ตร.นครศรีธรรมราช ลั่นเอาผิดครูผู้ช่วย ทุบเด็กหญิงวัย 2 ขวบเศษ เผยกล้องวงจรปิดหลักฐานชัดทำร้ายน.ร.อนุบาล ชี้ผิดตามพ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก แม้ตกลงกับผู้เสียหายได้ ก็ต้องดำเนินคดี ส่วนโรงเรียนอนุบาลเอกชนชื่อดัง ถ้าเข้าข่ายเพิกเฉย อาจมีความผิดด้วย ขอเวลาสอบปากคำ ผู้ถูกกล่าวหาและโรงเรียนก่อน ยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
จากกรณีผู้ปกครองเด็กเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.นครศรีธรรม ราช ให้ดำเนินคดีครูผู้ช่วยโรงเรียนเตรียมอนุบาลชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัด ที่ทำร้ายลูกสาววัย 2 ขวบ 4 เดือน ซึ่งเป็นนักเรียนชั้นอนุบาลจนมีรอยฟกซ้ำไปทั้งตัว โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ทางโรงเรียนไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ อ้างเพียงว่าได้ไล่ครูที่ก่อเหตุออกจากโรงเรียนไปแล้วตามข่าว
ล่าสุดวันที่ 26 เม.ย. พ.ต.อ.อดิศักดิ์ เทพวรรณ์ ผกก.สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยความคืบหน้าของคดีว่า คดีนี้ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดอย่างละเอียดแล้ว พบว่ามีการทำร้ายเด็กจริง และเหตุการณ์เกิดขึ้นนานกว่า 30 นาที เบื้องต้นทางโรงเรียนได้ให้ครูผู้ช่วยรายนี้ออกไปแล้ว และได้ออกหมายเรียกเพื่อเรียกตัวครูรายนี้เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งวันที่ 27 เม.ย. ครูคนดังกล่าวมาตามหมายเรียก
“สำหรับคดีครูผู้ช่วยทำร้ายเด็กอนุบาลนั้นเป็นคดีที่ยอมความกันไม่ได้ แม้ผู้เสียหายจะยินยอมกับคู่กรณี แต่ในทางกฎหมายผู้กระทำผิดต้องถูกดำเนินคดีตามกระบวนการของกฎหมาย ตามพ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฯ ซึ่งพยานหลักฐานนั้นมีความชัดเจนมาก ส่วนข้อกล่าวหาเบื้องต้นจะแจ้งข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกาย ในส่วนของโรงเรียนนั้นจะสอบสวนเพิ่มเติมด้วย เพราะเหตุเกิดในโรงเรียนแต่ยังเพิกเฉย ซึ่งต้องดูว่าเข้าข่ายผิดด้วยหรือไม่” พ.ต.อ.อดิศักดิ์กล่าว
พ.ต.อ.อดิศักดิ์กล่าวอีกว่า พนักงานสอบสวนได้สอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดเป็นไปตามที่เห็นอย่างชัดเจน ตอนนี้รอเพียงผู้ถูกกล่าวหาตามหมายเรียกมาให้ปากคำ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาจะได้เร่งรัดคดีนี้ ซึ่งมีความผิดทั้งจำทั้งปรับ เป็นคดีที่ไม่สลับซับซ้อน ตำรวจไม่มีความหนักใจ แต่จะให้ความเป็นธรรมทั้งผู้กล่าวหาและผู้ถูกกล่าวหาต่อไป
สำหรับเหตุการณ์ครูผู้ช่วยทำร้ายนักเรียนอนุบาลครั้งนี้ เกิดขึ้นโรงเรียนเตรียมอนุบาลเอกชนชื่อดัง และมีค่าเทอมแพง ผู้ปกครองไปรับลูกกลับบ้านแล้วพบว่า เด็กอยู่ในอาการหวาดผวาอย่างหนัก และร้องไห้สะอึกสะอื้นตลอดเวลา พอถึงบ้านปรากฏว่าตามร่างกายแขนขาเต็มไปด้วยรอยช้ำทั้งตัว เหมือนกับถูกทำร้าย จึงรีบติดต่อกับโรงเรียน ครั้งแรกทางโรงเรียนยืนยันว่าไม่ทราบว่ามีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น และจะตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดให้
เมื่อได้รับภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วจึงได้นำไปเป็นหลักฐานแจ้งความดำเนินคดี ภาพจากกล้องพบว่า เด็กถูกครูผู้ช่วยคนหนึ่งทำร้ายอย่างต่อเนื่องในขณะช่วงนอนกลางวัน ทั้งบีบ หยิก กระชากอย่างรุนแรง โดยบันทึกไว้ตั้งแต่เวลา 11.30-12.20 น. โดยเด็กถูกกระทำรุนแรงเป็นเวลารวมเกือบ 50 นาที
ผู้ปกครองเด็กเปิดเผยว่า ภาพวงจรปิดหลังจากนั้น ลูกสาวของตนอยู่ในอาการหวาดกลัวและวิ่งหนีครูผู้ช่วยคนนี้ไปรอบห้องเรียน และขณะเกิดเหตุในห้องเรียนมีครูประจำชั้นและครูผู้ช่วยรวม 3 คนอยู่ด้วย แต่ไม่มีการห้ามปรามหรือช่วยเหลือลูกสาวของตนแต่อย่างใด เมื่อสอบถามถึงมาตรการดูแลเด็ก ก็ไม่ได้มีความรับผิดชอบดูแลใดๆ อ้างเพียงว่าได้ไล่ครูคนที่ทำร้ายออกไปแล้ว
ผู้ปกครองของเด็กยังกล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุการณ์ทางโรงเรียนก็ไม่ได้ถามไถ่เรื่องผลกระทบที่เกิดขึ้นกับลูกสาวของตนที่อยู่ในสภาพอารมณ์เปลี่ยนไป ลูกบอกไม่อยากออกจากบ้านไปโรงเรียน ซึ่งมันสะเทือนใจมาก ในที่สุดทางโรงเรียนยินดีจะคืนเงินค่าเทอมกว่า 14,000 บาท และค่าเรียนซัมเมอร์แคมป์คือช่วงเดือนเม.ย.อีกราว 2,000 บาทให้ และพยายามที่จะเจรจาให้ลูกเรียนต่อไป ซึ่งเป็นไปไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
