ขุดศพ “สามเณรปลื้ม” ถูกฆ่าฝังดิน ไว้ในวัดดังเมืองนครศรีธรรมราชแล้ว หลังรวบตัวพระ-เณร ที่ก่อเหตุฆ่าฝังสอบสวนจนยอมรับสารภาพว่าร่วมกับสามเณรอีกรูปก่อเหตุ ใช้ท่อพีวีซี ทุบจนสาหัส พอมรณภาพแล้วจึงนำใส่ถังพลาสติก 200 ลิตรฝังไว้ใต้ต้นตะเคียนแล้วโบกปูนทับ จากนั้นเอาพระพุทธรูปมาวางไว้ให้คนกราบไหว้ ก่อนจะมาขอบวชเพื่อ ล้างบาป เหตุเกิดตั้งแต่ต้นเดือนม.ค. ส่วนสาเหตุสังหารอ้างแค้นถูกลักทรัพย์ทั้งเงินสด สร้อยคอ พระเครื่องกว่า 5 หมื่นบาท ด้านพ่อและลุงไม่เชื่อเป็นขโมย น่าจะมีความขัดแย้งเรื่องที่คนร้ายเป็นมาเฟียที่จอดรถ ขณะที่ตร.แถลงจับแล้ว 5 เป็นเณร 2 รูป เชื่อยังมี ทีมสังหารเหลืออยู่ สั่งตามล่าจับให้ได้ (วิญญาณเฮี้ยน!! ขนหัวลุก‘สามเณร’ถูกฆ่าปรากฏร่างให้เห็น-ชี้จุดคลี่คดีโบกปูนฝังใต้ฐานพระ(คลิป))

จากกรณีชาวบ้านร้องเรียนผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ว่ามีสามเณรวัย 17 หาย ตัวไปจากวัดวังตะวันตก ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช หายตัวไปหลายเดือน โดยไม่สามารถติดตามตัวได้ ขณะที่เจ้าหน้าที่สอบสวนบุคคล 5 คน 1 ในนั้นมีพระสงฆ์ของวัดวังตะวันตกด้วย ซึ่งยอมรับว่าเป็นคนลงมือฆ่าเณรปลื้ม แล้วเอาศพไปฝังใต้ต้นตะเคียนภายในวัด แล้วจึงมาขอบวช ทั้งนี้พบว่าพระรูปดังกล่าวก่อนบวช ทำหน้าที่เก็บค่าจอดรถของวัด และเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 มิ.ย. ที่วัดวังตะวันตก อ.เมือง จ.นครศรี ธรรมราช พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผบช.ภาค 8 พร้อมพล.ต.ต.วันชัย เอกพรพิชญ์ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช และหน่วยกู้ภัยนคร ปิดกั้นบริเวณจุดที่ฝังศพสามเณรปลื้ม หรือสามเณรศุภโชค เอกเกียรติกุล อายุ 17 ปี เพื่อเตรียม ที่จะขุดศพขึ้นมาชันสูตร โดยก่อนจะขุดศพ จนท.นำตัวสองผู้ต้องหาคือ นายเด่นชัย ภูมินิยม อายุ 36 ปี บ้านเลขที่ 4/1ม.3 ต.นา ทราย อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช หรืออดีตพระเด่นชัย และนายสุริยา กุศลสุข อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84/2ม.2 ต.ท่าปะจะ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช หรือสามเณรสุริยา มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพด้วย

สอบสวนผู้ต้องหา ให้การว่าในคืนวัน เกิดเหตุคือวันที่ 5 ม.ค. นำตัวสามเณร ปลื้มเข้าไปใต้หอไตรอินทสุวรรณ ซึ่งเป็นสำนักงานของวัด จากนั้นใช้ท่อพีวีซีทุบตีสามเณรปลื้มจนบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะนำขึ้นรถกระบะเพื่อไปยังวัดแห่งหนึ่งที่ อ.ลานสกา แต่ระหว่างทางสามเณรปลื้ม มรณภาพ จึงนำศพใส่ถังพลาสติกสีน้ำเงินขนาด 200 ลิตรแล้วนำกลับมาที่วัด ก่อนจะลากศพไปในหลุมที่ช่วยกันขุดแล้วเอาแผ่นพื้นปูนโยนทับแผ่นเหล็กอีกชั้นหนึ่ง จากนั้นช่วยกันผสมปูน ซีเมนต์และเทปูนลงไปในหลุมจนมิดร่างของสามเณรปลื้ม

หลังจากเทพื้นเสร็จก็ได้นำพระพุทธรูปมาวางไว้ด้านบนของหลุมฝังศพสามเณรปลื้ม และนายเด่นชัยก็บวชเป็นพระในวันที่ 26 ม.ค. อ้างว่าเพื่อเป็นการชดใช้ความผิด ซึ่งหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพ จนท. นำพระเด่นชัยและสามเณรสุริยา มาขอขมาต่อหน้าหลุมฝังศพของสามเณรปลื้มด้วย ส่วนสาเหตุที่ลงมือฆ่านั้น อ้างว่าสามเณรปลื้ม ลักทรัพย์งินสด 5 หมื่น สร้อยคอ และพระเครื่องจำนวนหนึ่ง

จากนั้น จนท.ขุดศพสามเณรปลื้มโดยใช้เวลาประมาณกว่า 2 ช.ม. จึงนำศพขึ้นมาได้ โดยอยู่ในสภาพนอนตะแคงยังมีหนังติดกระดูก ผู้ตายสวมใส่ชุดเสื้อผ้ากีฬาทีมฟุต บอลเชลซี กางเกงขาสั้น โดยจะส่งไปชันสูตรอย่างละเอียดที่ศูนย์นิติเวช โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีต่อไป

