ครอบครัว รักจงเจริญ ทำพิธีกะเหรี่ยงดั้งเดิม พาบิลลี่กลับบ้าน หลังดีเอสไอยืนยันเสียชีวิตแล้ว

วันที่ 28 ม.ค. ที่บ้านบางกลอย ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ครอบครัวนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ นำโดย น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ ภรรยาบิลลี่ พร้อมลูกๆ และ เครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมเขตงานตะนาวศรี ทำพิธีพาบิลลี่กลับบ้าน ซึ่งเป็นพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศล ให้กับนายพอละจี หลังกรมสอบสวนคดีพิเศษ ออกมายืนยันแล้วว่า บิลลี่ ได้เสียชีวิตลงแล้ว หลังหายตัวไป เมื่อวันที่ 17 เม.ย.2557 ที่ผ่านมา

โดยในงานมีการทำพิธีตามความเชื่อของชาวกะเหรี่ยงดั้งเดิม ที่ระบุว่าหากทราบแน่ชัดแล้วว่าบุคคลนั้นเสียชีวิต ต้องจัดทำพิธีศพให้ถูกต้องตามจารีตประเพณี แม้ไม่พบร่างหรือไม่มีอัฐิ ซึ่งในงานได้ใช้เสื้อผ้าของบิลลี่ มาประกอบพิธีแทน พร้อมสานนกเงิน นกทอง และบ้านหลังเล็กสองหลัง ไว้ประกอบพิธีกรรม ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าจะพาบิลลี่เดินทางไปอีกภพหนึ่ง

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

พร้อมกันนี้ในยังมีพิธีพุทธ โดยครอบครัวนิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธีสวดบังสุกุลมาติกา ให้กับบิลลี่ พร้อมกับประกอบพิธีกรรมทางศาสนาคริสต์ด้วย

หลังพิธีทำบุญ ชาวบ้านได้ล้อมวงเสวนาเรื่อง “ความกังวลของชาวบ้านต่อการขึ้นทะเบียนกลุ่มป่าแก่งกระจานเป็นมรดกโลก พร้อมกับออกแถลงการณ์ จากชุมชนชนเผ่าพื้นเมืองในพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจาน ต่อการขึ้นทะเบียนมรดกโลกทางธรรมชาติ” ใจความระบุว่า ตามที่รัฐบาลไทยพยายามขอขึ้นทะเบียนพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจานเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ และตั้งเป้าหมายให้สำเร็จภายในปี 2563 ทำให้ชุมชนกะเหรี่ยงที่อาศัย และทำกินในพื้นที่กังวลว่าจะส่งผลกระทบกับวิถีชีวิตดั้งเดิมของชุมชน โดยเฉพาะรูปแบบการทำไร่หมุนเวียน

ที่ผ่านมาคณะกรรมการมรดกโลก มีมติไม่รับรองกลุ่มป่าแก่งกระจานเป็นมรดกโลก และให้รัฐบาลไทยกลับไปดำเนินการแก้ไขปัญหาตามคำแนะนำของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ และข้อเรียกร้องของชุมชน

ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลไทยยังไม่แก้ไขปัญหาตามที่ได้รับคำแนะนำ ที่ประชุม ซึ่งประกอบด้วย ผู้แทนชุมชนจากพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทประจัน อุทยานแห่งชาติกุยบุรี และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มแม่น้ำภาชี มีมติร่วมกันว่ายังไม่ควรขอขึ้นทะเบียนมรดกโลก จนกว่าจะมีการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง และมีข้อเรียกร้อง ดังนี้

1.รัฐต้องฟื้นฟูวิถีชาวกะเหรี่ยงดั้งเดิม ตามแนวทางที่ระบุไว้ในมติครม. 3 สิงหาคม 2553 ว่าด้วยการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยง

2.รัฐต้องยอมรับรูปแบบการจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีส่วนร่วมระหว่างรัฐกับชุมชน

3.รัฐต้องแสดงความจริงใจในการดำเนินคดี การเสียชีวิตของ บิลลี่ โดยนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย

ทั้งนี้หลังการเสวนากลุ่มชาวบ้านได้รวมตัวแสดงพลังในประเด็นมรดกโลก พร้อมชูป้ายเรียกร้องให้ชาวบ้านมีส่วนร่วมมากกว่าที่เป็นอยู่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน