สะท้อนรัฐจัดการเหลว ชาวบางกลอย หนีกลับใจแผ่นดิน สุดทนอยู่มา 25 ปี ไร้ที่ทำกิน อุทยานฯส่งทีมติดตาม 4 ชุด กำชับให้จัดการด้วยความละมุนละม่อม
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
วันที่ 15 ม.ค.64 มีรายงานข่าวจาก อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ว่าชาวบ้านบางกลอยล่างกลุ่มหนึ่ง ซึ่งยังไม่ทราบจำนวนที่แน่นอน พากันเดินทางเท้ากลับขึ้นไปยังหมู่บ้านบางกลอยบน ที่อยู่ในป่าใหญ่ใจแผ่นดิน ภายหลังจากชาวบ้านบางกลอย ทั้งหมู่บ้านถูกอพยพลงมาตั้งแต่ปี 2539 แต่อยู่ไม่ได้เพราะไม่มีที่ทำกินและหนีกลับขึ้นไปอยู่บ้านเดิม จนกระทั่งอุทยานฯได้ใช้ยุทธการตะนาวศรีเผากระท่อมและยุ้งข้าวของชาวบ้านเมื่อปี 2554 และกดดันให้ชาวบ้านย้ายลงมาอยู่หมู่บ้านบางกลอยล่าง-โป่งลึก
- กะเหรี่ยงบางกลอย ยื่น 3 ข้อ กก.มรดกโลก จี้แก้ปัญหา ก่อนขึ้นทะเบียนกลุ่มป่าแก่งกระจาน
- อุทยานฯ ยอมถอย ถอนฟ้อง กะเหรี่ยงบางกลอยรุกป่า ชาวบ้านร้อง แก้ปัญหาที่ทำกิน
- นักประวัติศาสตร์ชี้ “บางกลอย-ใจแผ่นดิน” มีมาแต่อยุธยา เส้นทางเชื่อมสองคาบสมุทร
นายอภิสิทธิ์ เจริญสุข ชาวบ้านบางกลอย กล่าวว่า ตนติดภารกิจจึงไม่ได้ขึ้นไปด้วย สาเหตุหลักที่ต้องย้ายกลับไปอยู่บ้านเดิมเนื่องจากบริเวณหมู่บ้านบางกลอยล่างไม่มีที่ทำกินเพียงพอทำให้ทุกครอบครัว จนเกิดแรงกดดัน แม้พยายามเรียกร้องให้ภาครัฐเข้ามาแก้ไขปัญหาแต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีการแก้ไขปัญหาใดๆ
ขณะที่แต่ละครอบครัวมีสมาชิกเพิ่มขึ้นทุกวัน ต้องอยู่ก้นอย่างแออัดในบ้านหลังเดียวและไม่มีการจัดการเรื่องสิทธิในที่ดิน ยิ่งตอนนี้มีข่าวว่ารัฐบาลได้ยื่นเสนอให้ป่าแก่งกระจานประกาศเป็นมรดกโลก ทำให้ชาวบ้านยิ่งรู้สึกกดดันและตื่นตัวที่จะขึ้นไปอยู่บ้านเดิม
“ตั้งแต่พวกเราถูกอพยพลงมา ทุกครอบครัวไม่เคยมีความสุข ขนาดพี่น้องของพวกเราคือบิลลี่ถูกอุ้มฆ่าและจับถ่วงน้ำแต่กลับจับตัวฆาตกรไม่ได้ แถมคดีก็กำลังจะเงียบไปแล้ว ตอนนี้อุทยานฯยังออกกฎหมายใหม่ ทำให้ชาวบ้านช่วยเหลือตัวเองแทบไม่ได้”นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายมานะ เพิ่มพูน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กล่าวว่าได้รับรายงานแล้วว่ามีชาวบ้านบางกลอยกลุ่มหนึ่งเดินเท้าขึ้นไปด้านบนป่าใหญ่ตั้งแต่ 5 วันก่อน เบื้องต้นได้รับรายงานว่ามีประมาณ 7 คน ซึ่งยังไม่ทราบเหตุผลชัดเจนว่าขึ้นไปทำไมซึ่งสันนิษฐานไว้ 3 แบบคือ 1.เพื่อเดินข้ามแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน 2.เพื่อขึ้นไปเก็บเกี่ยวพืชผลบางชนิด 3.ขึ้นไปเพื่อแสดงสัญลักษณ์บางประการ
“เราได้ส่งเจ้าหน้าที่ 4 ชุดติดตามไปตั้งแต่เมื่อ 3 วันก่อน ผมกำชับให้ทุกคนปฎิบัติตามกฏหมายด้วยความละมุนละม่อม ถ้าเขายังไม่ได้ทำอะไรผิดกฏหมายก็ให้พาลงมา”นายมานะ กล่าว
หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้เคยขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินตรวจพื้นที่ พบว่ามีการสร้างกระท่อม 1 หลังบริเวณผาใหญ่ซึ่งอยู่ตอนเหนือของหมู่บ้านบางกลอย นอกจากนี้พบการปลูกข้าวจำนวน 10 ไร่บริเวณใกล้ชายแดน โดยทางอุทยานฯมีแผนส่งกำลังเข้าไปตรวจสอบว่ามีเป็นการบุกรุกพื้นที่หรือไม่
สำนักข่าวชายขอบ สัมภาษณ์ นายนิรันดร์ พงษ์เทพ ผู้ใหญ่บ้านบางกลอย ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ซึ่งกล่าวในเรื่องนี้ว่า ทราบว่ามีชาวบ้านเดินทางไปกันร่วม 30-40 คน ทำให้หมู่บ้านบางกลอยล่างบางหลังร้าง เพราะไปกันยกครอบครัว แม้แต่ลูกเล็กเด็กแดงก็หอบกันไปด้วย โดยตนเข้าใจว่าคงตั้งใจไปปักหลักลงฐานในพื้นที่เก่าที่พวกเขาเคยทำมาหากินกันตั้งแต่บรรพบุรุษ
“อยู่ที่นี่เขาก็อดตาย ยิ่งโควิดระบาดรอบสอง มีกลุ่มเยาวชนกลับกันมาเยอะ เพราะตกงานจากในเมือง ถ้าเขาอยู่เฉยๆ ก็อดตาย ขณะที่ชาวบ้านเดิมก็ไม่รู้ทำอะไรเพราะแทบไม่มีที่ดินทำกิน ผมไม่ระแคะระคายมาก่อนเลยว่าพวกเขาจะขึ้นไป ถ้าเข้าหูผมก็ต้องห้าม เขาเลยทำกันเงียบๆ เพราะกลัวข่าวหลุด ตอนนี้รู้สึกเป็นห่วงมาก เพราะอุทยานฯ ก็ส่งเจ้าหน้าที่ขึ้นไปตามหลายชุดแล้ว แต่เชื่อว่าอุทยานฯ คงไม่ทำอะไรเกินอำนาจหน้าที่หรอก ผมอยากให้ผู้หลักผู้ใหญ่ลงมาแก้ไขปัญหาจริงๆ จังๆ ไม่ใช่แก้นิดๆ หน่อยๆ แล้วไปประกาศว่าแก้ไขแล้ว” ผู้ใหญ่บ้านกล่าว