พระครูใบฎีกาสราวุฒิ วชิรญาโณ พระ วัดวังไทร ต.โลน อ.ลานสกา ญาติของสามเณรปลื้ม เปิดเผยว่า สามเณรปลื้มบวชเมื่อเดือนเม.ย.58 ที่วัดวังไทร อ.ลานสกา เป็นคนที่ชอบเรื่องของรำมโนห์รามากและจะนับถือเจ้าอาวาสวัดวังไทรที่บวชให้มาก มีปัญหาอะไรก็จะโทร.ไปหาตลอด อย่างเรื่องที่เกิดขึ้นก็โทร.มาบอกว่าถูกกล่าวหาว่าขโมยเงินของพระเด่นชัย ซึ่งพระอาจารย์ก็บอกว่าหากขโมยจริงก็ให้ไปคืน แต่สามเณรปลื้มบอกว่าไม่ได้ขโมย และหลังจากนั้นก็หายเงียบไปไม่ติดต่อพระอาจารย์อีกเลย เฟซบุ๊กของสามเณรปลื้ม ก็เล่นล่าสุดเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.59 จากนั้นก็หายเงียบไปเพราะปกติจะติดต่อกับอาตมาทางเฟซบ่อย กระทั่งไม่กี่วันที่ผ่านมา พระอาจารย์พูดขึ้นมาลอยๆ ว่า สามเณรปลื้มหายไปเลยสงสัยถูกฆ่าตาย เสียแล้ว ถ้าตายจริงก็ช่วยดลจิตดลใจให้ คนกระทำได้รับกรรมด้วยเถอะ และจากนั้นไม่กี่วันตำรวจก็เข้ามาดำเนินการ

พระครูใบฎีกาสราวุฒิ กล่าวว่า สามเณรปลื้มเป็นคนที่น่าสงสาร พ่อทำงานอยู่ที่กาฬสินธุ์ ส่วนแม่ทำงานอยู่ที่พัทยา สามเณรเป็นเด็กเรียบร้อย ชอบมโนห์รา ไม่ชอบเรียนหนังสือ และเมื่อมาบวชก็ชอบในการศึกษาพระธรรมวินัย ไม่น่าจะมาพบจุดจบแบบนี้

ต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น.ที่บก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช พล.ต.ท.เทศา แถลงว่า ตำรวจจับกุมคนร้ายทั้งหมด 5 คน คือ พระเด่นชัย สามเณรสุริยา และน.ส.ปิยฉัตร อรุณสกุล อายุ 40 ปี หรือ นส.บิว ซึ่งเป็นแฟนกับพระเด่นชัย และมีสามเณรอีก 1 รูป และฆราวาสอีก 1 คน โดยเบื้องต้นพระเด่นชัย กับสามเณรสุริยารับสารภาพ ส่วน น.ส.บิว ปฏิเสธ อีก 2 คนกันไว้เป็นพยาน อย่างไรก็ตามคาดว่าคนร้ายน่าจะมีมากกว่า 5 คน โดยน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 10 คน ซึ่งที่เหลือจะติดตามจับกุมต่อไป เพราะถือว่าเป็นคดีอุกฉกรรจ์และสะเทือนขวัญเป็นอย่างมากที่ก่อเหตุในวัด

ที่ศูนย์นิติเวชโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่มูลนิธิประชาร่วมใจ นครศรี ธรรมราช พร้อมพ่อและลุงของสามเณรปลื้ม เดินทางนำศพสามเณรปลื้ม ส่งตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุการตายโดยจะผ่าชันสูตรในวันที่ 3 มิ.ย.

โดยนายชวน เอกเกียรติกุล อายุ 42 ปี พ่อของสามเณรปลื้มผู้ตาย เปิดเผยว่า ตนเองมีอาชีพรับจ้างอยู่ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ และจะติดต่อกับเณรตลอด และก็เล่าว่ามีปัญหากับพระรูปหนึ่งที่บวชอยู่ที่วัดแต่ไม่ได้บอกว่าเป็นเรื่องอะไร แต่ช่วงเดือนม.ค.ที่ผ่านมา โทร.ไปหาเณร แต่เป็นเสียงผู้อื่นมารับและได้บอกว่า เณรปลื้มออกไปทำธุระข้างนอก และหลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อกับลูกได้อีก จนมาทราบเรื่องเมื่อวานว่าเณรถูกฆ่าเสียชีวิตจึงรีบเดินทางมาจาก จ.กาฬสินธุ์ ตอนนี้เมื่อเห็นสภาพของลูกยังรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงอยากจะวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมคนร้ายทั้งหมดที่ร่วมก่อเหตุมาลงโทษโดยเร็วเนื่องจากสามเณรปลื้มเป็นลูกชายคนเดียว

นายมีชัย เอกเกียรติกุล อายุ 44 ปี ลุงแท้ๆ ของสามเณรปลื้ม เปิดเผยว่า ตนเองไม่ปักใจเชื่อที่สามเณรปลื้มจะเป็นคนลักขโมย แต่จะเป็นคนที่พูดจาโผงผาง และตรงไปตรงมา และเชื่อว่าหลานคงจะไปรับรู้เรื่องอะไรบางอย่างภายในวัด หรือมีเรื่องขัดผลประโยชน์กันจนเป็นเหตุให้สร้างความไม่พอใจและลงมือก่อเหตุดังกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน