เริ่มมีความหวัง! สหรัฐฯทดสอบวัคซีนต้านไวรัส โควิด-19 เป็นครั้งแรกในคนแล้ว เผยวัคซีนคือ mRNA-1273 คาดอาจต้องใช้เวลาถึง 1 ปีถึง 1 ปีครึ่ง ก่อนนำออกมาใช้ได้

โควิด-19 / เมื่อวันที่ 17 มี.ค. เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสหรัฐอเมริกา ออกมาเปิดเผย เมื่อวันที่ 16 มี.ค. ที่ผ่านมาว่า การทดสอบเพื่อประเมินประสิทธิภาพของวัคซีนป้องกันโควิด-19 ตัวหนึ่งได้เริ่มต้นทดลองกับมนุษย์เป็นครั้งแรกแล้วในวันเดียวกันนี้ นับเป็นการเพิ่มความหวังให้กับมนุษยชาติ ในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นี้

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

รายงานระบุว่า อย่างไรก็ตามการทดสอบดังกล่าวอาจต้องใช้เวลาถึง 1 ปี ถึง 1 ปีครึ่ง ก่อนที่วัคซีนดังกล่าวจะสามารถนำออกใช้ได้ เนื่องจากต้องผ่านการทดสอบเพื่อพิสูจน์ว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อไวรัสและมีความปลอดภัย

วัคซีนดังกล่าวคือ mRNA-1273 พัฒนาขึ้นโดย สถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (เอ็นไอเอช) ร่วมกับบริษัทด้านไบโอเทคโนโลยีอย่าง โมเดอร์นา ที่มีสำนักงานอยู่ในรัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา

โดยรายงานระบุว่าการทดลองดังกล่าวจะทำกับอาสาสมัครผู้ใหญ่สุขภาพดีจำนวน 45 คน อายุระหว่าง 18-55 ปี ในช่วงเวลา 6 สัปดาห์ โดยผู้เข้าร่วมทดสอบรายแรกจะได้รับวัคซีนในวันเดียวกันนี้ โดยการทดสอบดังกล่าวได้รับงบประมาณสนับสนุนจากกลุ่มพันธมิตร ความร่วมมือด้านนวัตกรรมเพื่อรับมือโรคระบาด (CEPI) ที่มีสำนักงานอยู่ในกรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์

ทั้งนี้เวลานี้ยังไม่มีวัคซีนป้องกันหรือวิธีรักษาโรคปอดอักเสบจากไวรัสโควิด-19 ซึ่งเวลานี้ติดเชื้อประชากรโลกไปแล้ว 175,000 คน เสียชีวิตแล้วกว่า 7,000 ราย หลังจากแพร่ระบาด โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ในประเทศจีนตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน