กพท. ชี้ แอร์เอเชีย ต้องรายงานภายใน 72 ชม. ไฟลุกเครื่องยนต์ ถือเป็นอุบัติเหตุรุนแรง!
นายจุฬา สุขมานพ ผอ.สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยถึงกรณีที่เครื่องบินของสายการบินแอร์เอเชียเครื่องยนต์ระเบิดระหว่างบินออกจากมัลดีฟส์ มายังดอนเมืองทำให้นักบินต้องขอลงจอดฉุกเฉินด้วยการบินวนกลับไปลงที่สนามบินมัลดีฟส์ เมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า ตามขั้นตอนกฎหมายสายการบินไทยแอร์เอเชียจะต้องแจ้งเหตุที่เกิดขึ้นให้ กพท. รับทราบภายใน 72 ชั่วโมงภายหลังเกิดเหตุ เนื่องจากเป็นสายการบินที่จดทะเบียนในไทย
รวมทั้งต้องแจ้งเหตุที่เกิดขึ้นไปยัง คณะกรรมการการสอบสวนอุบัติเหตุอากาศยาน ภายใต้สังกัดกระทรวงคมนาคม ซึ่งมี พล.ต.อ. วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เป็นประธานคณะกรรมการ โดยกรรมการฯ จะต้องตรวจสอบสาเหตุที่เกิดขึ้นว่าเกิดจากอะไรซึ่งคงต้องใช้ระยะเวลา จากนั้น คณะกรรมการฯ จะนำเสนอสาเหตุของเหตุการณ์ดังกล่าว มาให้ กพท. หากพบว่าเหตุเกิดจาก คน หรือ เกิดจากปัญหาเครื่องยนต์ หรือการซ่อมบำรุง กพท. จึงจะสามารถออกคำสั่งให้สายการบินแก้ไขและปรับปรุงในจุดที่เป็นปัญหาได้
“ขณะนี้ กพท. ยังไม่ได้รับรายงานเหตุการณ์จากไทยแอร์เอเชีย แต่ตามกฎหมายต้องแจ้งมาภายใน 72 ชั่วโมง เท่าที่ดูเหตุการณ์เบื้องต้นถือว่าเป็นอุบัติการณ์ที่รุนแรง ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่วนสาเหตุต้องรอผลสอบสวน คณะกรรมการก่อน ตอนนี้ กพท. ยังไม่สามารถสั่งการอะไรได้”
รายงานข่าวจาก กพท.กล่าวว่า จากการดูหลักการปฏิบัติของนักบินสายการบินดังกล่าวเบื้องต้นพบว่ามีการปฏิบัติตามกฎความปลอดภัยได้ดี เพราะมีการทำตามขั้นตอนมาตรฐานความลปอดภัย ด้วยการดับเครื่องยนต์หลังเครื่องยนต์ระเบิด 1 เครื่อง และตัดสินใจบินกลับมายังสนามบินที่ใกล้ที่สุดในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามหลักการฝึกอบรมที่นักบินได้อบรมมาเรื่องเกี่ยวกับการเผชิญเหตุเมื่อเครื่องยนต์สามารถทำงานได้เพียงเครื่องเดียว
