จากกรณี สน.หลักสอง รับแจ้งเหตุกลุ่มชายฉกรรจ์ 11 คน ขับรถหรูปอร์เช่ สีเหลือง ป้ายแดง เลขทะเบียน ล 7195 กรุงเทพฯ บุกยิงถล่มคู่อริถึงบ้านพัก ซอยพุทธมณฑล สาย 2 แยก 11 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กทม. ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

คืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Win Athip ซึ่งเป็นผู้ที่ขับเช่าปอร์เช่และขับไปที่บ้านดังกล่าววันเกิดเหตุ ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า ขอโทษพี่ๆนักข่าวและพี่ๆตำรวจ สน.หลักสอง ด้วยครับ ผมตั้งใจไปจริงๆนะครับ แต่ว่าทางผมยังไม่มั่นใจที่จะออกจากเซฟเฮ้าจริงๆเพราะว่าหลังเกิดเหตุ 1 วัน ยังมีการโดนประกบยิง และ ข่มขู่ ปั่นป่วน ทางโซเชี่ยล วันนี้ผมจะอัดคลิปวีดีโอแถลง ให้พี่ๆ นักข่าว ถีงเรื่องต้นตอ เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ และหลักฐานทั้งหมดที่ผมมี จะเล่ารายละเอียดเป็นขั้นเป็นตอนนะครับ ขอบคุณจริงๆครับ ขอโทษที่ผิดนัดด้วยครับพี่ๆสำนักข่าวทุกช่อง #วิน อธิป ขวัญบุญครับ (ตรีเพชร)

ต่อมาเมื่อเวลา 14.54 น. นายอธิป หรือวิน ขวัญบุญ อายุ 23 ปี ได้ระบายความในใจอัดคลิปลงเฟซบุ๊กส่วนตัวโดยมีข้อความระบุประมาณว่า ก่อนอื่นต้องขอโทษ ซึ่งในวันนี้ตนยังไม่ได้เดินทางไปให้ปากคำกับทางพนักงานสอบสวน สน.หลักสอง และไม่ได้เจอกับสื่อมวลชนจากหลายสำนัก เนื่องจากตนยังถูกข่มขู่ ปั่นป่วนอยู่บนเฟซบุ๊ก ซึ่งหลังจากวันเกิดเหตุเพียง 1 วัน ในเวลา 18.00 น. ตนยังถูกรถจักรยานยนต์ขี่ไล่ยิงย่านถนนวุฒากาศตัดถนนสาธร

นอกจากนี้เมื่อเวลา 11.00 น. ไปจนถึง 13.00 น. ของวันที่ 2 ส.ค. ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.หลักสอง ได้เข้าไปตรวจค้นที่บ้านพักตนตั้งอยู่เลขที่ 73 ซอย 6 หมู่บ้านกลางเมืองสาขา สาทร-ตากสิน 2 ซึ่งจากการตรวจสอบก็ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแม้แต่อย่างใด ส่วนเรื่องการยิงบ้านเศรษฐีนั้นก็ไม่ได้มีการยิงจริงๆ ซึ่งในบ้านก็ไม่มีหลักฐานปรากฏ แต่รถตนกลับมีกระสุนเต็มไปหมด ทั้งนี้ตนขอยืนยันอีกครั้งว่าไม่มีการยิงและไม่มีอาวุธปืน

นายอธิป กล่าวว่า ส่วนสาเหตุต้นตอที่เสี่ยตี๋ ขับรถบิ๊กฟุตมาพร้อมกับชาย 1 ราย แล้วมาเร่งเครื่องที่หน้าบ้านตนตั้งแต่ช่วงวันที่ 2 หรือ 3 ก.ค. นั้นหากตนมีอาวุธปืนจริงคงจะยิงเสี่ยตั้งแต่วันนั้นแล้ว สำหรับตนนั้นมีอาชีพจำหน่ายถุงมือไนไตร (ถุงมือยาง) ก็มีคนแจ้งจับที่ สน.ลุมพินี โดยอ้างว่าเป็นสินค้าปลอม แต่ตนก็ชี้แจงกับทางเจ้าหน้าที่เป็นที่เรียบร้อยแล้วและแสดงสินค้าว่าเป็นของจริง ซึ่งครั้งนั้นตนก็มีปากเสียงกับลูกค้า และไม่ทราบว่าเสี่ยตี๋มายุ่งอะไรกับเรื่องนี้ เพราะลูกค้าไม่ใช่เสียตี๋ และลูกค้าตนก็ผ่านมาจากนายหน้าอีกหลายทอด

นายอธิป กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีนายพันธ์ยศ อัครอมรพงศ์ ก่อนหน้านี้ตนก็ถูกยึดสินค้าซึ่งมีมูลค่าหลักล้านบาท เนื่องจากตนไปฝากสินค้าที่บ้านนายพันธ์ยศ แล้วจู่ๆก็ยึดไปทั้งหมด นอกจากนี้ตนเปิดรับสมัครพนักงานใหม่แล้วโทรศัพท์ ยี่ห้อหัวเว่ย รุ่นเมท 20 โปรก็หายไป จนกระทั่งเมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ตนได้เช็คโลเคชั่นกลับพบว่าไปอยู่ที่บริษัทนายพันธ์ยศ แต่เมื่อตนสอบถามนายพันธ์ยศ กลับให้ข้อมูลว่าไม่ได้เอาไปแต่ตนมีหลักฐานครบอยู่ ส่วนเรื่องผู้หญิงชื่อกล้วยที่อยู่กับเสี่ยตี๋นั้นเคยมาทำงานที่บ้านตน อีกทั้งเคยด่าทอพร้อมต่อว่าตน และข่มขู่ตนผ่านทางเฟซบุ๊ก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน