร์โบไว้ที่ 2 บาร์ หรือ 29.4 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว ให้กำลังสูงสุด 160 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร หรือ 35.66 กก.-ม. ที่ 2,000 รอบต่อนาที ผ่านมาตรฐานไอเสีย EURO 5

มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด แบบ Shift By Wire ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าผ่านการกดปุ่ม P R N D ซึ่งไม่มีคันเกียร์โผล่เด่นขึ้นมาให้เห็นอีกต่อไป เพิ่มความทันสมัยให้กับตัวรถมากยิ่งขึ้น แต่ในรุ่นเครื่องยนต์ เบนซิน 2.4 ลิตร ยังเป็นคันเกียร์อัตโนมัติตามปกติ

สรรถนะการขับขี่ ครั้งแรกับระบบ Agile Handling Assist หรือ AHA เพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ รวมถึงระบบช่วยควบคุมการบังคับพวงมาลัย (Motion-Adaptive Electric Power Steering-MA-EPS ) ส่วนระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Real Time AWD ปรับปรุงระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ E-DPS ควบคุมการส่งกำลังไปยังล้อหลังด้วยระบบไฟฟ้า อีกทั้งชุดขับเคลื่อน 4 ล้อ มีน้ำหนักเบาและมีแรงเสียดทานลดลง

ฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อม Kick Sensor ซึ่งจะติดตั้งใต้บริเวณกันชนท้าย เพียงถือรีโมทรถยนต์ไว้กับตัว ยืนเท้าหรือเตะเบา ๆ ไปบริเวณใต้กันชนท้าย ประตูก็จะเปิดออกอัตโนมัติ ทั้งยังมีระบบป้องกันการหนีบ และตั้งได้ด้วยว่าจะให้ประตูหลังเปิดกว้างได้ขนาดไหนอีกด้วย ชูจุดเด่นด้วยเบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง นับเป็นความน่าตกใจกับการลงมาทำตลาดรถกลุ่มนี้ด้วยจำนวนเบาะถึง 7 ที่นั่ง พร้อม แอร์บนเพดาน สำหรับแถว 2 และ 3 แบบปรับแยกอิสระ

‘ซีวิค แฮทช์แบ็ก’ มาพร้อมรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยวและหรูหราด้วยเส้นสายด้านข้างตัวรถที่คมชัด สปอร์ตและดุดันยิ่งขึ้นด้วยกระจังหน้า-หลังดีไซน์รังผึ้ง ไฟหน้าสไตล์สปอร์ตพร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายรูปทรงตัว C แบบ LED และโดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยรูปลักษณ์ด้านท้ายในสไตล์แฮทช์แบ็ก 5 ประตูที่ดูโฉบเฉี่ยวจนยากที่จะละสายตา

ขุมพลังเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร DOHC VTEC TURBO พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ใหม่ ที่พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม ให้กำลังสูงสุด 173 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที ด้วยแรงบิดสูงสุดที่ 220 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700 – 5,500 รอบต่อนาที ซึ่งให้กำลังเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร แต่มีอัตราการประหยัดน้ำมันเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร

ห้องโดยสารให้ความสะดวกสบาย และกว้างขวาง พื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านท้ายที่จุได้ถึง 414 ลิตร พนักพิงของเบาะหลังสามารถปรับพับแยกได้แบบ 60:40 ทั้งยังติดตั้งม่านปิดสัมภาระที่สามารถเลือกปิดเก็บได้ทั้งซ้ายหรือขวา เพื่อป้องกันการมองเห็นสัมภาระที่อยู่ด้านท้าย ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch ควบคุมฟังก์ชั่นความบันเทิง พร้อมระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย (Bluetooth) และช่องเชื่อมต่อ USB ที่รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay (เฉพาะสมาร์ทโฟนบางรุ่น) มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบดิจิตอล

‘อีซูซุ มิว-เอ็กซ์’ รุ่นปรับโฉม มาพร้อมนิยาม Signature of Privilege การออกแบบใหม่ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ปรับลุคให้สปอร์ตทันสมัย โดดเด่น เริ่มจากกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ แบบ Sport 3D รวมถึงไฟหน้าดีไซน์ใหม่ แบบ Bi-LED ปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติ พร้อมไฟ Daylight ที่อยู่ในโคมเดียวกัน โดดเด่นด้วยเส้นนำแสง LED Guiding Light กันชนหน้า-หลัง ดีไซน์ใหม่ เสริมลุคสปอร์ตด้วยไฟท้าย LED แบบ Sharp Horizon รวมถึงล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ 18 นิ้ว Cross Star และ Roof Spoiler รูปทรงใหม่ สีทูโทน

ห้องโดยสารมาพร้อมสีทูโทน Sandstone Beige ตัดด้วยสีดำเข้ม พร้อมการออกแบบภายในด้วยแนวคิด Universal Design เติมความสปอร์ตด้วยเบาะนั่งกึ่งหนังแท้ดีไซน์ใหม่ Sport Cut มาพร้อมผิวสัมผัสใหม่แบบ Soft Touch เพิ่มความนุ่มนวลให้กับแผงคอนโซลหน้า แผงข้างประตู และที่พักแขน เสริมความหรูด้วยลายไม้ Fine Walnut ที่แผงข้างประตู หัวเกียร์ และคอนโซลหน้า รวมถึงชุดแต่งสีดำ Piano Black บริเวณคอนโซลกลาง และแผงควบคุมกระจกไฟฟ้า

ระบบความบันเทิง iConnect มาพร้อม Built-in Navigator หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว พร้อมด้วย Air Mirroring รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายกับ Smartphone รวมถึงจุดเชื่อมต่อ USB รองรับทั้ง Smartphone เครื่องเล่น MP3 และ Flash Drive หน้าปัดดีไซน์ใหม่ เพิ่มความสปอร์ตด้วยขอบโครเมี่ยม พร้อมหน้าจอสีแสดงข้อมูลการขับขี่ Color Display MID

ขุมพลังมีให้เลือก 2 ขนาด ได้แก่ เครื่องยนต์ 1.9 ดีดีไอ ที่เน้นความประหยัดน้ำมัน และ เครื่องยนต์ 3.0 ดีดีไอ ที่เน้นความแรง ขับสนุก พร้อมด้วยเกียร์ 6 สปีด มีให้เลือกทั้งเกียร์อัตโนมัติ แบบ REV TRONIC และเกียร์ธรรมดา พร้อมระบบ Genius Sport Shift และ อีซูซุอินไซท์

‘มาสด้า เอ็มเอ็กซ์-5 อาร์เอฟ’ รถสปอร์ตโรดสเตอร์ ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีเปิดประทุนหลังคาแข็ง โดยคำว่า RF ย่อมาจากคำว่า Retractable Fastback มาพร้อมกับกลไกการทำงานที่ด้านบนหลังคาถอดได้และส่วนด้านหลังสามารถพับเก็บได้ ใช้การสั่งการผ่านปุ่มเพียงสัมผัสเดียวเปิด-ปิด ในเวลา 12 วินาที กับความเร็วไม่เกินที่ 10 กม./ชม. การทำงานส่วนหลังคาด้านหลังจะยกตัวขึ้น และหลังคาส่วนกลางจะพับเก็บลอดเข้าไป

ส่วนภายในนั้นมีดีไซน์ไม่แตกต่างไปจาก Mazda MX-5 Roadster โดยคันที่เปิดตัวหุ้มเบาะด้วยหนังนัปป้า (Nappa) สีน้ำตาล Auburn ที่ให้ผิวสัมผัสอ่อนนุ่ม รวมถึงพื้นที่ในห้องเก็บของท้ายรถก็จะมีขนาดเท่ารุ่นหลังคาผ้าใบแต่จะมีห้องโดยสารที่เงียบสงบด้วยเสียงรบกวนที่น้อยกว่าเมื่อปิดหลัง

มาสด้ายืนยันว่าได้ออกแบบกลไกการพับเก็บที่ทำให้แผงหลังคาสามารถจัดเก็บไว้ในพื้นที่จำกัดได้ ส่วนเนื้อที่จัดเก็บสัมภาระก็ยังคงมีความกว้างขวางเหมือนกับรุ่นซอฟต์ท็อป ตามหลักการแล้ว การออกแบบหลังคาสไตล์ทาร์กาช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวถัง แถมยังทำให้ตัวรถดูสวยงามแปลกตาดีทีเดียว


‘ซูบารุ ออล นิว อิมเพรสซา’
ทีซี ซูบารุ ประเทศไทย ซูบารุ สร้างเซอร์ไพรส์ให้แฟนคลับค่ายดาวลูกไก่ในเมืองไทย ด้วยการนำรถยนต์ที่ทั่วโลกต่างยอมรับในสมรรถนะ ‘ซูบารุ เดอะ ออล-นิว อิมเพรสซา(Subaru The All-New IMPREZA)’ รถยนต์รุ่นแรกที่ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้ ‘ซูบารุ โกลบอล แพลทฟอร์ม’ (Subaru Global Platform) เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเพื่อช่วยยกระดับมาตรฐานความสะดวกสบายในการขับขี่ ประสิทธิภาพ และความปลอดภัยของตัวรถ

มิติตัวถังดูอวบขึ้น ยาวขึ้น แต่เตี้ยลงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรีดอากาศได้ดียิ่งขึ้น พร้อมกับการออกแบบเส้นสายข้างรถที่ให้ความปราดเปรียวอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้ แพลตฟอร์มใหม่จะมีความแข็งแรงมากขึ้นถึง 70-100% รวมและสามารถลดการบิดตัวลง 50% ส่วนจากการออกแบบเสริมเหล็กกันโคลงหลังที่เชื่อมต่อกับตัวถังโดยตรงด้วย

ระบบขับเคลื่อนจะใช้เครื่องยนต์เบนซิน Boxer ขนาด 2.0 ลิตร สี่สูบนอน ที่เสริมระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบ Direct Injection จนสามารถรีดพลังได้สูงสุดถึง 152 แรงม้า ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ Linear CVT รุ่นใหม่ ที่สามารถปรับโหมดเป็น Manual Mode ได้มากถึง 7 สปีด ที่เสริมระบบ Paddle Shift สามารถเปลี่ยนเกียร์บนพวงมาลัยได้

ระบบช่วงล่าง Symmetrical All-Wheel Drive อันเป็นเอกลักษณ์ แต่ทว่าได้เพิ่มเทคโนโลยี Active Torque Vectoring (ATV) ที่สามารถแบ่งพลังขับเคลื่อนระหว่างล้อฝั่งซ้าย และ ล้อฝั่งขวา ด้วยจับเบรคในจังหวะที่มีการกดคันเร่ง ซึ่งทำงานทำงานร่วมกับระบบ Vehicle Dynamic Control (VDC) และ Traction Control (TRC)

‘นิสสัน โน๊ต ใหม่’ รถยนต์ที่จะเป็นดาวเด่นในบูธของนิสสัน คือ รถยนต์ นิสสัน โน๊ต ใหม่ คอมแพ็คแฮตช์แบค รุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อต้นปี 2017 และเริ่มส่งมอบเมื่อวันที่ 17 มีนาคม โดยมีให้เลือก 2 รุ่น 6 สี นิสสัน โน๊ต ใหม่ มีรูปลักษณ์สวยทันสมัย ห้องโดยสารกว้าง ประหยัดน้ำมัน รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ได้อย่างครบถ้วน อีกทั้งยังได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยล้ำสมัยเหนือกว่าและเป็นครั้งแรก

เพิ่มความมั่นใจให้ผู้ขับขี่ ทั้งกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง Intelligent Around View Monitor (AVM) ทำงานคู่กับระบบตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุและบุคคลที่เคลื่อนไหว Moving Object Detection (MOD) รวมถึงระบบช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ Intelligent Forward Collision Warning (FCW) ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ Intelligent Emergency Braking / Forward Emergency Braking (FEB) และระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง Lane Departure Warning (LDW)


‘นิสสัน นาวารา แบล็ค อิดิชัน’
ภายในงาน นิสสัน ได้เพิ่มความตื่นเต้นเร้าใจด้วยการจัดแสดง นิสสัน นาวารา แบล็ค อิดิชัน กระบะพันธุ์แกร่งด้วยรูปลักษณ์ใหม่ที่เหนือกว่าทั้งภายใน และภายนอก พร้อมเติมความโดดเด่นยิ่งขึ้นให้ลุคภายนอกด้วยชุดแต่งพิเศษดุดันรอบคัน จากกระจังหน้า ผ่านฝากระโปรงหน้า หลังคา สู่กันชนหลัง เสริมบุคลิกเฉพาะตัวที่ด้านข้างด้วยลวดลายกราฟิตี้ดีไซน์สีดำ แกร่งเข้มเฉพาะตัวเหนือล้ออัลลอยด์ขนาดใหญ่ 18 นิ้ว แต่งซุ้มล้อสีดำขนาดใหญ่

ภายใต้รูปลักษณ์ลูกผู้ชาย นิสสัน นาวารา แบล็ค อิดิชัน ยังพร้อมตอบสนองให้เจ้าของลุยไปทุกที่ ด้วยช่วงล่างที่ใช้แชสซีส์เหล็กกล้าชิ้นเดียวตลอดคัน เป็นจุดเด่นของรถปิคอัพนิสสัน ที่ผู้ใช้ทั่วโลกต่างยอมรับในความแข็งแกร่ง ทนทาน พร้อมฟังก์ชั่นควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control ให้เป็นออพชั่นมาตรฐานของนิสสัน นาวารา แบล็ค อิดิชัน ทุกรุ่น เพื่อมอบความแกร่งที่เหนือกว่าโดยไม่ทิ้งความสะดวกสบายและปลอดภัย โดยมีกำหนดเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 เม.ย.นี้

‘มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต’ขับเคลื่อน 2 ล้อ รุ่นใหม่ มาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ด้วยไฟฟ้า ทำงานควบคู่กับระบบ INC ที่ช่วยควบคุม โดยตัดระบบส่งกำลังไปยังเพลาขับอัตโนมัติ ในขณะที่รถยนต์หยุดนิ่ง และเหยียบเบรกในตำแหน่งเกียร์ ‘D’ ลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์ ส่งผลให้ประหยัดน้ำมันในทุกการขับขี่

เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยเต็มรูปแบบทั้ง ระบบล็อคความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ ซึ่งทำการล็อคความเร็วให้คงที่ตามที่ผู้ขับขี่ตั้งค่าไว้ โดยทำงานร่วมกับเรดาร์ ทำให้ระบบสามารถปรับลดได้จนถึงจุดหยุดนิ่ง หรือเพิ่มความเร็วโดยอัตโนมัติ ตามความเร็วของรถยนต์คันหน้า ช่วยให้คนขับสะดวกสบาย และมั่นใจในความปลอดภัยตลอดการเดินทาง

ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว ซึ่งทำงานร่วมกับเรดาร์ เพื่อตรวจจับระยะห่างจากรถยนต์คันข้างหน้า เพื่อทำการเตือน รวมไปถึงเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรกไปจนถึงชะลอความเร็วโดยอัตโนมัติ เพื่อบรรเทาความเสียหายจากการชน หากระบบพบว่า เข้าใกล้รถยนต์คันหน้ามากเกินไป

นอกจากนี้ ยังมีระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะ เมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว ซึ่งทำงานร่วมกับคลื่นอัลตราโซนิค เพื่อตรวจจับวัตถุด้านหน้า หรือด้านหลัง ซึ่งระบบจะตัดกำลังเครื่องยนต์โดยอัตโนมัติ หากตรวจจับวัตถุ และมีการเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว ทำให้ช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดจากการชนได้ รวมทั้งระบบสัญญานเตือนจุดอับสายตา ที่จะช่วยส่งสัญญานเดือนบนกระจกมองข้างให้ผู้ขับขี่ทราบว่ามีรถอยู่ในจุดอับสายตา ซึ่งไม่สามารถมองเห็นจากกระจกมองข้าง และกล้องมองภาพรอบคัน (Multi Around Monitor) ที่ประมวลภาพแบบ Bird’s Eye View เพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการจอดรถ
‘เลกซัส IS 200t และ IS300h Beastiful’ Lexus IS ใหม่ สง่างามด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่คมเข้มปราดเปรียว สะท้อนความสปอร์ตอย่างแท้จริง มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินไฮบริดขนาด 2.5 ลิตร และเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบขนาด 2.0 ลิตร โฉบเฉี่ยวกับ 3-eye LED Headlamp โค้งรับกับไฟ LED Daytime Running Light คมเข้มด้วยชุดไฟท้ายรูปตัว L ซึ่งจัดเรียงอย่างมีมิติ สร้างมุมมองใหม่ที่บ่งบอกความเป็นผู้นำ

‘LS 600h Human Harmonics’ยนตกรรมสำหรับผู้ที่มองหาความสมบูรณ์แบบ เลกซัส LS ยานยนต์สำหรับผู้บริหารระดับสูง ที่พัฒนาภายใต้ปรัชญาการแสวงหาความสมบูรณ์แบบไม่สิ้นสุด ได้รับการปรับปรุงในรายละเอียดอย่างพิถีพิถัน โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูดุดัน แต่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์เฉพาะภายในของเลกซัส ที่เงียบ ประณีต และหรูหรา

‘RX 200t’ DNA ครอสโอเวอร์หรูขนาดกลาง อาร์เอกซ์… ใช้ชีวิตในแบบที่เป็นคุณ ครอสโอเวอร์ระดับสูงที่ได้รับความไว้วางใจและอยู่ในใจของลูกค้า มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบขนาด 2.0 ลิตรรุ่นใหม่ล่าสุดของเลกซัส สะท้อนบุคลิกที่เหนือกว่าของผู้ครอบครองด้วยภาพลักษณ์สปอร์ต ผสานรูปทรงโดดเด่น ดุดัน เหนือใคร ด้วยความ ลงตัวของเส้นสายที่เชื่อมโยงกันจากด้านหน้าถึงด้านหลังอย่างมีดีไซน์ ทำให้รถดูมีมิติยิ่งขึ้น

ส่วนค่ายใหญ่อย่าง‘โตโยต้า’ นัยว่ามีทีเด็ดบางประการ รอสักครู่จะนำเสนอ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน